สหรัฐอเมริกา นำเข้าสินค้า สูงสุดในรอบ 2 ปี และ อีก 5 ประเด็นที่ต้องติดตาม

ปริมาณการนำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือของสหรัฐอเมริกา คาดการณ์ว่าจะสูงที่สุดตั้งแต่ปี 2022

รายงาน Global Port Tracker ที่เผยแพร่โดย National Retail Federation (NRF) และ Hackett Associates คาดการณ์ว่า ปริมาณการนำเข้าสินค้าผ่านท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา ใน 3 เดือนจากนี้ จะสูงที่สุดในรอบเกือบสองปี

ปัจจัยสำคัญ:

การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น: ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายมากกว่าปีที่แล้ว และผู้ค้าปลีกกำลังเพิ่มสต็อกสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าสู่ช่วง peak season
การเปลี่ยนแปลงในช่วง peak season: มีการเปลี่ยนแปลงในช่วง peak season ประจำปีสำหรับการขนส่ง ทำให้ปริมาณการนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
การเติมสต็อกสินค้าของผู้ค้าปลีก: ผู้ค้าปลีกกำลังเติมสต็อกสินค้าหลังจากยอดขายที่แข็งแกร่งหลังการระบาดใหญ่ และพยายามเตรียมพร้อมสำหรับภาษีที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าจากจีนที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนสิงหาคม

ตัวเลขคาดการณ์:

เดือนพฤษภาคม: 2.09 ล้าน TEU (เพิ่มขึ้น 8.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
เดือนมิถุนายน: 2.11 ล้าน TEU (เพิ่มขึ้น 15.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
เดือนกรกฎาคม: 2.1 ล้าน TEU (เพิ่มขึ้น 9.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
เดือนสิงหาคม: 2.17 ล้าน TEU (เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
เดือนกันยายน: 2.06 ล้าน TEU (เพิ่มขึ้น 1.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน)
เดือนตุลาคม: 2.01 ล้าน TEU (ลดลง 2.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน)

หมายเหตุ: TEU ย่อมาจาก Twenty-Foot Equivalent Unit ซึ่งเป็นหน่วยวัดขนาดตู้คอนเทนเนอร์มาตรฐาน

สรุป:

การนำเข้าที่เพิ่มขึ้นเป็นสัญญาณบวกที่แสดงให้เห็นว่าผู้ค้าปลีกมีความมั่นใจในยอดขายที่แข็งแกร่งตลอดช่วงที่เหลือของปี
อย่างไรก็ตาม ผู้ค้าปลีกกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านห่วงโซ่อุปทานอีกครั้ง คราวนี้เป็นปัญหาความแออัดในท่าเรือต่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานและอัตราค่าขนส่ง

ประเด็นอื่นๆ ที่ต้องจับตามอง

สหภาพแรงงานในท่าเรือของฝรั่งเศส เตรียมหยุดงานประท้วงการปฏิรูปเงินบำนาญที่เพิ่มอายุเกษียณ ท่าเรือสำคัญอย่าง Le Havre และ Marseille-Fos ได้รับผลกระทบจากการหยุดงาน 24 ชั่วโมง ทำให้มีการยกเลิกและล่าช้าในการขนส่งสินค้า การหยุดงานมีกำหนดจะดำเนินต่อไปในวันที่ 13, 21 และ 25 มิถุนายน และอาจขยายไปถึงเดือนกรกฎาคมหากรัฐบาลไม่ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงาน การหยุดงานส่งผลกระทบต่อธุรกิจขนส่งทางถนนและโลจิสติกส์อย่างมาก ทำให้เกิดความล่าช้าและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ประกาศจาก MPA เกี่ยวกับระยะเวลารอเทียบท่าเรือที่ยาวนานขึ้นในท่าเรือสิงคโปร์

การเปลี่ยนเส้นทางเรืออ้อมแหลมกู๊ดโฮปทำให้ตารางการเข้าเทียบท่าของเรือในท่าเรือสำคัญทั่วโลกมีความคลาดเคลื่อนและส่งผลให้เกิดการ “รวมกลุ่มของเรือ” ตั้งแต่ต้นปี 2024 สิงคโปร์มีจำนวนเรือเข้ามาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับเรือบรรทุกน้ำมันและเรือบรรทุกสินค้าเทกอง การเติมเสบียงและการเติมน้ำมันจะเกิดขึ้นภายในท่าจอดเรือและไม่ได้รับผลกระทบ สำหรับเรือคอนเทนเนอร์ โดยพบว่าปริมาณคอนเทนเนอร์และการ “รวมกลุ่ม” ของเรือคอนเทนเนอร์ที่เข้ามาในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างมากเนื่องจากห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักในสถานที่ต้นน้ำ

