[Freight Weekly] อัพเดตสถานการณ์ขนส่งระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 25-29 กรกฎาคม 2565 กับ ZUPPORTS เมื่อช่วงเวลาของ Peak Season กับ วิกฤติเศรษฐกิจโลก ต้องโคจรมาเดินร่วมทางกัน !!!

กลับมาพบกันเช่นเคย กับการรายงานสถานการณ์ ข่าวสาร ความเคลื่อนไหวการนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือประจำสัปดาห์ กับพวกเราชาว ZUPPORTS

.

สัปดาห์นี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 31/2022 โดยนับว่าเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ถือว่าค่อนข้างท้าทายและบีบรัดชีวิตคนทำงานอย่างเราๆ เนื่องจากมีวันหยุดยาวถึง 4 วัน ของภาคราชการและรัฐวิสาหกิจ คือตั้งแต่วันที่ 28-31 กรกฎาคม รวมไปถึงธนาคารต่างๆที่มีการประกาศวันหยุดพิเศษตามออกมา ซึ่งเท่ากับว่า มีเวลาในการทำทั้งงานเอกสารและงานด้านการเงินเพียงแค่ 3วันเท่านั้น

.

ดังนั้น เป็นเรื่องที่แน่นอนว่าคนในวงการนำเข้า-ส่งออก โดยเฉพาะคนอยู่ในส่วนของ Freight Forwarder จะแทบไม่มีโอกาสเงยหน้าเห็นท้องฟ้าเลยในตลอดช่วง 3 วันนี้ เว้นแต่ว่า Freight Forwarder เจ้านั้นจะไม่มีงานเข้ามาเลย หรือเรือ Schedule Slide ออกไปแล้ว

.

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เรื่องที่หลายคนกังวลคงหนีไม่พ้น สถานการณ์ความหนาแน่นของในแต่ละท่าเรือหลัก ที่ยังดูไม่มีทีท่าจะผ่อนคลายลง โดยเฉพาะที่ภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ อย่างที่ท่าเรือ NLRTM ซึ่งเป็นประตูหลักของยุโรป และ USLAX กับ USLGB ประตูหลักของสหรัฐอเมริกา ที่ยังคงอบอุ่นไปด้วยเรือที่รอเข้าเทียบท่าและตู้สินค้าที่ตกค้างอยู่ในท่าเรือ

.

รวมถึงเรื่องที่ใกล้ตัว เกี่ยวกับปากท้องของเราๆ และชาวโลกรวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน ที่เริ่มเข้ามายึดพื้นที่สื่อหลายสำนักในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่าง สถานการณ์เศรษฐกิจโลก โดยเริ่มส่อเค้ามีแนวโน้มและสัญญาณที่ดูจะไม่ค่อยสู้ดีสักเท่าไร

.

ซึ่งนักวิเคราะห์หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ มองว่า โลกเรากำลังก้าวเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยสัญญาณหนึ่ง ที่เริ่มเห็นได้ชัดในแวดวงการนำเข้า-ส่งออกของบ้านเรา นั่นคือ หลายคนเริ่มพอจะมีเวลาในการไล่ปิดงานย้อนหลัง หรือมีเวลาไล่ติดต่อลูกค้ามากขึ้น อันเนื่องมาจาก จำนวนงานขาออก หรือ Shipment ของเราๆ เริ่มหดหายน้อยลงกว่าก่อนหน้านี้กว่าครึ่ง !!!

.

เกริ่นมายาวพอประมาณ หากทุกคนพร้อมกันแล้ว ตามพวกเรา ZUPPORTS มาดูกันในแต่ละประเด็นกันเลย

.

=========================

ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์

สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register

=========================

1) มาเริ่มต้นกันที่สถานการณ์การจองพื้นที่ระวางขนส่งหรือการบุ๊คกิ้ง  เริ่มจะกลับมาเป็นนาทีทองของผู้ประกอบการที่ยังมีงานในมือ

.

