[Freight Weekly]: อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 5-9 ธันวาคม กับ ZUPPORTS!!! ต้อนรับการเข้าสู่สัปดาห์แห่งการปิดกล่องประจำปี 2565 !!!

อัพเดตสถานการณ์ขนส่ง

[Freight Weekly]: อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 5-9 ธันวาคม กับ ZUPPORTS!!!

 

ต้อนรับการเข้าสู่สัปดาห์แห่งการปิดกล่องประจำปี 2565 !!!

.

กลับมาพบกันอีกครั้งเหมือนเช่นเคยกับพวกเราชาว ZUPPORTS !!! ในทุกเช้าวันเริ่มต้นการทำงานของสัปดาห์ กับการรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหว และสถานการณ์ต่างๆ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือตามแบบฉบับของพวกเราชาว ZUPPORTS !!!

.

โดยสัปดาห์นี้ เข้าสู่สัปดาห์เริ่มต้นในเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นเดือนสุดท้ายของปี 2565 และจะเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ที่ค่อนข้างจะชุลมุนและวุ่นวายสำหรับคนทำงานหลายคน โดยเฉพาะคนที่ดูแลในส่วนงาน Operation และ งาน Document ที่ต้องจบทุกอย่างให้ทัน เนื่องจากมีเวลาในการทำงานเพียงสี่วัน จากวันหยุดราชการ

.

ขณะเดียวกัน สัปดาห์นี้เป็นช่วงเวลาที่ผู้ประกอบการหลายราย ต่างเข้าสู่ช่วงของการประเมินสถานการณ์และเป้าหมายสำหรับปีหน้า รวมถึงการปิดกล่อง เร่งปิด JOB งาน เพื่อสรุปผลประกอบการประจำปี

.

ดังนั้นช่วงเวลานับจากสัปดาห์นี้ไปถึงช่วงวันที่ 24 ธันวาคม จะยังคงเป็นช่วงเวลาที่ถือว่ามีความสำคัญและหนักหนา สาหัสสำหรับพวกเราทุกคนในวงการนำเข้า-ส่งออกกันพอสมควร

.

เกริ่นกันมาพอประมาณ ตามพวกเราชาว ZUPPORTS มาไล่เรียงกันทีละประเด็นกันเลย !!!

.

=========================

ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์

สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register

=========================

1) สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือหรือการบุ๊คกิ้ง พื้นที่ระวางมีน้อย การจองเรือล่วงหน้าเป็นสิ่งที่ต้องระวัง !!!

.

เริ่มเปิดประเด็นกันที่สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หรือการบุ๊คกิ้งสำหรับจองงานใหม่ ในหลายเส้นทางยังคงสามารถทำการจองได้ไม่ยากเย็น ขณะที่อีกหลายเส้นทางขนส่งเข้าสู่ภาวะยากเย็นในการจอง

.

สถานการณ์ของการจองเรือสำหรับงานใหม่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในหลายเส้นทางการขนส่ง ยังคงสามารถทำการจองเรือได้ค่อนข้างคล่องตัว พื้นที่ระวางขนส่งยังคงเปิดกว้าง อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรป หรือ Asia-North Europe Trade รวมถึงเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia-North America

.

ทั้งนี้ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่ง ยังคงอยู่ในภาวะที่ซบเซาตามสภาพเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคหลัก อย่าง ภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ ซึ่งเดิมเป็นฐานของตลาดหลักในการขนส่ง ดังนั้นเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคในตลาดหายไป ความต้องการในภาคการขนส่งก็จะหดตัวตามลงไป

.

หากแต่ เราเริ่มที่จะเห็นสัญญาณความหนาแน่นก่อตัวขึ้น ในช่วงเดือนสุดท้ายส่งท้ายปี อย่างในเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือฝั่งตะวันตก หรือ Asia – North America WC โดยเฉพาะรอบเรือที่ขนส่งออกจากประเทศจีนในช่วงกลางเดือนธันวาคม ที่เริ่มเข้าสู่ภาวะพื้นที่ระวางขนส่งแน่น

.

ขณะเดียวกัน ในหลายเส้นทางการขนส่ง กลับตกอยู่ในภาวะที่ต้องทำการจองเรือล่วงหน้า อย่างน้อย 3 -5 สัปดาห์เป็นอย่างน้อย เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่งและรอบเรือที่ให้บริการที่มีจำกัดและหุบแคบลง โดยมีสาเหตุมาจากการที่หลายสายการเดินเรือมีการปล่อยตารางเรือว่างมากขึ้น อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America Transatlantic

.

ภาพรวมการจองเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา บุ๊คกิ้งยืนยันการจองที่ปล่อยจากสายการเดินเรือส่วนใหญ่ จะยังคงเป็นการจองเรือภายใต้การต่อรองค่าระวางขนส่งระยะสั้น หรือ SPOT Rate Shipment รวมไปถึงราคาค่าระวางประเภท FAK/ GDSM

.

หากแต่ในหลายเส้นทางการขนส่ง บุ๊คกิ้งยืนยันการจองที่ปล่อยออกมา เป็นการจองภายใต้สัญญาค่าระวางขนส่งระยะยาว หรือService Contract Rate NAC/ Bullet ต่างๆ เนื่องจากเริ่มที่จะทำการจองเรือยากขึ้น เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่งที่มีจำกัด

อย่าง ในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America Westbound

.

*******

2) สถานการณ์ในการจัดหาและการหมุนเวียนของตู้สินค้า ตู้สินค้าเปล่ายังคงมีเพียงพอในหลายภูมิภาคหลัก

.

ด้านสถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้า ในหลายภูมิภาคยังไร้ปัญหา สามารถทำการหมุนเวียนได้ดี หากแต่อีกหลายภูมิภาคยังตกอยู่ในสถานะขาดแคลนอย่างแสนสาหัส !!!

.

ทางด้านภาพรวมการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ในหลายภูมิภาคยังคงอยู่ในภาวะที่สามารถหมุนเวียนตู้สินค้าได้คล่องตัว โดยเฉพาะในภูมิภาคที่เป็นฐานการผลิตหลักของโลก

.

อย่างในภูมิภาคเอเชีย ทั้งนี้ก็เนื่องจากอุปสงค์ หรือภาวะความต้องการในภาคการขนส่งที่ลดน้อยลง จากสภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่ภาวะถดถอย ส่งผลให้คำสั่งซื้อจำนวนมากถูกยกเลิก การหมุนเวียนของตู้สินค้าจึงยังคงจำกัดอยู่ในวงแคบๆเป็นหลัก

.

หากแต่ ยังมีอีกหลายภูมิภาคที่ยังคงประสบกับภาวะขาดแคลนตู้สินค้า เนื่องจากอุปสงค์ความต้องการในภาคขนส่งหดตัว ประกอบกับความถี่ของรอบเรือที่น้อยลงจากการที่หลายสายการเดินเรือประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ส่งผลให้ไม่มีการหมุนเวียนของตู้สินค้า

.

อย่างในภูมิภาคยุโรปตอนล่าง หรือ Mediterranean Trade รวมถึง ตามพื้นที่ตามใจกลางแผ่นดิน หรือตามท่าแห้ง ICD/ IPI /Dry Port ต่างๆ อย่าง ตอนกลางของภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ รวมถึงในภูมิภาคเอเชียใต้

.

ในขณะที่ในประเทศไทยบ้านเราเอง หลายสายการเดินเรือสามารถจัดหาและทำการหมุนเวียนหล่อเลี้ยงได้คล่องตัว ภาพรวมของตู้สินค้าเปล่าค่อนข้างจะ เกินความต้องการในภาคการขนส่ง เนื่องจากปริมาณการจองเรือในหลายเส้นทางการขนส่ง ลดน้อยถอยลงตามสภาพเศรษฐกิจโลก

.

ขณะที่ในบางสายการเดินเรือ เริ่มมีปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าบางประเภทให้เห็นบ้าง หากแต่ยังไม่ถึงกับเข้าขั้นวิกฤติเหมือนก่อนหน้า ดังนั้น การตรวจสอบหรือเช็คบุ๊คที่ลานล่วงหน้า รวมถึงการวางแผนในการเผื่อเวลากรณีตามช่างมาทำการซ่อมตู้ จะยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากสภาพตู้สินค้าของบางสายการเดินเรือในช่วงนี้ ตัดเกรดที่ -B

.

*******

3) สถานการณ์ความเสถียรของตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่งทาเรือ อย่ามองหาความแน่นอน ในการขนส่งทางเรือ !!!

