เริ่มกันที่ โรงงาน อุตสาหกรรม…
ที่โรงงานผลิต Tablet และมือถือ Lenovo พนักงานทุกคนที่มาทำงาน จะต้องตรวจอุณหภูมิร่างกาย อย่างน้อย 4 ครั้ง และหากใครก็ตามที่มีอุณหภูมิสูงเกิน 37.3 องศาเซลเซียส ก็จะโชว์ขึ้นในระบบ และถูกหน่วยจู่โจม ต่อต้านไวรัส ในบริษัท จัดการ
ห้องประชุมต่างๆ ก็ถูกปรับให้คนเข้าประชุมได้เพียง 50% ของที่ออกแบบเอาไว้ เช่น จากเดิมประชุมได้ 6 คนในห้อง ก็ให้เหลือ 3 คน
ในโรงอาหาร ก็จัดให้มีฉาก หรือ Partition กั้นพร้อมกับคำเตือนไม่ให้พูดคุยกัน…
คติพจน์: หมั่นล้างมือ, รีบออกจากโรงอาหารหลังกินอาหารเสร็จ, และอย่าคุยกัน ให้รีบกินๆ เข้าไป Cr. Bloomberg
มีการติดป้ายแสดงว่าพื้นที่ในโรงงานได้รับการฆ่าเชื้อโรคล่าสุดเมื่อไหร่ การใช้หุ่นยนต์ทดแทนการเคลื่อนที่ของคนให้มากที่สุด
และลิฟต์กลายเป็นอดีต (เสียใจด้วย) ทุกคนต้องเดิน ขึ้น-ลง บันไดแทน และห้ามเดินเจ๊าะแจ๊ะคุยกัน
Cr. Bloomberg
ห้างสรรพสินค้าและร้านอาหาร…
ถึงแม้ห้าง และร้านอาหารบนห้างจะกลับมาเปิดแล้ว แต่ห้างกลับต้องพบกลับความว่างเปล่า ร้านอาหารก็เช่นกัน โดยลูกค้าใช้วิธีการสั่งกลับบ้านแทน การทานอาหารในร้าน
Cr. Bloomberg
ผู้ประกอบการร้านอาหารรายหนึ่ง ชื่อ คุณหวัง ระบุว่า ถึงแม้ อู่ฮั่นจะเปิดเมืองตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์ รัฐบาลก็ยังไม่อนุญาตให้เปิดร้านเต็มรูปแบบ ได้แค่การสั่งกลับบ้าน
ซึ่งเขาเองก็ยังต้องช่ายค่าเช่าที่ล่วงหน้าถึง 3 เดือน เป็นเงินมากกว่า 300,000 บาท และด้วยความกลัวว่าจะมีการระบาดรอบสองซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลงไปอีก
ดังนั้น คุณหวัง จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากตัดสินใจปิดกิจการ…
“ในอู่ฮั่น มีหลายคนเป็นเหมือนผมที่ไม่สามารถกลับไปที่จุดเดิมก่อนที่โรคจะระบาด”
“พวกเราไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างเพียงพอจากทางรัฐบาล และถึงแม้รัฐบาลจะช่วยจริงๆ มันก็ช้าเกินไปเสียแล้ว”
“พวกเราประเมินว่ามีโอกาสสูงมาก ที่จะเกิดการแพร่ระบาดรอบสอง เราจึงต้องไปหางานอย่างอื่นทำแทน”
คุณหวัง ให้สัมภาษณ์ กับทาง CNN
การคมนาคม…
สถานีรถไฟใต้ดินค่อนข้างเงียบเหงา และมีการตรวจเช็คอย่างเข้มข้น โดยผู้โดยสารจะต้องทำการมือถือ สแกน เพื่อเช็ค “สภานะทางสุขภาพ” ซึ่งเชื่อมต่อกับระบบจ่ายเงิน Alipay และ Wechat pay
คือทางจีนแบ่งคนเป็น 3 สถานะ คือ เขียว, เหลือง, และแดง
สีเขียว คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำไม่ได้มีการพบปะกับผู้ติดเชื้อ
สีเหลือง คือ คนที่มีประวัติพบปะกับผู้ติดเชื้อ ซึ่งก็ต้องโดนกักตัว
ส่วนสีแดง ก็คือ คนที่มีอาการ หรือคนที่ติดเชื้ออยู่
โดยคนที่จะเดินทางข้ามเมืองได้ ต้องมีโค้ดสีเขียวเท่านั้น
Cr. Bloomberg
แต่รถยนต์ก็เริ่มกลับมาขายได้ มีรายงานยอดขายรถยนต์ที่ศูนย์ Audi ในอู่ฮั่น หลังเปิดเมือง ขายได้ประมาณวันละ 7 คัน ยอดขายกลับมาเทียบเท่ายอดขายเมื่อ ช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
และคนก็ยังกลัวการนั่งรถแท็กซี่ หรือเรียก Didi ด้วย
คือ รถติดมันก็น่าเบื่อก็จริง แต่อย่างน้อยๆ ก็รักษา Social Distancing ได้
สำหรับยอดขายรถยนต์ในภาพรวมของจีน โดยเฉลี่ย ก็เพิ่มกลับมาแถวๆ 50% ของยอดเดิมแล้ว แต่ระยะยาวก็คงต้องดูเพราะถ้าเศรษฐกิจยังแย่ต่อเนื่อง ก็กระทบกำลังซื้ออย่างแน่นอน
