[Freight Weekly]: อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 21-25 พฤศจิกายน กับ ZUPPORTS!!!
สัปดาห์แห่งการปิดกล่อง งานขนส่งแบบ Long Haul Service !!!
.
พบกันเหมือนเช่นเคยกับพวกเราชาว ZUPPORTS ในการรายงาน ข่าสาร สถานการณ์ ความเคลื่อนไหนต่าง ๆ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือประจำสัปดาห์ !!!
.
โดยในสัปดาห์นี้เป็นการเข้าสู่สัปดาห์ที่ 48 ประจำปี 2565 ซึ่งถือว่าใกล้เข้ามาทุกขณะกับเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนเฝ้ารอคอยที่จะได้หยุดพัก รวมถึงรอคอยสิ่งที่เป็นขวัญและกำลังใจสำหรับคนทำงาน อย่างโบนัสประจำปี !!!
.
ขณะเดียวกัน ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงที่หลายคนเริ่มที่จะทำการผ่อนเครื่อง สำหรับงานขนส่งหรือ Shipment ขาออกที่ส่งไปยังภูมิภาคทางไกล หรือที่เราเรียกว่างานประเภท Long Haul Service ทั้งหลายที่เรือวิ่งนานเกินกว่า 3- 4สัปดาห์
.
เนื่องจากเวลาที่เหลือ ไม่สามารถขนส่งไปถึงปลายทาง ได้ทันช่วงก่อนหยุดยาวในเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ หากแต่งานที่ใช้ระยะเวลาในการขนส่งไม่นานมาก อย่างในเส้นทาง Intra-Asia Lane หรือ Short Haul Service น่าจะยังพอมีเวลาให้ได้ลุ้นกันจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนธันวาคม ซึ่งแน่นอนว่ายังมีอีกหลายคนที่ใช้ช่วงเวลาที่มีค่านี้ เดินหน้าเก็บตัวเลขต่อไป
.
หากทุกคนพร้อมกันแล้ว ตามพวกเราชาว ZUPPORTS มาไล่เรียง ลงลึกกันทีละประเด็นกันเลย !!!
.
=========================
ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์
สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register
=========================
1) สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือหรือการบุ๊คกิ้ง สภานการณ์ไม่ต่างจากการใส่เสื้อที่ฟิตพอดีตัว!!!
.
เริ่มต้นกันที่สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หรือการบุ๊คกิ้งสำหรับงานใหม่ ในหลายเส้นทางการขนส่งยังสามารถทำการจองได้เรื่อย ๆ ขณะที่หลายเส้นทางเริ่มจองยากขึ้น หากแต่ในบางเส้นทาง มีงานจำนวนไม่น้อยที่จองไม่เข้า
.
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมของการจองเรือสำหรับงานใหม่ ในหลายเส้นทางการขนส่งยังคงอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างเงียบเหงา หลายสายการเดินเรือสามารถรับบุ๊คจองเรือได้ ไม่ยากเย็นนัก เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งยังค่อนข้างอ่อนตัว โดยเฉพาะงานที่ขนส่งออกจากประเทศจีน
.
อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia-North America Trade รวมไปถึงเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia-North Europe Trade หากแต่สิ่งที่น่ากังวล คือการที่รอบเรือที่ให้บริการหุบน้อยลง
.
ขณะที่ในหลายเส้นทาง การจองเรือสำหรับงานใหม่ เริ่มที่จะทำได้ยากขึ้น หลายเส้นทาง ต้องทำการจองเรือล่วงหน้าอย่างน้อย 3 -5 สัปดาห์ อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังเอเชียใต้และตะวันออกกลาง หรือ Asia-Indian Subcontinent & Middle East Trade รวมไปถึงเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาใต้ หรือ Asia-Latin America Trade
.
ภาพรวมการจองเรือในรอบสัปดาห์ ในหลายเส้นทางการขนส่ง การเรือภายใต้การต่อรองค่าระวางระยะสั้น หรือ SPOT Rate Shipment และการจองเรือภายใต้สัญญาค่าระวางระยะยาว หรือ Service Contract Rate มีสัดส่วนอยู่ที่ 60/40 ในขณะที่มีอีกหลายเส้นทางการขนส่ง สัดส่วนของการจองเรือทั้งสองประเภท จะอยู่ในลักษณะที่ก้ำกึ่งกันคือ 50/50
.