.

ทางด้านสถานการณ์ความนิ่งของตารางเดินเรือ หลายเส้นทางการขนส่งยังอยู่ในภาวะที่ปั่นป่วน เอาความแน่นอนไม่ค่อยได้ ขณะที่ระยะเวลาในการขนส่งสินค้าทางเรือในหลายเส้นทาง ยังคงยาวนานกว่าภาวะปกติ

.

ภาพรวมของสถานการณ์ตารางเดินเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเส้นทางการขนส่ง ยังคงอยู่ตกอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ ทั้งจากปัญหาความล่าช้า หรือ Delay Onboard /Delay Arrival ,การข้ามไม่เข้าในบางท่าเรือ หรือ SKIP Call/ OMIT รวมถึงภาวะที่สายการเดินเรือมีการปล่อยตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ซึ่งกำลังกลายเป็น ปรากฎการณ์ใหม่ สำหรับคนทำงานในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก

.

โดยในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ในเส้นทางการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia-North America Transpacific Eastbound ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่างไปแล้วเกือบ 60 เที่ยวเรือ หรือคิดเป็นร้อยละ 28 จากจำนวนรอบเรือที่ให้บริการทั้งหมด

.

ขณะที่ในเดือนธันวาคมนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 1 ธันวาคมที่ผ่านมา พบว่า ทุกสายการเดินเรือมีการประกาศตารางเรือว่างไปแล้ว 56 รอบเรือ ซึ่งแน่นอนว่า ตัวเลขของรอบเรือที่หายไปในช่วงสิ้นเดือน จะสูงกว่าที่เห็นแน่นอน

.

รวมไปถึง ภาวะที่หลายกลุ่มพันธมิตรสายการเดินเรือ ยังคงเดินหน้าปล่อยตารางเรือว่าง เพื่อรักษาสมดุลในภาคการขนส่ง รวมถึงการหุบหรือระงับการให้บริการในหลายเส้นทางการขนส่ง โดยเฉพาะในเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก หรือ Asia-North America USEC and USWC

.

ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์ความไม่แน่นอนของตารางเดินเรือ จะส่งผลกระทบทางตรงในฝั่งผู้ประกอบการหรือคนที่ดูในส่วนฝั่งขานำเข้าจากต่างประเทศอย่างเลี่ยงไม่ได้ ทั้งภาวะที่ต้นทางไม่สามารถจับหรือหารอบเรือได้ตรงความต้องการ รวมถึงภาวะที่ระยะเวลาที่ใช้ในการขนส่งสินค้ายาวนานขึ้น

.

**************

4) สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หลายเส้นทางยังเป็นขาลง และอีกหลายเส้นทางเริ่มกดไม่ลง !!!

.

ทางด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หรือ ค่าเฟรท ในหลายเส้นทางการขนส่ง ดัชนีค่าเฉลี่ยยังคงเป็นทิศทางขาลง หากแต่ในภาวะตลาดจริง หลายเส้นทางไม่ได้ปรับลดลงตามดัชนีโลก

.

ภาพรวมของค่าระวางขนส่งทางเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยังเป็นช่วงปรับเพดานลดลง ตามอุปสงค์หรือความต้องการในภาคการขนส่งที่อ่อนตัวตามภาวะเศรษฐกิจโลก

.

ดัชนีค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับตัวลดลงคิดค่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 40 โดยดัชนีมาปิดอยู่ที่ USD 2,284 per 40’GP โดยเป็นการปรับตัวลดลงคิดเป็น ร้อยละ 5 เมื่อเทียบจากสัปดาห์ที่แล้ว และเป็นการปรับตัวลดลงคิดเป็น ร้อยละ 75 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของเมื่อปีที่แล้ว

.

หากแต่ ค่าดัชนีในปัจจุบัน ยังคงอยู่ในจุดที่สูงกว่า ดัชนีค่าเฉลี่ยของเมื่อปี 2019 หรือช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ถึงร้อยละ 61 ซึ่งดัชนีค่าเฉลี่ยในช่วงเวลานั้น อยู่ที่ USD 1,420 per 40’GP.

.

โดยเส้นทางที่ค่าระวางขนส่งทางเรือ ปรับตัวลงแรงที่สุด ยังคงเป็นเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือและภูมิภาคยุโรป โดยเฉพาะเส้นทางที่ขนส่งออกจากท่าเรือประเทศจีน

.