ปริมาณคอนเทนเนอร์ที่สิงคโปร์จัดการในช่วงสี่เดือนแรกของปี 2024 มีจำนวน 13.36 ล้าน TEUs นี่คือปริมาณคอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้น 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว การเพิ่มขึ้นของเรือคอนเทนเนอร์ที่เข้ามาไม่ตรงตามกำหนดเวลาและปริมาณคอนเทนเนอร์ที่เพิ่มขึ้นที่จัดการในสิงคโปร์ส่งผลให้เรือต้องรอเทียบท่าคอนเทนเนอร์นานขึ้น ในขณะที่เรือคอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่จะเข้าเทียบท่าเมื่อมาถึง PSA ผู้ให้บริการท่าเรือได้ทำงานร่วมกับสายการเดินเรือเพื่อปรับตารางการเข้าเทียบท่าที่เป็นไปได้ และหากไม่สามารถทำได้ เวลารอเฉลี่ยสำหรับเรือคอนเทนเนอร์จะอยู่ที่ประมาณสองถึงสามวัน
คนงานท่าเรือยกเลิกการเจรจาและขู่จะประท้วงที่ท่าเรือสหรัฐฯ

คนงานท่าเรือชายฝั่งตะวันออกและอ่าวของสหรัฐฯ ยกเลิกการเจรจาแรงงานที่ควรจะเริ่มในสัปดาห์นี้และเพิ่มความเป็นไปได้ที่จะมีการประท้วงในปลายปีนี้ที่ประตูการค้าที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ

สมาคมคนงานท่าเรือนานาชาติ (ILA) ยกเลิกการเจรจาที่ Newark นิวเจอร์ซีย์ เพื่อประท้วงการใช้เครื่องจักรอัตโนมัติในบางท่าเรือ ซึ่งสหภาพแรงงานกล่าวว่าเป็นการละเมิดข้อตกลงแรงงานก่อนหน้านี้

การถอนตัวจากโต๊ะเจรจาเป็นการเริ่มต้นที่ยากลำบากสำหรับการเจรจาที่มุ่งเป้าไปที่การรักษาสัญญาที่ครอบคลุมคนงานท่าเรือมากกว่า 45,000 คนในท่าเรือจากรัฐ Maine ถึง Texas ก่อนที่ข้อตกลงปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 30 กันยายน การหยุดงานในเวลานั้นจะเกิดขึ้นเนื่องจากสินค้าไหลเข้าสู่ประเทศก่อนวันหยุดสิ้นปีและคุกคามเศรษฐกิจอเมริกันก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี
โลกกลับมาบินอีกครั้ง และเครื่องบินกำลังเผาผลาญเชื้อเพลิงเหมือนปี 2019

ในไม่ช้านี้ เราจะได้เห็นเครื่องบินที่เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังเดินทางไปพักผ่อน ทิ้งร่องรอยสีขาวไว้บนท้องฟ้าและความทรงจำเกี่ยวกับ Covid-19 ที่ดูเหมือนฝันร้าย

โลกกลับมาบินอีกครั้ง ในไตรมาสที่สาม มีเที่ยวบิน 10.5 ล้านเที่ยวบินที่กำหนดไว้ให้เดินทางข้ามท้องฟ้า จากข้อมูลอุตสาหกรรมที่รวบรวมโดย Bloomberg, NEF สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารที่สูงเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ และเครื่องบินจะเต็มเกือบเท่ากับก่อนการระบาดของไวรัส ซึ่งจะใช้เชื้อเพลิงในปริมาณที่สูงเป็นประวัติการณ์
ช่องทางการเดินเรือที่ท่าเรือบัลติมอร์เปิดทำการอีกครั้ง

ช่องทางการเดินเรือที่ท่าเรือบัลติมอร์ได้เปิดใช้งานอย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังจากผ่านไป 11 สัปดาห์ที่สะพาน Francis Scott Key ถล่มลงมาเนื่องจากถูกเรือบรรทุกสินค้าชน

กองทัพวิศวกรสหรัฐฯ กล่าวว่าช่องทางเดินเรือกว้าง 700 ฟุตและลึก 50 ฟุตได้รับการฟื้นฟูให้กลับมามีกำลังการผลิตดั้งเดิมและตอนนี้ “ปลอดภัยสำหรับการขนส่ง” BBC News รายงาน