เนื่องจากพื้นที่ระวางที่มีจำกัด จากภาวะความถี่ของรอบเรือหดตัวน้อยลง อย่างในเส้นทากงารขนส่งระวห่างภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America Trade ทั้งเที่ยว Eastbound และเที่ยว Westbound
.
ดังนั้น สำหรับผู้ประกอบการที่ยังมีคำสั่งซื้อหรือคนที่ยังมีงานในมือ การวางแผนจองเรือล่วงหน้ายังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นและตระหนักถึงเสมอ !!!
.
*******
2) สถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้า หลายพื้นที่เริ่มประสบปัญหาการหมุนเวียนที่ไม่คล่องตัว!!!
.
ด้านสถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนของตู้สินค้า หลายภูมิภาคทั่วโลกยังไร้ซึ่งปัญหา สามารถจัดหาและหมุนเวียนได้อย่างคล่องตัว ในขณะที่ยังมีอีกหลายภูมิภาคยังคงอยู่ในภาวะขาดแคลน และเริ่มเข้าสู่วิกฤติขึ้นเรื่อย ๆ !!!
.
ภาพรวมของการหมุนเวียนของตู้สินค้าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายภูมิภาคหลักต่าง ๆ ทั่วโลก ยังคงอยู่ในภาวะที่ไม่น่าเป็นห่วง สามารถที่จะบริหารจัดการและจัดหาได้คล่องตัว ทั้งนี้ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งยังคงอยู่ในภาวะเงียบเหงา
.
โดยมีสาเหตุจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่กำลังถดถอย รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะในภูมิภาคที่เป็นตลาดหลักของโลก อย่างภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกาเหนือ
.
ดังนั้นภาวะในการจัดหาและการหมุนเวียนของตู้สินค้าในภูมิภาคที่เป็นฐานการผลิตหลัก อย่างในเอเชีย จะยังคงคล่องตัวและเกินกว่าความต้องการในบางประเทศ
.
ในขณะที่ยังมีอีกหลายภูมิภาคทั่วโลก ที่เข้าสู่ภาวะขาดแคลนตู้สินค้า โดยมีสาเหตุจากรอบเรือขนส่งที่หดน้อยลง จากการปล่อยตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing
.
ในขณะที่บ้านเราเอง หลายสายการเดินเรือยังคงสามารถทำการจัดหาและหมุนเวียนแบบไร้กังวล หากแต่ในบางสายการเดินเรือเริ่มประสบกับปัญหาในการหมุนเวียน เนื่องจากงานในฝั่งขาเข้าเริ่มที่จะขาดช่วงหรือน้อยลง โดยเฉพาะงานที่เป็นขาเข้ามาจากประเทศจีน หรือจากภูมิภาคอื่น ๆ ที่กำลังประสบกับปัญหากับปัญหารอบเรือหุบน้อยลง
.
ส่งผลให้ตู้สินค้าบางประเภทเริ่มที่จะไม่เพียงพอต่อจำนวนบุ๊คกิ้งที่ปล่อยออกมา ดังนั้น การตรวจสอบบุ๊คกิ้งที่ลานเก็บตู้สินค้า ยังเป็นเรื่องที่ต้องทำก่อนจ่ายงานปล่อยรถไปรับตู้สินค้าเปล่าเสมอ
.
*******
3) ด้านสภาวะความนิ่งของตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่ง งานไหนรีบ!!! วางแผนการจองเรือล่วงหน้าหน่อยก็ดี
.
ทางด้านสถานการณ์ของตารางเดินเรือและระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งทางเรือ หลายเส้นทางการขนส่งยังคงอยู่ในภาวะปั่นป่วน ไม่มีความแน่นอน
.
โดยภาพรวมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการรวมถึงคนทำงานยังคงต้องรับมือกับภาวะความไม่แน่นอนของตารางเดินเรือ ทั้งปัญหาความล่าช้าของวันเรือออกและวันเรือถึง หรือ Delay Onboard /Delay Arrival
.
ปัญหาความไม่นิ่งของตารางเดินเรือ ที่เกิดจากการข้าม ไม่เข้าบางท่าเรือ หรือ OMIT/ SKIP Call Port รวมถึงปัญหาหลักในเรื่องของความถี่ของรอบเรือที่ให้บริการลดน้อยลง จากการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing
.