ด้านสถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางเรือ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา เริ่มมีแนวโน้มไปในทางที่ผ่อนคลายลง ในหลายเส้นทางการขนส่ง พื้นที่ระวางเริ่มมีการเปิดกว้างมากขึ้น จองง่ายขึ้นกว่าเมื่อสามสัปดาห์ก่อน เนื่องจากอุปสงค์ความต้องการในการขนส่งในหลายๆที่เริ่มลดลง โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดหลัก

.

ด้านเส้นทางการขนส่งไปยังภูมิภาคยุโรป ยังถือว่าค่อนข้างตึงมากกว่า เมื่อเทียบกับเส้นทางไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ทั้งนี้เนื่องจากหลายท่าเรือหลักในยุโรปตอนเหนือ กำลังประสบกับปัญหาท่าเรือหนาแน่น จนเป็นเหตุให้เรือขนส่งในเส้นทางนี้ ไม่สามารถกลับมาเข้ารอบเรือตามเส้นทางของตนเองได้ทัน หลายสายการเดินเรือจึงมีการปล่อยตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing เพื่อไม่ให้เรือไปกองรวมกัน

.

ในด้านเส้นทางการขนส่งไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ดูจะเข้าสู่จุดที่เริ่มผ่อนและเปิดพื้นที่มากขึ้น บรรดาสายการเดินเรือใหญ่หลายสาย เริ่มที่จะมีการติดต่อของานจากผู้ประกอบการ หรือตัวแทนรับขนส่ง ทั้ง Freight Forwarder / BOX Operator เพื่อเติมพื้นที่ระวางให้เต็ม โดยบางท่าเรือ จองล่วงหน้าเพียง 1-2 สัปดาห์เท่านั้น

.

ทั้งที่ช่วงก่อนหน้านี้ตั้งแต่เริ่มการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายคน โดยเฉพาะผู้ประกอบการหรือตัวแทนรับขนส่ง ที่เป็นรายเล็ก แทบจะไม่สามารถติดต่อตัวแทนฝ่ายขายของบางสายการเดินเรือได้เลย เรียกว่าบางคนลืมหน้าลืมตากันไปแล้ว

.

ในขณะที่เส้นทางขนส่งไปยังภูมิภาคอื่นๆ อย่าง เอเชียใต้ หรือ Indian Subcontinent และเส้นทางขนส่งภายในภูมิภาคเอเชีย หรือ Intra-Asia พื้นที่ระวางเริ่มผ่อนคลายตัวลง ยังคงพอที่จะทำการจองแบบไม่ยากเย็นหนัก

.

สถานะของการยืนยันการจอง หรือบุ๊คกิ้งที่ถูกปล่อยออกมาช่วงนี้ ผู้ประกอบการ ตัวแทนรับขนส่ง ประเภท Freight Forwarder เริ่มวิ่งไปใช้การจองเรือในรูปแบบ SPOT Rate Shipment เนื่องจากราคาที่ต่ำกว่า และไม่ถูกผูกมัดเงื่อนไขอะไรมาก เหมือนการจองเรือโดยใช้ Service Contract รวมถึงในบางสายการเดินเรือ เริ่มมีการคายบุ๊คกิ้งภายใต้การจองแบบ Service Contract / NAC Bullet ต่างๆเพิ่มมากขึ้น

.

ภาพรวมจึงกลายเป็นว่า พื้นที่เรือเหลือน้อยลง แต่พื้นที่ระวางกลับไม่เต็มลำ ดังนั้น นี่จึงอาจไม่ใช่สัญญาณที่ดีสักเท่าไรในภาคของการนำเข้า-ส่งออก

.

*******

2) ด้านสถานการณ์ การหมุนเวียนและการจัดหาตู้สินค้า ทั่วโลกยังต้องเจอกับความไม่สมดุลของปริมาณตู้สินค้า

.

