อาลีบาบา รุกหนัก เปิดให้บริการ นำเข้า ส่งออก สินค้าจาก จีน – เกาหลีใต้

อาลีบาบา รุกหนัก

เปิดให้บริการ นำเข้า ส่งออก สินค้าจาก จีน – เกาหลีใต้

ลดเวลาส่งสินค้า จาก 10-13 วัน เหลือเพียง 5-7 วัน

 

เพื่อนๆ น่าจะได้ติดตามข่าว ที่ทาง อาลีบาบา จะมาตั้งศูนย์กระจายสินค้าในไทย เรียกได้ว่าเป็นฝันร้ายของเหล่าพ่อค้าแม่ค้า ที่“นำเข้า” สินค้าจากจีนมาขายในไทยเลยทีเดียว

แต่ล่าสุด มีข่าวว่า ทางอาลีบาบา โดยบริษัทลูกที่ดูแลด้านการขนส่งที่ชื่อว่า “Cainiao” เพิ่งประกาศเปิดตัว บริการขนส่ง นำเข้า ส่งออก ครบวงจร ระหว่างประเทศจีนและเกาหลีใต้

แบบนี้จะมีผลดี-ผลเสีย ต่อผู้บริโภคและผู้ประกอบการเกาหลีใต้อย่างไรบ้าง?

แล้วผู้ประกอบการชาวเกาหลีใต้เค้าไม่ประท้วงกันหรอ?

เป็นสิ่งที่ควรศึกษา เตรียมเอาไว้สำหรับไทย

เรื่องราวเป็นมาอย่างไร หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย

=========================

นำเข้า “ความรู้” ส่งออก “ความคิด” ติดตาม

“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”

=========================

1) เมื่อวันที่ 30 ตุลาคมที่ผ่านมา ทางอาลีบาบา ประกาศเปิดตัวบริการ นำเข้า ส่งออก สินค้าจาก จีน – เกาหลีใต้ โดยจะเป็นการให้บริการขนส่งครบวงจร ตั้งแต่บริการ นำเข้าสินค้าจากจีน, การผ่านพิธีการศุลกากร, คลังสินค้าในเกาหลีใต้, และการขนส่ง Last-mile ถึงผู้บริโภค ชาวเกาหลี

2) อาลีบาบา ตั้งเป้าหมาย ที่จะลดเวลาขนส่งระหว่างประเทศจนถึงมือผู้บริโภค ลง จาก 10-13วัน เหลือเพียง 5-7 วันเท่านั้น โดยการลงทุนครั้งนี้ เพื่อช่วยยกระดับการให้บริการของแพลตฟอร์ม ค้าขายระหว่างประเทศ หรือ Cross-border e-commerce อย่าง “Aliexpress”

3) โดย Cainiao ซึ่งเป็นบริษัทลูกของอาลีบาบา จะใช้ทั้ง แพลตฟอร์มขนส่งอัจฉริยะ และคลังสินค้าพื้นที่กว่า 15,000 ตารางเมตร ที่อยู่ติดกับสนามบิน และท่าเรือในประเทศเกาหลีใต้ เพื่อสนับสนุนการ นำเข้า ส่งออก สินค้า ระหว่าง จีนและเกาหลีใต้

4) คาดว่า Cainiao จะใช้เรือ 6 ลำ และเครื่องบิน 6 ลำ ต่อสัปดาห์ เพื่อให้บริการในเส้นทางดังกล่าว

5) ทั้งนี้ ต้องบอกว่าด้วยตัวเลขการค้าระหว่างประเทศ แน่นอนว่าทางจีนเองก็เป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของเกาหลีใต้ โดยมีมูลค่าส่งออก 25.9% และนำเข้า 21.1% รวมมูลค่าการค้า ระหว่าง 2 ประเทศ สูงถึง 8.5 ล้านล้านบาทต่อปี (ประมาณ 4 เท่า ของขนาดการค้าระหว่างไทยกับจีน)

6) แล้วการปล่อยให้อาลีบาบา มาตั้งศูนย์กระจายสินค้าในเกาหลีใต้แบบนี้ ทางรัฐบาล และประชาชนเกาหลีใต้ ไม่กลัวกันหรอ? ก็คงต้องบอกว่า “ไม่กลัว”

7) สาเหตุหนึ่ง น่าจะมาจาก เรื่องการค้าขาย e-commerce นั้น ประเทศเกาหลีใต้ เขามีสตาร์ทอัพระดับ Unicorn เป็นของตัวเอง แถมยังครองส่วนแบ่งตลาด e-commerce เป็นอันดับหนึ่งในเกาหลีใต้อีกด้วย (Unicorn คือ สตาร์ทอัพที่มีมูลค่ากิจการมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท)

8) บริษัทสตาร์ทอัพที่ว่านั้นก็คือ บริษัท “Coupang” ที่ถือว่าเป็น Amazon ของเกาหลีใต้เลยทีเดียว เป็น e-commerce ยักษ์ใหญ่สัญชาติเกาหลีใต้ ที่ปีที่แล้วปิดยอดขายไปกว่า 470,000 ล้านบาท (พอๆกับ ยอดขาย CPALL ของไทยเลย) เติบโตต่อปีสูงถึง 60%!