ทั้งนี้ ข้อมูลตัด ณ วันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทุกสายการเดินเรือมีการประกาศตารางเรือว่างแล้ว ประมาณ 54 เที่ยวเรือ ในเส้นทางขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Transpacific Eastbound ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 26 จากจำนวนรอบเรือทั้งหมดที่ให้บริการในเส้นทางนี้
.
ในขณะที่เดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่างล่วงหน้าแล้วอย่างน้อย 30 รอบเรือ ในเส้นทางขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Transpacific Eastbound ซึ่งแน่นอนว่าตัวเลขของรอบเรือที่หายไปจนถึงช่วงปลายปี จะยังไม่นิ่งอย่างที่เห็น !!!
.
รวมถึงปัญหาหลักซึ่งผู้ประกอบการรวมถึงคนทำงาน ในแวดวงนำเข้า-ส่งออก ต้องเตรียมการรับมือ ในคือภาวะที่ระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่ง ยาวนานจากเดิมที่เราเคยคุ้นเคยกัน
.
ทั้งนี้ หลายภูมิภาคทั่วโลกยังคงประสบกับปัญหาระยะเวลาในการขนส่งที่ยืดยาวนานขึ้นกว่าภาวะปกติ โดยมีสาเหตุมาจากการขาดแคลนแรงงานและอุปกรณ์ในภาคการขนส่ง อย่างในภูมิภาคอเมริกาเหนือ หลายเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา อย่าง Dallas , Memphis รวมถึงบ้านใกล้เรือนเคียง อย่าง ประเทศแคนาดา
.
ซึ่งล้วนแล้วแต่กำลังประสบพบเจอกับภาวะขาดแคลนแคร่รถไฟ และแชสซีในการวางตู้สินค้า ดังนั้นปัญหาเหล่านี้ จะยังคงอยู่กับพวกเราในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก จนกว่าทุกอย่างจะผ่อนคลายลง หากแต่ไม่มีใครบอกได้ว่า เมื่อไรจะคลี่คลาย ???
.
**************
4) ด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หลายเส้นทาง พร้อมจะถีบตัวขึ้นจากภาวะพื้นที่ระวางที่น้อยลง!!!
.
ทางด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือหรือค่าเฟรท หลายเส้นทางยังเป็นภาวะขาลง หากแต่ในหลายเส้นทางเห็นแนวโน้มในการปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัจจัยด้านพื้นที่ระวางที่ไม่เพียงพอ
.
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีค่าระวางขนส่งทางเรือ ยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 38 โดยดัชนีมาปิดอยู่ที่ USD 2,591 per 40’GP ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงคิดเป็น ร้อยละ 72 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
.
ทั้งนี้ ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือยังคงหดตัว โดยเป็นผลมาจากปัจจัยด้านลบทางเศรษฐกิจ ทำให้พื้นที่ระวางขนส่งในหลายเส้นทาง ยังคงอยู่ในภาวะที่เกินจากความต้องการ
.
หากแต่ถ้าลองเปรียบเทียบแบบย้อนหลัง ดัชนีราคาที่เห็นในรอบสัปดาห์ ยังถือว่าสูงกว่าในช่วงปี 2019 หรือช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คิดเป็น ร้อยละ 82 ซึ่งดัชนีค่าระวางในช่วงเวลานั้น ปิดอยู่ที่ USD 1,420 per 40’GP ซึ่งนั่นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ภาพรวมค่าระวางทางเรือในหลายเส้นทาง ยังไม่กลับไปสู่ช่วงก่อนหน้าโควิด-19 !!!
.
ในขณะที่อีกหลายเส้นทางการขนส่ง ราคาค่าระวางกลับมีทิศทางที่สวนทางกับดัชนีราคาตลาด นั่นคือมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเส้นทางการขนส่งระหว่างภูมิภาคยุโรปกับภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America ทั้งในเที่ยว Eastbound และ Westbound
.
รวมถึง ในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังเอเชียใต้และตะวันออกกลาง หรือ Asia-Indian Subcontinent & Middle East Trade และเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังอเมริกาใต้ หรือ Asia-Latin America Trade เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือยังคงอยู่ในจุดที่สูงกว่าพื้นที่ระวาง
.
ดังนั้น สิ่งที่เราต้องตามดูกันจริง ๆ คือราคาค่าระวางหรือค่าเฟรทที่เราต้องจ่ายจริง ไม่ใช่ดูเพียงดัชนีค่าระวางโลกอย่างเดียว !!!