ในด้านสถานการณ์การหมุนเวียนและการจัดหาตู้สินค้า โดยรวมแล้วทั่วโลกค่อนข้างอยู่ในภาวะที่ทรงตัวและนิ่งมากขึ้น เนื่องจากอุปสงค์ความต้องการในภาคขนส่งเริ่มหดตัวลงในหลายภูมิภาค อันเนื่องมาจากกำลังสั่งซื้อและความต้องการสินค้าในภูมิภาคหลักๆของโลก เริ่มที่จะชะงักและลดต่ำลงแบบเห็นได้ชัด

.

หากแต่ในพื้นที่ตามภูมิภาคที่ไม่ติดทะเล หรือตามแนวลึกของภูมิภาคต่างๆ ทั้งในยุโรป, อเมริกาเหนือ รวมถึงในเอเชียใต้ หรือ Indian Subcontinent ยังคงประสบกับปัญหาการขาดแคลนอย่างหนัก โดยเฉพาะตามท่าแห้ง ICD และตาม IPI เมืองต่างๆ

.

ทั้งนี้ก็เนื่องจากปัญหาการบริหารจัดการด้านขนส่งและ Supply Chain ในการไหลตู้สินค้าจากริมทะเล ไปยังตามเมืองต่างๆ โดยมีต้นเหตุจากการขาดแคลนในภาคแรงงานขนส่ง และอุปกรณ์ในการขนส่ง อย่าง หางเทรลเลอร์หรือแชสซีวางตู้สินค้าและแคร่รถไฟ

.

รวมถึงตามเมืองหลักหรือท่าเรือต่างๆ ที่สายการเดินเรือมีการข้ามไม่เข้าเทียบท่าหรือ SKIP Call Port บ่อยๆ เริ่มที่จะประสบกับปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้ากันให้เห็นเพิ่มขึ้น เนื่องจากไม่มีตู้สินค้าเข้ามาหมุนเวียน

.

ในขณะที่ในบ้านเราเอง ภาพรวมการหมุนเวียนของตู้สินค้า ถือว่าอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างทรงตัว หลายสายการเดินเรือ โดยเฉพาะสายการเดินเรือขนาดกลาง ที่มีเส้นทางให้บริการสายในระยะใกล้ หรือ Short Haul ยังคงพอที่จะทำการถูไถ จัดหาให้ไม่ยากเย็นนัก

.

ในขณะที่สายการเดินเรือขนาดใหญ่ ที่มีเส้นทางให้บริการสายนอกระยะไกล หรือ Long Haul ค่อนข้างที่จะตึงตัวพอสมควร จำนวนตู้สินค้าที่มี เมื่อเทียบกับจำนวนบุ๊คกิ้งยืนยันการจองที่ปล่อยออกมา ถือว่ายังไม่สมดุลสักเท่าไร ในขณะที่บางสายการเดินเรือถือว่าอยู่ในจุดที่อาการหนัก

.

ผู้ประกอบการหลายราย ต้องเปลี่ยนลานลากตู้เปล่าไม่น้อยกว่าสองลาน ถึงจะได้ตู้สินค้า และมีไม่น้อย ที่แม้จะเปลี่ยนลาน แต่ก็ไม่สามารถทำการลากตู้เปล่าได้ เนื่องจากลานไม่มีตู้ และต้องรอตู้ขาเข้านำกลับมาคืนเท่านั้น

.

โดย ตู้สินค้าประเภท 40’GP และ 40’HC ยังคงเป็นตู้สินค้าที่ขาดแคลนมากที่สุด เนื่องจากเป็นตู้สินค้าประเภทที่มีความต้องการมากที่สุดจากผู้ประกอบการ

.

*******

3) ในด้านสถานการณ์ตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่ง อยู่ในจุดยากที่จะกลับไปเป็นเช่นก่อนหน้านี้

.

ด้านประเด็นตารางเดินเรือหรือ Vessel Schedule และระยะเวลาการขนส่งหรือ Transit Time จะยังคงเป็นอีกปัญหาที่ตามกวนใจและเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบธุรกิจ ทั้งรายเล็ก รายใหญ่ รวมถึงคนทำงานในแวดวงนำเข้า-ส่งออก อย่างเราๆ

.