ขณะเดียวกันในหลายเส้นทางการขนส่ง ราคาค่าระวางไม่ได้วิ่งไปในทิศทางเดียวกับดัชนีโลก หากแต่กลับยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น หรืออยู่ในภาวะตรึงแนวราคาคงที่ เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่ง ยังคงอยู่ในจุดที่สูงกว่าอุปทานหรือพื้นที่ระวางที่ให้บริการ

.

อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาใต้ หรือ Asia- Latin America Trade รวมไปถึงเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกกลาง Asia-Indian Subcontinent & Middle East Trade ที่ค่าระวางมีการปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป

.

ดังนั้นถ้ามองจากภาพรวมของค่าระวางขนส่งทางเรือในทุกเส้นทางในช่วงเวลานี้ นับว่า เราเริ่มเข้าใกล้จุดที่จะได้เห็นความนิ่งของค่าระวางเข้าไปทุกที !!!

.

************

5) ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก หลายท่าเรือยังคงตกในภาวะเหมือนคนจมน้ำ จากปัจจัยปัญหาต่างๆ

.

ประเด็นสุดท้าย ในด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักๆทั่วโลก หลายท่าเรือจะยังคงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จากวิกฤติความหนาแน่น โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาคอขวดในการระบายและไหลสินค้าจากท่าเรือเข้าสู่ภูมิภาค

.

ด้านภาพรวมของท่าเรือหลักทั่วโลก หลายท่าเรือยังคงประสบกับภาวะหนาแน่น จากปัญหาคอขวด ตู้สินค้าจำนวนมากทั้งส่วนขาเข้าและส่วนขาออก ต่างได้รับผลกระทบในการขนส่งต่อเนื่อง อย่างในภูมิภาคยุโรป,ภูมิภาคอเมริกาเหนือ รวมถึงท่าเรือหลักภายในภูมิภาคเอเชียเอง

.

โดยมีสาเหตุจากการขาดแคลนแรงงานและอุปกรณ์ในภาคการขนส่ง ทั้งทางรางและทางถนน รวมไปถึงปัญหาในการนัดหยุดงานของแรงงานในท่าเรือ และการนัดหยุดงานของสหภาพแรงงานในฝั่งขนส่ง

.

ทางด้านภาพรวมของท่าเรือหลักทั้งสองฝั่งของประเทศสหรัฐอเมริกา ยังคงภาวะคงที่  โดยสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักฝังตะวันตก หรือ USWC เริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะปกติเช่นก่อนช่วงการระบาดของไวรัสโควิด-19 ปริมาณเรือที่รอเทียบท่าเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ยังจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ตึงมือเนื่องจากปัญหาคอขวด ในขณะที่ท่าเรือหลักในด้านตะวันออกหรือ USEC ตกอยู่ในภาวะที่หนาแน่นทั้งปริมาณตู้สินค้าและมีเรือสินค้าที่ล้นมาจากฝั่งตะวันตก โดยตกอยู่ในภาวะคอขวดเช่นกัน

.

อย่างท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก หรือ USEC (USNYC/ USCHS/ USSAV/ USMIA) มีจำนวนเรือรอเทียบท่าและที่เทียบท่าประมาณ 75-80 ลำ. โดยเรือสินค้าใช้เวลารอเข้าเทียบ รวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายที่ท่า อยู่ที่ 3-7 วัน. (โดยเฉพาะที่ USSAV มีเรือที่รอเทียบและที่เทียบท่าเกือบ 30 ลำ โดยเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 7-18 วัน).(เฉพาะที่ USNYC มีจำนวนเรือสินค้ารอ มากกว่า 12-15 ลำ และใช้เวลารอ 5-10 วัน).

.

ทางด้านท่าเรือหลักฝั่งตะวันตก หรือ USWC (USSEA/ USTIW/ USOAK ) ยังคงภาวะทรงตัว โดยมีเรือรอเข้าเทียบและเทียบที่ท่าแล้วประมาณเกือบ 50 ลำ. และใช้เวลารอเข้าเทียบท่ารวมถึงเวลาในการขนถ่ายอยู่ที่ 2-5 วัน (เฉพาะที่ USOAK ใช้เวลารอเทียบประมาณ 7-14 วัน). ในขณะที่ท่าเรือฝั่งอ่าวหรือ Gulf Port MID West อย่าง USHOU ยังคงอยู่ในภาวะหนาแน่น โดยมีจำนวนเรือตู้สินค้าทั้งที่เข้าเทียบแล้วและที่รอเข้าเทียบขนถ่ายประมาณเกือบ 30 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบอยู่ที่ 12-18 วัน

.