.
************
5) ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก ทุกท่าเรือยังห่างไกลจากคำว่า “ภาวะปกติ” ยิ่งนัก!!!
.
ทางด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก ส่วนใหญ่จะยังคงตกอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างหนาแน่นไปจนถึงภาวะวิกฤติ ในขณะที่หลายท่าเรือค่อนข้างผ่อนคลายลง หากแต่ก็ยังไม่น่าเป็นที่พอใจ
.
สุดท้าย ด้านสถานการณ์ของท่าเรือหลักต่างๆในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เกือบทุกท่าเรือทั่วโลกยังคงอยู่ในจุดที่ถือว่าเพียบแปล้ จมูกปริ่มน้ำ บางท่าเรืออาจดูผ่อนคลายลงไปบ้าง ในแง่ของจำนวนตู้สินค้าและปริมาณเรือสินค้าที่รอเทียบท่า หากแต่โดยรวมก็ยังจัดอยู่ในภาวะที่แน่น มีปัญหาคอขวด ไม่สามารถทำการระบายตู้สินค้าและเรือที่สะสมอย่างที่ควรจะเป็น
.
ทางด้านภาพรวมของท่าเรือหลักทั้งสองฝั่งของประเทศสหรัฐอเมริกา อยู่ในภาวะทรงตัวและคงที่ไม่ต่างจากสัปดาห์ก่อนนัก โดยสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักฝังตะวันตก หรือ USWC เริ่มที่ผ่อนคลายขึ้น แต่ยังจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ตึงมือเมื่อเทียบกับภาวะปกติ ในขณะที่ท่าเรือหลักในด้านตะวันออกหรือ USEC ตกอยู่ในภาวะที่หนาแน่นทั้งปริมาณตู้สินค้าและมีเรือสินค้าที่ล้นมาจากฝั่งตะวันตก เข้ามาเติมต่อแถวรอเทียบเพิ่มขึ้น
.
อย่างท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก หรือ USEC (USNYC/ USCHS/ USSAV/ USMIA) มีจำนวนเรือรอเทียบท่าและที่เทียบท่ามากกว่า 90 ลำ โดยเรือสินค้าใช้เวลารอเข้าเทียบ รวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายที่ท่า อยู่ที่ 2-7 วัน (โดยเฉพาะที่ USSAV มีเรือที่รอเทียบและที่เทียบท่าเกือบ 40 ลำ โดยเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 12-18 วัน) (เฉพาะที่ USNYC มีจำนวนเรือสินค้ารอประมาณ 12-15 ลำ และใช้เวลารอ 3-7 วัน)
.
ทางด้านท่าเรือหลักฝั่งตะวันตก หรือ USWC (USSEA/ USTIW/ USOAK ) ยังคงภาวะทรงตัว โดยมีเรือรอเข้าเทียบและเทียบที่ท่าแล้วประมาณเกือบ 50 ลำ และใช้เวลารอเข้าเทียบท่ารวมถึงเวลาในการขนถ่ายอยู่ที่ 2-5 วัน (เฉพาะที่ USOAK ใช้เวลารอเทียบประมาณ 15-20 วัน) ในขณะที่ท่าเรือฝั่งอ่าวหรือ Gulf Port MID West อย่าง USHOU ยังคงอยู่ในภาวะหนาแน่น โดยมีจำนวนเรือตู้สินค้าทั้งที่เข้าเทียบแล้วและที่รอเข้าเทียบขนถ่ายประมาณมากกว่า 40 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบอยู่ที่ 10-18 วัน
.
ส่วนทางด้าน สองท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา อย่าง (USLAX/ USLGB) เริ่มทรงตัว ผ่อนคลายมากขึ้น เนื่องจากสินค้าจำนวนไม่น้อยยังคงถูกย้ายหนีไปขึ้นที่ท่าเรือฝั่งตะวันออก จากความกังวลเรื่องการนัดหยุดงาน หากแต่ก็ยังจัดว่าหนาแน่น โดยมีเรือรอเข้าเทียบท่าอยู่ในรัศมี 25 ไมล์ทะเลประมาณ 40 ลำ และใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 3 -7 วัน และตู้สินค้าที่ต้องขึ้นรางต่อ ใช้เวลารอ 15 -25 วัน
.