สภาวะที่ทุกคนยังคงต้องประสบ นั่นคือ การที่ตารางเดินเรือในตลาด มีความไม่นิ่ง ไม่แน่นอนและไม่น่าเชื่อถือ โดยทุกอาการยังคงอยู่ครบถ้วน ทั้ง ปัญหาความล่าช้าของวันเรือออกและวันเรือถึง หรือ Delay Onboard/ Delay Arrival , การหน่วงตารางเดินเรือให้ช้าลง หรือ Retard Schedule, การข้ามไม่เข้าในบางท่าเรือตามแผน หรือ OMIT/ SKIP Call Port ,รวมไปถึงการปล่อยตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing

.

เฉพาะแค่เดือนกรกฎาคม จากข้อมูลล่าสุด ตัดเมื่อวันที่ 21 ที่ผ่านมา ทุกสายการเดินเรือมีการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing รวมกันแล้ว กว่า 21 รอบเรือ สำหรับเส้นทางการขนส่งข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Transpacific โดยคิดเป็น ร้อยละ 9.9 ของจำนวนรอบเรือทั้งหมดในเส้นทางนี้

.

โดยเบื้องต้น ทุกสายการเดินเรือ จะมีการปล่อยตารางเรือว่างอีก อย่างน้อย 10 -12 ในเส้นทางการขนส่งดังกล่าว สำหรับเดือนสิงหาคม ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องมีการทยอยประกาศออกมาเพิ่มเรื่อยๆ

.

ดังนั้นในบางเส้นทางขนส่งไปยังบางภูมิภาค รอบเรือในการขนส่งลดลงเหลือเพียงแค่ 1 -2 รอบเรือต่อเดือนเท่านั้น ซึ่งจะเท่ากับว่า ในปัจจุบัน อุปทานในภาคการขนส่งทางเรือ ลดเหลือเพียงครึ่งจากภาวะปกติก่อนหน้า

.

นอกจากนี้ในภูมิภาคยุโรป หลายประเทศกำลังประสบกับปัญหาคลื่นความร้อนและไฟป่า ในหลายพื้นที่เส้นทางการคมนาคมถูกตัดขาด จึงทำให้การกระจายสินค้าและ Supply Chain เกิดความล่าช้ามากขึ้น และแน่นอนว่าการขนส่งไปยังตามเมืองต่างๆที่อยู่ตามแนวลึกของภูมิภาค หรือเมืองที่ไม่ติดทะเล จะต้องใช้ระยะเวลาในการขนส่งที่เพิ่มมากขึ้นอีกกว่าเท่าตัว

.

ดังนั้น เพื่อป้องกันความเสียหายและการเสียโอกาสทางธุรกิจ ตรวจสอบหรือสอบถามไปยัง ผู้ซื้อหรือผู้ขายในภูมิภาคยุโรป รวมถึงตัวแทนรับขนส่งสินค้า ก่อนทำการดัน Shipment ทุกครั้งในช่วงนี้

.

*********

4) ประเด็นหลักด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งหรือค่าเฟรท ตลาดเริ่มหนีไปหา SPOT Rate Shipment !!!

.

โดยภาพรวมของค่าระวางขนส่งทางเรือ หรือค่าเฟรท ในทุกเส้นทางทั่วโลก ยังคงมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา และถึงตอนนี้ ยังไม่มีการแจ้งประกาศปรับขึ้น จากทุกสายการเดินเรือ ไม่ว่าจะเป็นในรูปของ PSS หรือ GRI  หรืออย่างแย่ที่สุด ราคาค่าระวางในบางเส้นทางการขนส่ง ยังคงอยู่ในลักษณะตรึงคงที่ หรือ Maintain Rate เพื่อรอดูท่าทีเดือนสิงหาคมที่กำลังจะมาถึง

.

