World Bank ประเมิน GDP ไทย ปี 2564 โตลดลง จาก 3.4% เหลือ 2.2% การส่งออก กลายเป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจในช่วงเวลานี้

ธนาคารโลก (World Bank) ได้ออกบทวิเคราะห์ Thailand Economic Report เดือน กรกฏาคม ปี 2564 โดยมีการประเมินว่า GDP ของไทยในปีนี้ จะเติบโตเพียง 2.2% จากเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ประเมินว่าจะเติบโตที่ 3.4%

แนวโน้มการเติบโตที่ลดลง มาจากสาเหตุหลักๆ ก็คือ การระบาดของโควิดในระลอกปัจจุบัน ที่ทางภาครัฐออกมาตรการเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาด แต่ก็กระทบต่อภาคการบริโภค และที่สำคัญคือ โอกาสที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาเที่ยวไทย ก็ยังมองไม่เห็น

คิดภาพ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่เคยมาเที่ยวกันมากกว่า 40 ล้านคน ปีนี้ตอนแรกประเมินไว้ที่ 4-5 ล้านคน และล่าสุด ลดลงเหลือเพียง 6 แสนคน…

แต่ก็ยังมีปัจจัยบวก ที่ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนใกล้ แตะตัวเลข 33 บาท ต่อเหรียญดอลล่าร์สหรัฐฯ แล้ว และประเทศคู่ค้าเริ่มเปิดประเทศ เร่งสั่งสินค้าจากไทย ทำให้ภาคการส่งออก กลับมาเป็นเครื่องยนต์หลัก ที่ยังพอสร้างรายได้เข้าประเทศได้

ทั้งนี้ ทางธนาคารโลก ยังให้มุมมองเอาไว้ อย่างน่าสนใจอีกหลายประเด็น รวมไปถึงปัจจัยสำคัญที่จะชี้ชะตาว่า เศรษฐกิจไทย จะพลิกกลับมาได้ในปีหน้าหรือไม่

บทความนี้แอดมินสรุปประเด็นเป็นข้อๆ ให้อ่านกัน

หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย

=========================

ไม่พลาดทุกข่าวสาร นำเข้า ส่งออก

ลงทะเบียนฟรี วันนี้ ที่ www.zupports.co/register

=========================

1) GDP ไทยในไตรมาสที่ 1 ที่ผ่านมา หดตัว 2.6% ต่อเนื่องมาจากปี 2563 ที่หดตัวไป 6.1% ถือเป็นการหดตัวทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดประเทศหนึ่ง ในบรรดาสมาชิกอาเซียน

2) ถึงแม้ว่ามูลค่าการส่งออก จะปรับตัวเพิ่มขึ้น จากประเทศคู่ค้า เริ่มกลับมาสั่งสินค้าจากไทย ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นตัวของการส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ อิเล็กทรอนิคส์ เครื่องจักร และสินค้าเกษตร แต่ก็ไม่มากพอที่จะดึง GDP ให้เป็นบวกได้

3) แต่มูลค่านำเข้าก็ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งเพื่อนๆ นักลงทุน ที่มาสายนี้อาจมีส่วนรวมในการขึ้นมาแล้วหลายตัว ทั้ง เหล็ก ถ่านหิน น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงต้นทุนขนส่ง ซึ่งกระทบต่อต้นทุนสินค้าบริการ

4) หากดูเรื่อง การเงินของไทย ทั้งเงินตราสำรองระหว่างประเทศ และการตั้งสำรองของธนาคารไทย ก็ยังมีสัดส่วนที่สูง อย่างไรก็ตาม World Bank ระบุว่า “น่าเป็นห่วง” ก็คือ ภาระหนี้ครัวเรือน และภาค SMEs ที่ต้องบอกว่าขาดแคลนสภาพคล่องอย่างหนัก

.