ทางด้านสามท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป อย่าง NLRTM/ DEHAM/ BEANR อยู่ในภาวะที่คงที่ โดยพื้นที่ความจุในท่าเรือถูกใช้จนเกือบเต็มศักยภาพ มีแนวโน้มที่จะตึงตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากยังคงรับบทหนักแทนท่าเรืออื่นในยุโรปในช่วงการนัดหยุดงาน แต่ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ โดยภาพรวมทั้งสามท่าเรือ มีจำนวนเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่ารวมกันมากกว่า 800 ลำ ซึ่งแค่เฉพาะที่ NLRTM มีเรือเทียบท่าขนถ่ายแล้วและที่รอเทียบประมาณ 380-400 ลำ
.
สุดท้าย สถานการณ์ของท่าเรือหลักต่าง ๆ ภายในภูมิภาคเอเชีย ในหลายท่าเรือ เริ่มที่จะผ่อนคลายลง สามารถทำการระบายตู้สินค้าและปริมาณเรือได้ดีขึ้น หากแต่โดยรวมยังจัดว่าหนาแน่นและตึงมือ โดยเฉพาะท่าเรือหลัก ๆ ในประเทศจีน ยังมีการสะสมของเรือสินค้าและตู้สินค้าบริเวณท่าเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากทางการจีนยังคงมาตรการ ZERO Covid-19 ในหลายเมืองหลัก ส่งผลให้เกิดปัญหาคอขวด
.
โดยท่าเรือหลักฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ยังคงมีเรือสินค้าสะสมรอเทียบท่าเพิ่มขึ้น จากมาตรการในการล็อคดาวน์ในหลายเมืองที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส CNSHA ยังคงมีจำนวนเรือสินค้าสะสมที่ท่าและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 5,100-5,200 ลำ ส่วนทางด้าน CNNGB สามารถทำการระบายตู้สินค้าและเรือที่รอเทียบได้ดีขึ้น หากแต่ใช้พื้นที่ในเขตท่าเรือเกือบเต็มความจุ สืบเนื่องจากหลายเมืองโดยรอบยังคงภายใต้ล็อคดาวน์เมือง โดยมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่าย ซึ่งมีจำนวนมากกว่า 900 ลำ
.
ขณะที่ทางด้านท่าเรือหลักของจีนตอนล่าง อย่าง HKHKG/ CNSHK/ CNYTN อยู่ในภาวะทรงตัว พื้นที่ในเขตท่าเรือค่อนข้างแน่น ติดขัดปัญหาการไหลเวียนของตู้สินค้าและเรือสินค้า อันเนื่องจากการล็อคดาวน์ในบางเขตของเมือง Shenzhen รวมถึง Guangzhou และการจำกัดปริมาณรถขนส่งที่ข้ามพรมแดนระหว่าง Hong Kong กับแผ่นดินใหญ่
.
โดยทั้งสามท่าเรือ มีเรือสินค้ามีเรือสะสมอยู่โดยรอบ มากกว่า 1,000 ลำ โดยเฉพาะที่ HKHKG มีจำนวนเรือสินค้าอยู่บริเวณท่าและที่รอเทียบท่า มากกว่า 900 ลำ
.
****************
6) สถานการณ์ ความเคลื่อนไหวที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์ หนีไม่พ้นเรื่องยอดนิยมอย่าง ค่าระวางขนส่งทางเรือ!!!
.
ความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ที่พวกเราต้องติดตาม และให้ความสนใจในรอบสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องยอดนิยมที่หลายคนให้ความสนใจ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องมีคำถาม ในทุกงานที่เป็นการบรรยายหรือสัมมนาเรื่องขนส่งระหว่างประเทศ นั่นคือ ประเด็นเรื่องค่าระวางขนส่งทางเรือ หรือค่าเฟรท !!!
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจาก ค่าระวางขนส่งหรือค่าเฟรทนั้น เป็นหนึ่งในต้นทุนหลักของผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับ ในกรณีที่สัญญาการซื้อขายสินค้าอยู่ภายใต้เทอมที่ต้องรับผิดชอบค่าระวางขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่า ในช่วงที่ผ่านมาผู้ประกอบการต่างต้องแบกต้นทุนในส่วนที่ว่ากันอย่างแสนสาหัส จากภาวะที่ค่าระวางขนส่งพุ่งสูงขึ้นเกือบสิบเท่าตัว !!!
.
