[update] สายเรือ Maersk ประกาศลดสัญญาจองเรือระยะสั้น และ spot เป็นการชั่วคราว

ผลกระทบจากเรือที่ขวางคลองสุเอซ เริ่มมีให้เห็นกันแล้ว

โดยล่าสุดทางสายเรือ Maersk ก็ตัดสินใจ ประกาศลดสัญญาจองเรือระยะสั้น และ spot เป็นการชั่วคราว ในหลายๆ เส้นทางไปแล้ว

เรื่องนี้เป็นมาเป็นไปอย่างไร และ ผู้นำเข้า ส่งออก ควรรับมืออย่างไร

หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย

=========================

นำเข้า “ความรู้” ส่งออก “ความคิด” ติดตาม

“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”

=========================

1) เนื่องจากสถานการณ์เรือยักษ์ Ever Given ขวางคลองสุเอซไป 6 วัน ทำให้เรือต้องไปต่อคิวรอกันมากกว่า 300 ลำ และล่าสุดผ่านมา 1 สัปดาห์ ก็เคลียร์เรือผ่านคลองกัน น่าจะเคลียร์หมดประมาณช่วงสัปดาห์นี้

2) ทาง Maersk สายเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็ได้รับผลกระทบอย่างมาก โดย กำลังการขนส่ง ลดลงกว่า 30% และจะส่งผลต่อเนื่องไปหลายสัปดาห์ ซึ่งแน่นอนว่า จะเกิดสภาวะ ทั้งตู้คอนเทนเนอร์ และเรือขาดแคลนในภูมิภาคเอเชีย

โดย Maersk ก็เคลียร์เรือที่ติดค้างอยู่ในคลองสุเอซ ไปได้มากพอสมควรแล้ว ล่าสุด (วันที่ 5 เมษายน) เหลือตกค้างอีกประมาณหลัก 10 กว่าลำเท่านั้น จากทั้งหมด 70 กว่าลำ โดยมีเรือที่ตัดสินใจไปอ้อมแหลม Good Hope ประมาณ 12 ลำ (ดูรายละเอียดเรือเพิ่มเติมได้ที่ https://www.maersk.com/news/articles/2021/03/24/vessel-blockage-in-the-suez-canal)

3) เพื่อรับมือปัญหาดังกล่าว สายเรือ Maersk ก็เลยตัดสินใจ ลดสัญญาระยะสั้น รวมไปถึง Spot Rate เพราะว่าก็เรือมันดีเลย์ จะส่งได้อย่างไร

4) เฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์ ของประเทศอังกฤษ ให้ข้อมูลว่า เดิมทีทำสัญญา 3 เดือน ไว้กับ Maersk และคิดว่าจะแค่โดนเลื่อนการจองเรือ แต่นี่คือโดนลดสัญญาไปซะอย่างนั้น

5) ทาง Maersk เอง จริงๆ แล้วก็อยากที่จะทำสัญญาระยะยาวกับคู่ค้า (ในราคาค่าขนส่งแพงๆ) อยู่แล้ว โดยทาง Maersk มีการให้ข้อมูลในการแถลงผลประกอบการประจำปี 2020 ที่ผ่านมาว่า ประมาณ 40% ของสัญญารายปี ได้ถูกต่อสัญญาออกไป ด้วยราคาขนส่งที่สูงขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

6) ปีที่แล้ว Maersk ทำกำไรไปมากกว่า 9 หมื่นล้านบาท ด้วยราคาค่าระวางเฉลี่ยสูงกว่า 1000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ TEU ซึ่ง ราคาเฉลี่ยปีนี้ แพงกว่าปีที่แล้วอย่างแน่นอน

7) แต่ก็ต้องบอกว่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ราคาขนส่งมันขึ้นไปสูงมากจริงๆ จนผู้นำเข้า ส่งออก ไม่กล้าที่จะทำสัญญาระยะยาวกับสายเรือ และราคาขนส่งโดยเฉพาะเส้นทางยุโรป เอเชีย ก็ได้มีการปรับตัวลงมาแล้ว ประมาณ 12% จากจุดสูงสุดในเดือน กุมภาพันธ์

8) สำหรับผู้นำเข้า ส่งออก พอเจอ Maersk ปฏิเสธแบบนี้ คงที่มีปริมาณขนส่งไม่มากพอที่จะทำสัญญาระยะยาว ก็คงต้องวิ่งไปหาสายเรือ อื่นๆ ซึ่งก็มีโอกาส ที่สายเรืออื่นๆ จะปรับราคา Spot Rate เพิ่มขึ้นได้

9) สำหรับเส้นทาง เอเชีย ไปสหรัฐฯ ฝั่งตะวันออก มีเพียง 1 ใน 3 ของปริมาณขนส่งที่ผ่านคลองสุเอซ ดังนั้นก็จะได้รับผลกระทบน้อยกว่ายุโรป แต่ก็ต้องบอกว่ามีโอกาสโดนผลกระทบเป้นลูกโซ่ได้เช่นกัน

10) ที่สำคัญคือ ด้วยนโยบายอัดฉีดกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทำให้ทาง port of Los Angeles ให้ข้อมูลคาดการณ์ว่าความต้องการขนส่งในปีนี้จะเพิ่มสูงถึง 56% ในปีนี้ และ 47% ในปีถัดไป

11) นอกจากนี้เหตุการณ์คลองสุเอซ ก็ยังกระทบวัตถุดิบต้นน้ำและกลางน้ำหลายๆ ส่วน ตัวอย่างเช่น ปัญหาที่ตุรกีกำลังขาดแคลนโพลีเมอร์ และทางยุโรปก็ขาดแคลน PET (โพลีเมอร์ที่ใช้ผลิตขวดน้ำดื่ม) น่าจะลากยาวไปถึงเดือน พฤษภาคม

12) สำหรับผู้นำเข้า ส่งออก แอดมินขอแนะนำ ZUPPORTS เป็น เครื่องมือดิจิตอล ช่วยเหลือ ผู้นำเข้า ส่งออก เหมาะกับเหตุการณ์ตลาดที่ผันผวนแบบนี้

โดย ZUPPORTS ช่วยเปรียบเทียบราคาขนส่ง (Bidding) จอง เครื่องบิน เรือ รถ และติดตามสถานะสินค้า (tracking) ผ่านระบบ web application ง่ายๆ ไม่ต้องลงโปรแกรม

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจาก ZUPPORTS และรับข่าวสารดีๆ แบบนี้ ได้ที่ www.zupports.co/register

——————————–

หากไม่อยากพลาดความรู้ ข่าวสาร ดีๆ กดไลค์เพจ และกด Favorites ในเฟสบุ๊ก กันไว้เลย

และหากบทความมีประโยชน์ ก็กดไลค์โพสและแชร์ให้เพื่อนๆ กัน ได้เลยจ้า

=========================

นำเข้า “ความรู้” ส่งออก “ความคิด” ติดตาม

“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”

=========================

(Ads) ZUPPORTS เราอยากทำให้การขนส่งระหว่างประเทศง่ายเหมือนการ shopping online…ผู้นำเข้า ส่งออก ห้ามพลาด เชิญลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ www.zupports.co/register