โดยหนี้ครัวเรือนของไทยเพิ่มขึ้นกระโดดจาก 79.9% ของ GDP ในปี 2562 ก่อนจะมีโควิด มาเป็น 89.1% ช่วงปลายปี 2563 ซึ่งเป็นตัวเลขหนี้ที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่สอง ของแถบเอเชียตะวันออก

.

สำหรับ SMEs ก็ต้องพึ่งโครงการ soft-loan จากทางธนาคาร

5) แพกเกจกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท หรือเทียบเท่า 6% ของ GDP ที่ประกาศในเดือน เมษายนปีที่แล้ว ถึงเดือน พฤษภาคมที่ผ่านมา มีการใช้จ่ายไปแล้วกว่า 70% ส่วนใหญ่ก็เป็นโครงการแจกเงินให้ภาคครัวเรือน มีส่วนน้อยที่เอาไปช่วยเหลือภาคเอกชน และเงินกู้อีก 5 แสนล้านบาท ล่าสุด ก็เน้นเอามาช่วยภาคครัวเรือน

6) ทาง World Bank ไม่คิดว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาเทียบเท่าก่อนโควิด จนกว่าจะถึงปี 2565 โดยมีการประเมินว่า GDP ของไทยในปีหน้า (ปี 2565) จะเติบโต ที่ 5.1%

.

ซึ่ง หากตัวเลขการเติบโต ที่ 2.2% ในปีนี้ และ GDP เติบโต 5.1% ในปีหน้าเป็นจริง ก็หมายความ ว่า GDP ไทย จะกลับไปเท่าก่อนโควิด ได้ภายในปีหน้า

.

แต่ ก็ต้องอย่างลืมว่า ในนี้ส่วนที่โตส่วนใหญ่คือ การลงทุนภาครัฐ แต่ภาคเศรษฐกิจอื่นๆ อาจไม่ได้โตอย่างเท่าเทียมกัน

7) ทาง World Bank ชี้ ปัจจัยสำคัญ 3 ข้อ ที่จะชี้ว่าไทยจะกลับมาเท่าช่วงก่อนโควิด ได้หรือไม่ ได้แก่

หนึ่ง ความคืบหน้าในการฉีดวัคซีน (เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่- Herd Immunity)

สอง ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สาม นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะกลับมาเมื่อไหร่

8) รัฐบาลไทย วางแผนฉีดวัคซีน ให้ 70% ของประชากร หรือ 50 ล้านคน ก่อนสิ้นปี 2564 นี้ แต่สิ้นเดือน พฤษภาคมฉีดไปได้เพียง 1.6% ของประชากร (และสิ้นเดือน มิถุนายน ฉีดวัคซีน 2 เข็มไปแล้ว 4.2% ของประชากร แต่ก็อย่างที่ทราบว่าส่วนใหญ่คือ ซิโนแวค)

.

นั่นคือ เรามีเวลา 6 เดือน กับเป้าหมายอีก 65.8% ของประชากร และด้วยสถานการณ์วัคซีนปัจจุบัน ก็คงยากหน่อยที่จะถึงเป้าที่วางแผนไว้

.

ทาง World Bank ให้ข้อมูลว่า หากจะให้ถึง 70% ช่วงกลางปี 2565 ก็ต้องเร่งจัดหาวัคซีนเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น ซิโนแวค 10-15 ล้านโดส, Johnson & Johnson อีก 5 ล้านโดส และ Pfizer อีก 20 ล้านโดส ไปรวมกับ AstraZeneca 61 ล้านโดส และ ซิโนแวคเดิมอีก 7 ล้านโดส

9) หากปีหน้า GDP จะโตให้ถึง 5.1% ทาง World Bank ประเมินนักท่องเที่ยวที่ 10.8 ล้านคน ก็ต้องลุ้นว่า model sandbox ตามที่ท่องเที่ยวต่างๆ จะ work หรือไม่ และก็ต้องระดมฉีดวัคซีน ให้ได้ทันจริงๆ

10) ทาง World Bank เองมองว่า ไทยต้องปรับตัว ให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน และแก้ข้อติดขัดทางการขนส่งระหว่างประเทศ เพื่อให้รองรับการฟื้นตัวของโลกให้ทัน

.