ส่วนทางด้าน สองท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา อย่าง (USLAX/ USLGB) ในแง่ของปริมาณ เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติเช่นก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 เนื่องจากสินค้าจำนวนไม่น้อยยังคงถูกย้ายหนีไปขึ้นที่ท่าเรือฝั่งตะวันออก จากความกังวลเรื่องการนัดหยุดงาน หากแต่ก็ยังประสบกับปัญหาคอขวดในการขนส่งต่อเนื่อง โดยมีเรือรอเข้าเทียบท่าอยู่ในรัศมี 25 ไมล์ทะเลประมาณ ไม่ถึง 10 ลำ และใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 2 -7 วัน  และตู้สินค้าที่ต้องขึ้นรางต่อ ใช้เวลารอ 15 -21 วัน

.

ทางด้านสามท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป อย่าง NLRTM/ DEHAM/ BEANR เริ่มอยู่ตัว โดยท่าเรือหลักอย่าง BEANR มีการนัดหยุดงาน 3 วัน หากแต่ไม่ส่งผลกระทบมากนัก โดยพื้นที่ความจุในท่าเรือถูกใช้จนเกือบเต็มศักยภาพ รวมถึงลานและโกดังบริเวณโดยรอบ แต่ยังคงสามารถบริหารจัดการได้ โดยภาพรวมทั้งสามท่าเรือ มีจำนวนเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่ารวมกัน ประมาณ 750-770 ลำ ซึ่งแค่เฉพาะที่ NLRTM มีเรือเทียบท่าขนถ่ายแล้วและที่รอเทียบประมาณ มากกว่า 350 ลำ

.

สุดท้าย สถานการณ์ของท่าเรือหลักต่างๆภายในภูมิภาคเอเชีย ในหลายท่าเรือ เริ่มที่จะประสบกับปัญหาความหนาแน่น เรือสินค้าใช้เวลารอเข้าเทียบนานกว่าปกติ ในขณะที่หลายท่าเรือ มีการผ่อนคลายลง สามารถทำการระบายตู้สินค้าและปริมาณเรือได้ดีขึ้น

.

ด้านท่าเรือหลักๆในประเทศจีน มีการสะสมของเรือสินค้าและตู้สินค้าตกค้างบริเวณท่าเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากทางการจีนยังคงมาตรการ ZERO Covid-19 ในหลายเมืองหลัก ส่งผลให้เกิดปัญหาคอขวดในการระบายตู้สินค้าจากเมืองท่าไปยังพื้นที่ปิดล็อค

.

โดยท่าเรือหลักฝั่งตะวันออกของประเทศจีน อย่าง ท่าเรือหลัก CNSHA มีจำนวนเรือสินค้าสะสมที่ท่าและบริเวณโดยรอบ ประมาณเกือบ 5,000 ลำ ส่วนทางด้าน CNNGB เริ่มอยู่ในภาวะทรงตัวและคงที่ หากแต่ใช้พื้นที่ในเขตท่าเรือเกือบเต็มความจุ สืบเนื่องจากหลายเมืองโดยรอบยังคงภายใต้ล็อคดาวน์เมือง โดยมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่าย ประมาณกว่า 800 ลำ

.

ขณะที่ทางด้านท่าเรือหลักของจีนตอนล่าง อย่าง HKHKG/ CNSHK/ CNYTN อยู่ในภาวะทรงตัว พื้นที่ในเขตท่าเรือค่อนข้างแน่น ติดขัดปัญหาการไหลเวียนของตู้สินค้าและเรือสินค้า โดยเฉพาะในส่วนของลานตู้สินค้าแบบ Reefer Container อันเนื่องจากการล็อคดาวน์ในบางเขตของเมือง Shenzhen รวมถึง Guangzhou และการจำกัดปริมาณรถขนส่งที่ข้ามพรมแดนระหว่าง Hong Kong  กับแผ่นดินใหญ่

.