ทั้งนี้ก็สืบเนื่องจาก อุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือที่หดตัวลง อันเนื่องจากปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรป และภูมิภาคอเมริกาเหนือ ผู้ประกอบการเริ่มมีการชะลอการสั่งซื้อ รวมถึงในบางแห่ง ที่ภาคอุตสาหกรรมมีการหยุดสายการผลิตหรือปิดโรงงานชั่วคราวจนกว่าจะเข้าช่วงเปลี่ยนถดูกาล

.

นี่จึงเป็นปัจจัยที่ดึงเพดานราคาค่าระวางขนส่งทางเรือให้ลดต่ำลง แม้ว่าราคาค่าเชื้อเพลิง หรือ BAF/BUC/LSS ที่ซ่อนอยู่ในเนื้อค่าระวาง จะมีการปรับตัวขึ้นทุกเดือนก็ตาม ซึ่งกลไกค่าระวางหรือค่าเฟรทเอง อาจจะมีความซับซ้อนกว่า สินค้าหรืองานบริการอื่นๆ แต่ก็ยังต้องอิงตามพื้นฐานหลักกลไกทางการตลาด อุปสงค์-อุปทาน

.

ดังนั้น เมื่อความต้องการการขนส่งมีน้อยลง ราคาค่าระวางก็ต้องมีการปรับลง เฉกเช่น สินค้าและบริการอื่นเช่นกัน

.

ภาพรวมของสถานการณ์ด้านค่าระวางทางเรือในช่วงนี้ จึงอยู่ในลักษณะที่ผู้ประกอบการ รวมถึงตัวแทนรับขนส่งประเภท NVOCC ทั้งกลุ่ม Freight Forwarder และ BOX Operator ยังคงเลือกที่จะวิ่งไปหาราคาค่าระวางในรูปแบบของ SPOT Rate Shipment หรือคุยต่อรองราคาระยะสั้น มากกว่า Service Contract Rate เสียเป็นส่วนใหญ่

.

เนื่องจากราคาแบบ SPOT Rate Shipment หรือการคุยต่อรองราคาแบบระยะสั้น อยู่ในลักษณะราคาแบบปล่อยไหลลอยตัวไปตามสภาพตลาด ดังนั้นในช่วงนี้ เราจึงได้เห็น ราคาค่าระวางในหลายเส้นทางการขนส่ง ต่ำกว่าราคาแบบคุยระยะยาวหรือ Service Contract Rate

.

หากแต่ในกรณีนี้ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้ เนื่องจากในบางสายการเดินเรือ มักไม่ค่อยอนุญาต ให้ตัวแทนรับขนส่งหรือ Freight Forwarder ทำการต่อรองราคาใหม่ ในกรณีที่  Freight Forwarder มีการทำสัญญาราคาระยะยาว หรือ Service Contract  ซึ่งมัดคอตัวเองไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะบรรดาตัวแทนรับขนส่งประเภท Global Forwarder Network ที่มักมี บริษัทแม่เป็นตัวแทนทำสัญญาค่าระวางระยะยาวให้แล้ว

.

ดังนั้น ทางเลือกเดียวคือ หนีไปจองเรือภายใต้ SPOT Shipment ที่เหมือนการจองตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตามช่องทาง Platform ของสายการเดินเรือต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่า การจองเรือภายใต้ SPOT Shipment Platform จะมีค่าปรับ Cancel Shipment ในกรณีที่เราเปลี่ยนใจและต้องการยกเลิก Shipment รวมถึงไม่สามารถทำการแก้ไขหรือเลื่อนเรือได้เช่นกัน

.

ดังนั้น นี่จึงยังเป็นจุดเด่นและข้อดี ของบรรดาตัวแทนรับขนส่ง ขนาดกลางลงมา รวมถึง Local Forwarder ที่มีความพริ้วมากกว่านั่นเอง

.

*******

5) สุดท้าย ประเด็นด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือทั่วโลก การขาดแคลนภาคแรงงานขนส่งและโควิด-19 ยังเป็นตัวแปรสำคัญ

.