Cr. Bloomberg
(ในไทยไม่รู้ว่าจะมีตังค์เหลือไปซื้อรถรึเปล่านะ และตอนนี้ถนนก็ไม่มีจะให้วิ่งละ ไม่รู้จะติดยังไงได้อีกแล้ว ข้อดีคือ โรงเรียนในไทยยังปิดยาวๆ ไป)
บรรจุภัณฑ์ อาหาร…
อันนี้ขึ้นกับ ขายของเข้าอุตสาหกรรมไหน โดยความต้องการบรรจุภัณฑ์สำหรับการสั่งอาหารออนไลน์เพิ่มก็จริง แต่มีบางบริษัทในจีน ทำบรรจุภัณฑ์อาหารให้สายการบิน ยอดขายก็เลยตกกว่า 50%
อู่ฮั่น เป็นเมืองขนาดใหญ่ ที่มีประชากรกว่า 11 ล้านคน ริมลุ่มแม่น้ำแยงซี เป็นศูนย์กลางการคมนาคมของประเทศ โดยเป็นเมืองแรกในจีน ที่ถูกสั่ง Lockdown โดยเริ่มการการเดินทางเข้า-ออก เมือง เมื่อวันที่ 23 มกราคม
แต่ดูเหมือนความพยายาม ก็ยังไม่เพียงพอทำให้ตอนนี้คนติดเชื้อกันทั่วโลกกว่า 2.85 ล้านคนแล้ว (25 เม.ย.)
โดยเฉพาะในมณฑลหูเป่ย ที่ตั้งเมืองอู่ฮั่น มีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 68,000 ราย และผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,500 ราย
ชาวตะวันตก บางประเทศ เช่น อังกฤษ และสวีเดน เลือกใช้กลยุทธ์อีกขั้วหนึ่ง นั่นคือ การใช้นโยบายภูมิคุ้มกันหมู่ หรือ “Herd Immunity”
ชาวสวีเดนใช้ชีวิตตามปกติ ปล่อยให้ติดเชื้อ Cr. Dailymail
หรือ การปล่อยให้ติดโรคให้เยอะๆ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน แล้วโรคระบาดก็จะหยุดเอง ซึ่งก็ยังต้องรอคำตอบ ว่ากลยุทธ์นี้จะดีจริงหรือไม่ ซึ่งดูเหมือนอังกฤษจะล้มเลิกความคิดนี้แล้ว…
แต่หากเราลองไปดูภาพนี้ที่ ฟิลาเดลเฟีย ปี ค.ศ. 1918…
Cr. Philadelphia Inquirer
หลังจากการระบาดของไข้หวัดสเปน (The Spanish Flu) เมื่อปี ค.ศ. 1918 หลังจากปลด Lockdown
ที่เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้มีขบวนพาเหรดเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจในสงครามโลกครั้งที่ 1
ผู้คนกว่า 200,000 คนฉลองกันอย่างมีความสุข ในช่วงปลายเดือนกันยายน
แต่ 72 ชั่วโมงหลังจากนั้น โรงพยาบาลทั้ง 31 แห่งในฟิลาเดลเฟียเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ และจบลงด้วยผู้เสียชีวิต กว่า 4,500 ราย ที่เสียชีวิตด้วยไข้หวัดสเปน หรือโรคแทรกซ้อน…
เราอาจคิดว่าจะกลัวติดเชื้อจนเสียชีวิต หรือจะกลัวอดตายดี??
แต่ดูภาพนี้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด ก็คงเป็น การ์ดห้ามตก ถึงแม้บางจังหวัดจะเปิด Lockdown แล้ว
ก็ต้องใส่หน้ากาก หมั่นล้างมือ รักษาความสะอาด
ยอมอดทนกันหน่อย อย่าเพิ่งไปเที่ยวเฉลิมฉลองกันเป็นอันขาด
เพราะเราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบที่ฟิลาเดลเฟีย…
════════════════
ช่วย SMEs นำเข้า ส่งออก
หาขนส่งมืออาชีพ
════════════════
ที่มา:
https://freepress.org/article/trumparade-2018-stupidest-idea-philadelphia-liberty-loan-parade-1918
https://www.autonews.com/china/quick-rebound-wuhan-car-sales-give-hope-battered-industry
👫 พิเศษสุด! “นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า Marketplace”
สำหรับเพื่อนๆ นำเข้า ส่งออก เชิญค้าขายกันได้เลย
https://www.facebook.com/groups/573677150199055/?source_id=416086589242286
❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก
👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า–ส่งออก