โดยทั้งสามท่าเรือ มีเรือสินค้ามีเรือสะสมอยู่โดยรอบ 1,100 ลำ โดยเฉพาะที่ HKHKG มีจำนวนเรือสินค้าอยู่บริเวณท่าและที่รอเทียบท่า ประมาณ 900 ลำ

.

****************

6) ความเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ที่เรายังต้องติดตาม อยู่ที่สถานการณ์ค่าระวางขนส่งและสถานการณ์นัดหยุดงานของสหภาพแรงงานขนส่งทางรางของสหรัฐอเมริกา !!!

.

สถานการณ์ที่พวกเราทุกคนต้องติดตามในรอบสัปดาห์นี้ ยังหนีไม่พ้นเรื่องของค่าระวางขนส่งทางเรือ หรือ ค่าเฟรท ซึ่งผู้ประกอบการรวมไปถึงหลายคนในวงการนำเข้า-ส่งออกให้ความสนใจอย่างมาก เนื่องจากเป็นเรื่องของต้นทุนทางธุรกิจ

.

ซึ่งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีค่าเฉลี่ยปรับตัวลงค่อนข้างน้อยและเริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะคงที่ ไม่ไหลลงแรงอย่างที่หลายคนเฝ้ารอ นี่จึงอาจเป็นสัญญาณหนึ่งที่จะบ่งชี้ถึงระดับความลึกของค่าระวางขนส่งในเวลาอันใกล้ ขณะเดียวกัน ในหลายเส้นทางการขนส่ง หลายสายการเดินเรือ เริ่มมีการส่งสัญญาณ โดยการประกาศปรับขึ้นราคาค่าระวางขนส่ง ในรูปแบบ GRI (General Rate Increase) ในช่วงกลางเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้

.

รวมถึงมีการปรับในส่วนของค่าน้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Bunker/ LSS/ FAF ตามความผกผันของราคาเชื้อเพลิงโลก ดังนั้น เรื่องของค่าเฟรท จึงเป็นอีกเรื่องที่เราต้องตามดูว่า ตลาดจะเป็นไปในทางใด ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ !!!

.

รวมไปถึงสถานการณ์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา กับประเด็นร้อน อย่าง ท่าทีการนัดหยุดงานของสมาชิกกลุ่มสหภาพแรงงานรถไฟ ซึ่งหากยังไม่มีความคืบหน้าในส่วนของสัญญาจ้างงาน ที่กำลังจะหมดอายุลงในเวลาเที่ยงคืน ของ วันที่ 8 ธันวาคมที่จะถึงนี้

.

และหากกลุ่มสหภาพทั้งหลาย ทำการหยุดเดินรถจริง นั่นหมายถึง ระบบวงจรห่วงโซ่อุปทาน ในทุกหมวดหมู่อุตสาหกรรมของประเทศสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่จุดดับทันที ซึ่งเราต้องจับตาดูว่า ผู้นำของสหรัฐกับสภาคองเกรส จะแก้วิกฤติได้อย่างไร ???

.

ที่กล่าวมาทั้งหมด คือ สถานการณ์ รวมถึงทิศทางและแนวโน้มในวงการนำเข้า-ส่งออก ภาคการขนส่งสินค้าทางเรือในรอบสัปดาห์ แล้วพบกับพวกเราชาว ZUPPORTS ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า

.

สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน สวัสดีครับ

.

CR : PIC by John Mueller

.

=========================

ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk

=========================

.

สำหรับเพื่อนๆและผู้ประกอบการ ที่กำลังมองหากุนซือที่ปรึกษาข้างกายในโลกของการขนส่ง

.

วันนี้แอดมินขอแนะนำ บริการเสริมสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ด้วยบริการ “โลจิสติกส์ บริกร” ที่จะคอยเคียงข้างให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถาม ที่คาใจในเรื่องการขนส่งแบบส่วนตัว!!!

.

รวมถึงรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก แบบที่คุณห้ามพลาด

สนใจในบริการสุดพิเศษนี้ คลิกและลงทะเบียนได้เลยที่

https://forms.gle/PumFkpEWsNbDjQCo6

.

เช็คราคาเฟรทขนส่งทางทะเล เบื้องต้น ได้ง่ายๆไปกับบริการ Freight Rate Trend โดย #ZUPPORTS x #TNSC

www.zupports.co/register

ข่าวสารอื่นๆ