ภาพรวมความหนาแน่นของท่าเรือทั่วโลก ยังคงอยู่ในภาวะตึงตัวอย่างมาก การระบายการสะสมของเรือและตู้สินค้าเป็นไปอย่างช้าๆ หลายท่าเรืออย่างในภูมิภาคยุโรป รวมไปถึงภูมิภาคอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตกยังคงอยู่ในจุดที่ แทบจะเต็มประสิทธิภาพหรือขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของท่า แต่ก็ยังมีความหนาแน่นของเรือที่รอเทียบท่าและตู้สินค้าสะสมอยู่ค่อนข้างมาก

.

หลายท่าเรือหลัก ต้องประสบกับปัญหาซ้ำเติม ในการนัดหยุดงานของเหล่าสหภาพแรงงานต่างๆ อย่าง ในภูมิภาคยุโรป ในขณะที่ฝั่งภูมิภาคอเมริกาเหนือ แม้ว่าการปฏิบัติงานของทุกท่าเรือในฝั่งตะวันตกยังคงดำเนินตามปกติ หากแต่สัญญาแรงงานระหว่าง ILWU กับ PMAได้หมดอายุลงไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมาและกำลังอยู่ในช่วงการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ ดังนั้นจึงไม่ต่างจากระเบิดเวลาเช่นกัน !!!

.

รวมถึงผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หลายท่าเรือหลักในประเทศจีน เริ่มเกิดความล่าช้าในการเข้าเทียบท่า เนื่องจากเรือสินค้าทุกลำต้องแสดงผลตรวจเชื้อของลูกเรือ และต้องรอการอนุมัติจากทางการจีนก่อนเข้าเทียบท่า  จึงทำให้เกิดการสะสมของเรือสินค้าตามชายฝั่งของประเทศจีน

.

ภาพรวมท่าเรือหลักในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ทรงตัวคงที่ทั้งสองฝั่ง และไม่มีแนวโน้มว่าจะทำการระบายเรือที่รอและตู้สินค้าได้ดีกว่านี้ โดยต้นเหตุของความหนาแน่น เกิดจากความล้มเหลวของระบบการขนส่งและการจัดการกระจายสินค้าภายในประเทศสหรัฐอเมริกา

.

อย่างท่าเรือหลักฝั่งตะวันออก USEC (USNYC/ USCHS/ USSAV/ USBAL/ USORF/ USMIA) มีเรือรอเทียบท่าประมาณ 150 -155 ลำ. และเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 7 -20 วัน. (โดยเฉพาะที่ USSAV มีเรือที่รอเทียบและที่เทียบแล้วกว่า 40ลำ โดยเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 10- 15 วัน).( เฉพาะที่ USNYC ใช้เวลารอมากกว่า 14-21วัน).

.

ทางด้านท่าเรือหลักฝั่งตะวันตก USWC (USSEA/ USTIW/ USOAK ) ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว. โดยมีเรือรอเข้าเทียบและเทียบที่ท่าแล้วประมาณ 35-40 ลำ. และใช้เวลารอเข้าเทียบท่ารวมถึงเวลาในการขนถ่ายอยู่ที่ 7-10 วัน (เฉพาะที่ USOAK ใช้เวลามากกว่า 15 วัน). ถัดมาในส่วนของท่าเรือฝั่งอ่าวหรือ Gulf port MID West อย่าง USHOU ยังอยู่ในสภาพจมูกปริ่มน้ำ โดยมีปริมาณเรือทั้งที่เข้าเทียบแล้วและที่รอเข้าเทียบขนถ่าย สะสมมากกว่า 80 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบอยู่ที่ 10-16 วัน

.

ด้านท่าเรือหลัก ที่จัดว่าหนาแน่นที่สุดและเป็นประตูบ้านของสหรัฐอเมริกา อย่าง (USLAX/ USLGB) ยังคงอยู่ในสภาวะตึงตัวและเกินขีดความสามารถของท่าในการระบายตู้สินค้า โดยมีเรือรอเข้าเทียบท่าประมาณ 70-75 ลำ (แบ่งเป็นอยู่ในรัศมี 25ไมล์ทะเลกว่า 45-50 ลำ และอยู่นอกเขต SAQA Zone ประมาณ 20-25 ลำ)  และใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 12 -24 วัน

.