ทิศทางค่าระวางขนส่งทางเรือในช่วงนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงขาลงอย่างที่หลายคนเฝ้ารอ ตามดัชนีค่าระวางขนส่งของสำนักวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ก็จริง หากแต่ถ้าลองมองแบบเจาะลึกเข้าไปแต่ละเส้นทางการขนส่ง จะพบเรื่องจริงว่า ไม่ใช่ทุกเส้นทางที่ค่าระวางจะปรับลดลงตามค่าดัชนี !!!
.
เนื่องจากยังมีหลายเส้นทางขนส่ง ที่ค่าระวางยังคงแตะในระดับที่ค่อนข้างสูงและแถมมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง อันเนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่ง หรือ Allocation Space ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการหรือไม่เพียงพอต่อปริมาณงานขนส่ง
.
อย่างในเส้นทาง จากเมืองไทยบ้านเราไปยังภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกกลาง ที่ค่าระวางขนส่ง มีการปรับขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และแถมมีแนวโน้มจะดึงค่าขนส่งในเส้นทางใกล้เคียงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งหลายคนเริ่มที่จะกังวลว่า อาจเข้าสู่การหมดช่วงเวลาสำหรับการ Low Price Enjoy ในหลายเส้นทาง ก็เป็นได้ !!!
.
ดังนั้น นี่จึงเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการรวมถึงคนในแวดวงนำเข้า-ส่งออก อาจต้องเตรียมให้พร้อมในการรับมือกับภาวะที่ว่า ในกรณีที่ค่ารางขนส่งมีการดึงกลับสูงขึ้น ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องแย่งชิงพื้นที่ระวางขนส่งที่หดตัวน้อยลงทุกวันไปพร้อมกัน ซึ่งหากไม่มีการวางแผนรับมือที่ดี อาจมีต่อความเสียหายทางธุรกิจที่น่าเสียดายยิ่งนัก
.
สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน สวัสดีครับ
.
CR: PIC by ShnapThat
.
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================
.
สำหรับเพื่อนๆและผู้ประกอบการ ที่กำลังมองหากุนซือที่ปรึกษาข้างกายในโลกของการขนส่ง
.
วันนี้แอดมินขอแนะนำ บริการเสริมสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ด้วยบริการ “โลจิสติกส์ บริกร” ที่จะคอยเคียงข้างให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถาม ที่คาใจในเรื่องการขนส่งแบบส่วนตัว!!!
.
รวมถึงรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก แบบที่คุณห้ามพลาด
สนใจในบริการสุดพิเศษนี้ คลิกและลงทะเบียนได้เลยที่
https://forms.gle/PumFkpEWsNbDjQCo6
.
เช็คราคาเฟรทขนส่งทางทะเล เบื้องต้น ได้ง่ายๆไปกับบริการ Freight Rate Trend โดย #ZUPPORTS x #TNSC
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 5- 9 กุมภาพันธ์ 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์ชุลมุนของคนทำงาน เมื่อทุกสิ่ง Everything ต้องปิดให้ทันก่อนหยุดตรุษจีน !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/02/Freight-Weekly-FEB-5-9-2024.jpg)
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 29 มกราคม- 2 กุมภาพันธ์ 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์แห่งความผันผวน ช่วงเวลาหายใจไม่ทั่วท้อง ของคนขายงาน RFQ Bidding !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/01/Freight-Weekly-JAN-29-FEB-2-2024.jpg)
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 22- 26 มกราคม 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์จังหวะชุลมุน รับมือ Shipment ช่วงเทศกาลตรุษจีน ท่ามกลาง Red Sea Crisis !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/01/Freight-Weekly-JAN-22-26-2024.jpg)
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 15- 19 มกราคม 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์เริ่มต้นนับถอยหลัง 4 สัปดาห์สุดท้าย ก่อนเข้าช่วงเทศกาลตรุษจีน !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/01/Freight-Weekly-JAN-15-19-2024.jpg)
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 8- 12 มกราคม 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์ที่แสนชุลมุน เตรียมรับมือคลื่นยักษ์ที่ถาโถมจากวิกฤติทะเลแดง !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/01/Freight-Weekly-JAN-8-15-2024.jpg)
![[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 1- 5 มกราคม 2567 กับ ZUPPORTS !!! สัปดาห์ต้อนรับปีใหม่ ยิ้มรับความท้าทาย ที่เกิดจากวิกฤติทะเลแดง !!!](https://zupports.co/wp-content/uploads/2024/01/415553137_763660725629149_7384627257790455558_n.jpg)