นอกจากนี้ ยังต้องพาตัวเองไปอยู่ในห่วงโซ่อุปทานที่นับวันจะซับซ็อนยิ่งขึ้น และต้องมองหาสินค้าและบริการประเภท High-value-added หรือมีมูลค่าเพิ่มสูง และเปิดรับกฏเกณฑ์ทางการค้าสมัยใหม่

11) ในช่วงวิกฤตที่ผ่านมาสิ่งที่ไทยทำได้ดี ก็คือ การช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน แต่ทาง World Bank ก็มองว่า ควรจะมีมาตรการทางสังคม มาเพื่อช่วยให้คนพ้นความยากจน ไม่เฉพาะช่วงที่เกิดวิกฤตเท่านั้น

.

นอกจากนี้ สิ่งที่ทำได้เด่น อีกอย่างก็คือ การใช้ระบบดิจิตอลแพลตฟอร์ม มาบริหารจัดการข้อมูล และการแจกเงินให้ประชาชน ซึ่งฐานข้อมูลและระบบดิจิตอลดังกล่าว สามารถพัฒนาต่อยอด ให้ภาครัฐ บริหารงานได้แบบ “Virtual” ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งก็เช่นกัน ไม่ใช่ทำเฉพาะยามวิกฤต

12) สำหรับผู้ส่งออก ผู้นำเข้า แอดมินขอแนะนำ ZUPPORTS แพลตฟอร์มดิจิตอล ที่ช่วยเปรียบเทียบราคาขนส่งทางทะเล, ทางอากาศ, หรือรถ Cross-border, และงาน นำเข้า ส่งออก ได้ครบ ผ่านช่องทางออนไลน์

.

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ทดลองใช้ระบบฟรี 2 เดือน ได้ที่ www.zupports.co/register

.

หรือถ้าเพื่อนๆ ผู้อ่าน มีเพื่อนที่ทำนำเข้า ส่งออก ก็ช่วยแนะนำ ZUPPORTS ให้เพื่อนๆ กันได้เลยนะ

——————————–

หากไม่อยากพลาดความรู้ ข่าวสาร ดีๆ กดไลค์เพจ และกด Favorites ในเฟสบุ๊ก กันไว้เลย

.

และหากบทความมีประโยชน์ ก็กดไลค์โพสและแชร์ให้เพื่อนๆ กัน ได้เลยจ้า

=========================

นำเข้า “ความรู้” ส่งออก “ความคิด” ติดตาม

“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”

=========================

ZUPPORTS ช่วยเหลือ ผู้นำเข้า ส่งออก ด้วยแพลตฟอร์ม ที่รวบรวมผู้ให้บริการขนส่งมืออาชีพ ครอบคลุมการขนส่ง ทั้งทางเรือ เครื่องบิน และรถบรรทุกผ่านแดน

.

พร้อมระบบบริหาร จัดการข้อมูลขนส่ง ติดตามสถานะงาน และแนวโน้มราคาขนส่ง ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

.

เพื่อนๆที่สนใจ สามารถลงทะเบียน ทดลองใช้งานระบบ ได้เลยที่ www.zupports.co/register

——————————–

ที่มา: World Bank

——————————–

❤️ ติดตาม “นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า” ได้ที่

Website: https://www.zupports.co/author/zupports/

Facebook: https://www.facebook.com/soodkobfah.imex

Blockdit: https://www.blockdit.com/soodkobfah

Twitter: https://twitter.com/soodkobfah

Instagram: https://www.instagram.com/soodkobfah/

นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า marketplace:https://www.facebook.com/groups/573677150199055/

นำเข้าส่งออก 101: https://www.facebook.com/groups/845457579217628

ไลน์ Openchat: http://bit.ly/2WxgB1d

#นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า#นำเข้า #ส่งออก

#ZUPPORTS

ข่าวสารอื่นๆ