ด้านท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป อย่าง NLRTM/ DEHAM/ BEANR ยังอยู่ในสภาพสาหัส ทั้งภาวะความหนาแน่นของปริมาณตู้สินค้าที่วางในท่าและจำนวนเรือที่รอเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่าย และยังไม่มีท่าทีจะระบายหรือหมุนเวียนคล่องตัวมากกว่านี้ โดยมีเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่าอยู่รวมกันเกือบ 800 ลำ ซึ่งแค่เฉพาะที่ NLRTM มีเรือเทียบแล้วและรอเทียบ 370-380 ลำ

.

สุดท้ายด้านภาพรวมของท่าเรือในภูมิภาคเอเชีย ที่ท่าเรือหลักฝั่งตะวันออกของประเทศจีน อย่าง CNSHA กลับมาปฏิบัติงานเต็มสูบอีกทั้ง เริ่มมีปัญหาติดขัดเรื่องปัญหาคนงานบางส่วนยังถูกกักตัว และการขนส่งรวมถึงการไหลตู้สินค้าเนื่องจากมีการปิดในบางเขตของเมือง โดยมีจำนวนเรือสินค้าที่ท่าและบริเวณโดยรอบประมาณ 6,200-6,300 ลำ ส่วนทางด้าน CNNGB อยู่ในสภาพที่ทรงตัวทุกเทอมินอล พื้นที่วางตู้สินค้าเกินความจุของท่าและยังคงมีปัญหาในการระบายตู้สินค้า โดยมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่าย ซึ่งมีจำนวน 1,000-1,100 ลำ

.

ด้านท่าเรือของจีนตอนล่างอย่าง HKHKG/ CNSHK/ CNYTN อยู่ในภาวะทรงตัวและคงที่ โดยมีเรือสะสมอยู่โดยรอบบริเวณทั้งสามท่า กว่า 1,100 -1,200 ลำ โดยเฉพาะที่ HKHKG มีจำนวนเรือสินค้าอยู่บริเวณท่าและที่รอเทียบท่ากว่า 950-1,000 ลำ โดยมาตรการในการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังคงเป็นตัวแปรหลัก ที่ทำให้เกิดการสะสมของตู้สินค้าและเรือที่รอเทียบหนาแน่นในประเทศจีนตอนล่าง

.

*******

6) สถานการณ์ในรอบสัปดาห์ ยังคงต้องติดตามปัญหาความหนาแน่นของท่าเรือหลักและภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก

.

ประเด็นหลักที่เรายังต้องคอยติดตามในช่วงสัปดาห์นี้ นั่นคือสถานการณ์ความหนาแน่นของบรรดาท่าเรือหลักทั่วโลก และความเคลื่อนไหวจากกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง มีได้มีเสีย ซึ่งมีผลต่อภาวะความหนาแน่นของท่าเรือ

.

อย่างกรณีข้อตกลงสัญญาจ้างแรงงานท่าเรือ ระหว่าง สหภาพแรงงานท่าเรือฝั่งตะวันตก หรือ ILWU กับ สมาพันธ์ผู้ให้บริการท่าเรือและสายการเดินเรือฝั่งแปซิฟิค หรือ PMA ที่ยังไม่สามารถข้อยุติ มีผลให้ ท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก หรือ US East Coast กลับมาเพิ่มความหนาแน่นยิ่งขึ้น เนื่องจาก ผู้ประกอบการหลายราย มีการเปลี่ยนท่าเรือปลายทางไปเป็นฝั่งตะวันออกมากขึ้น เนื่องจากไม่มั่นใจในสถานการณ์การเจรจาข้อตกลงฉบับใหม่

.