9) จุดเด่นของ Coupang ก็คือ การที่มีระบบขนส่ง Logistics เป็นของตัวเองแบบครบวงจร ทำให้มีการประเมินว่า สินค้ากว่า 99.5% จะส่งถึงมือลูกค้า ภายใน 24 ชั่วโมง!! ดังนั้น ต่อให้ Alibaba ส่งเร็วมากขึ้นขนาดไหน ก็ยังแข่งกับ Coupang ยากอยู่ (ส่งเร็วมากจริงๆ บ้านเราช่วงนี้ก็เริ่มส่งเร็วละ สั่งกลางคืนได้วันพรุ่งนี้เริ่มมีบ่อย)

10) โดยประเทศเกาหลีใต้ ถือเป็นประเทศที่มีมูลค่า ตลาด e-commerce ใหญ่สุดเป็นลำดับที่ 3 ของโลก!! รองจากจีน และสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้เกาหลีใต้ ยังขึ้นชื่อเรื่องชาตินิยม นับถึงปัจจุบันมีสตาร์ทอัพระดับ unicorn ดังๆ สัญาชาติเกาหลีเกิน 10 บริษัทไปแล้ว (ขณะที่ไทยกำลังลุ้นตัวแรก)

11) นอกจากนี้ Coupang เอง ยังย้อนศร พยายามเจาะเข้าไปที่ตลาดจีนซะอีก โดยตอนนี้ก็เริ่มประกาศหาพนักงานกันให้วุ่น โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการสรรหาสินค้าดีๆ ให้กับคู่ค้าในจีน มากกว่าที่จะไปทำการตลาดกับผู้บริโภคชาวจีนโดยตรง

.

โดยจุดนี้ทางสตาร์ทอัพเกาหลีรายนี้ เรียนรู้จากบทเรียนของ Amazonที่พยายามทำตลาดในจีนมานาน แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จึงเปลี่ยน model ธุรกิจเป็น “Amazon Global Selling”

——————————–

ก็เป็นประเด็น ที่น่าสนใจ คือ การที่เกาหลีใต้ ยอมให้อาลีบาบาเข้ามาแข่งขัน แง่หนึ่งอาจเกิดผลเสียต่อพ่อค้าคนกลางแบบดั้งเดิม แต่อีกแง่ผู้บริโภคชาวเกาหลีใต้ ก็จะได้รับประโยชน์จากบริการที่ดีขึ้น

.

อย่างไรก็ตาม เกาหลีใต้ เขาเตรียมตัวไว้พร้อม เชิญเข้ามาแข่งได้เลย แต่สตาร์ทอัพเขาก็ไม่ได้กระจอกกว่าจีน แถมยังแกร่งกว่าด้วยซ้ำ

.

กลับมามองฝั่งไทย จริงๆ แล้ว การให้ต่างชาติ เข้ามาลงทุน เพื่อพัฒนาสินค้าและบริการ นอกจากเป็นการสร้างงานแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขัน ตามแบบกลยุทธ์ปลาดุก หรือ “catfish effect” ไปในตัว

.

แต่ในโลกยุคดิจิตอล ที่ผู้ชนะ สามารถ “กินรวบ” ได้ ทางภาครัฐก็คงต้องหาวิธีที่จะทำให้มั่นใจว่า มีการแข่งขันที่เหมาะสมจริงๆ  และออกนโยบาย เพื่อให้ธุรกิจจากผู้ประกอบการในประเทศ ไม่ใช่แค่ยืนหยัดสู้ต่างชาติ แต่ต้องมุ่งหวังให้เอาชนะให้ได่ต่างหาก…

——————————–

หากใครสนใจ อ่านเรื่องราวความเป็นมาของ Cainiao

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้จากซีรีย์ หนึ่งแพลตฟอร์มพิชิตทั่วหล้า: Cainiao มี 3 ตอน ด้วยกัน

ตอนที่ 1: https://www.zupports.co/cainiao/

ตอนที่ 2: https://www.zupports.co/cainiao-2/

ตอนที่ 3: https://www.zupports.co/alibaba-jindong/

หากบทความมีประโยชน์ กดไลค์ และแชร์ให้เพื่อนๆ กันได้เลย

=========================

นำเข้า “ความรู้” ส่งออก “ความคิด” ติดตาม

“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”

=========================

พิเศษ!! สำหรับผู้ประกอบการที่กำลังมองหาเทคโนโลยี ที่จะช่วยคุณบริหารการนำเข้า-ส่งออก แบบมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็น

1) การเลือกและจองเฟรท

2) การติดตามสถานะเอกสาร และสินค้า

3) ตรวจสอบค่าใช้จ่าย

ทั้ง 3 ข้อผ่านช่องทางออนไลน์

สามารถลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิทดลองใช้โปรแกรมฟรี ได้เลยวันนี้ที่ https://zupports.co/register/

——————————–

ที่มา:

https://www.alizila.com/alibaba-news-roundup-cainiao-korea-aliexpress-localization

https://seoulz.com/list-of-the-top-10-korean-startup-unicorns-as-of-2020/

——————————–

❤️ อ่านบทความย้อนหลังได้ที่

https://www.zupports.co/author/zupports/

นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า marketplace: ใครมีสินค้าดีๆ โพสขายกันได้เลย

https://www.facebook.com/groups/573677150199055/

#นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า #นำเข้า #ส่งออก

#ZUPPORTS

ข่าวสารอื่นๆ