ในขณะที่ทางฝากฝั่งภูมิภาคยุโรป อย่าง ประเทศเยอรมัน ที่ต้องเจอกับการนัดหยุดงานเป็นระยะ จนร้อนถึงศาลแรงงานท้องถิ่นที่เมือง Hamburg ต้องออกมาแทรกแซงและเป็นตัวกลาง ซึ่งเบื้องต้นประสบความสำเร็จในการไกล่เกลี่ยกับสหภาพแรงงานท่าเรือ จึงเป็นที่ยืนยันแน่ชัดว่า นับจากนี้จะไม่มีการนัดหยุดงานของเหล่าคนงานที่ท่าเรือ DEHAM ไปจนถึงวันที่ 26 สิงหาคมนี้

.

รวมถึงภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลก ที่ภาพรวมดูหนักหนาและมีเกณฑ์เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่นักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์คาดการณ์ ตั้งแต่การล้มของประเทศศรีลังกา ไล่มาถึงเพื่อนบ้านเรา อย่าง ประเทศลาว ที่ดัชนีค่าเงินเฟ้อ ขึ้นสูงจนน่ากลัว

.

ในขณะที่แวดวงนำเข้า-ส่งออก ของเรา เริ่มมีสัญญาณที่ไม่ค่อยอยากเห็นสักเท่าไร นั่นคือ การที่พื้นที่ระวางขนส่งทางเรือในตลาดหดไปกว่าครึ่ง แต่ราคาค่าระวางขนส่งกลับปรับเพดานลงเกิน 6 สัปดาห์ติดต่อกัน แถมฝ่ายขายหรือเซลล์ของบางสายการเดินเรือ ที่เคยหายสาปสูญไปช่วงโควิด กลับติดต่อเข้ามาของานเพื่อเติมเรือให้เต็ม

.

ซึ่งสัญญาณเหล่านี้ มันอาจจะมีบ่งบอกว่า ช่วงฤดู Peak Season ในการขนส่งปีนี้ อาจไม่เหมือนเดิม และแน่นอนว่าบรรดาสายการเดินเรือ ต้องมีการลดอุปทานในการขนส่งลงอีก โดยการประกาศตารางเดินเรือว่างหรือ Blank Sailing เพิ่มขึ้นจากที่เราเห็นกัน

.

ดังนั้น สิ่งที่ผู้ประกอบการ รวมถึงตัวแทนรับขนส่ง หรือ Freight Forwarder ต้องหาทางรับมือ คือ การมีพันธมิตรการค้าที่เหนียวแน่นขึ้น รวมถึงการใช้ Technology Digital เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยในการทำธุรกิจ ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

.

ที่กล่าวมาทั้งหมด คือการสรุปภาพรวมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มและทิศทางของสัปดาห์นี้ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคของการขนส่งสินค้าทางเรือ

สัปดาห์นี้ ลาไปก่อน สวัสดี ขอบุญรักษาทุกท่านครับ

.

=============================

USA and North America Peak Season !!!

โค้งสุดท้ายสำหรับผู้ส่งออก ในเส้นทางไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ เพื่อให้ทันช่วง Peak Season และก่อนเทศกาลคริสมาสต์

สนใจ ติดต่อสอบถามค่าระวาง และตารางเดินเรือ ติดต่อพวกเรา ZUPPORTS !!!

.

=========================

ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk

=========================

ข่าวดี! ผู้นำเข้าส่งออก มองหาวิธีลดต้นทุนขนส่ง

.

แอดมินขอแนะนำแพลตฟอร์ม ZUPPORTS รวบรวมพันธมิตรผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำ กว่า 30 บริษัท สามารถเช็คราคาและจองขนส่งกันได้ง่ายๆ

.

และช่วงนี้มีโปรโมชั่น ผู้ส่งออก ร่วมกันจองขนส่งทางทะเล ไปสหรัฐอเมริกา มีเรทพิเศษ ช่วยลดต้นทุนกันได้แน่นอน สนใจลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้เลยที่

https://bit.ly/368GR84

ข่าวสารอื่นๆ