เมื่อก่อนขุดคลอง เดี๋ยวนี้สร้างคลาวด์

มองจีนย้อนไปในอดีต เมื่อ กว่า 1,400 ปีที่แล้ว ในยุคราชวงศ์สุย

ที่มีฮ่องเต้จอมโหดอย่าง พระเจ้าสุยหยางตี้ สั่งให้ขุดคลอง เชื่อมจากเหนือ (กรุงปักกิ่ง) ลงมาทางใต้ (หังโจว-ที่แจ็ค หม่าอยู่)

คลองขุดนี้ยาว 2,500 กิโลเมตร หรือ 1.5 เท่าของระยะทางของไทยจากเหนือจรดใต้

ใช้แรงงานคน 3 ล้าน 6 แสนคน ขุดไปขุดมาคนตายไป 2 ล้าน 5 แสนคน

ใช้เวลาประมาณแค่ 6 ปี ก็ขุดเสร็จ

คลองดังกล่าวชื่อว่า “ต้ายุ่นเหอ”

ถึงแม้ผู้คนจะกล่าวถึงความโหดร้ายของฮ่องเต้องค์นี้ แต่ก็นับเป็นประโยชน์ต่อประเทศมาก

เชื่อมโยงผู้คนทั้งเหนือและใต้ แลกเปลี่ยนสินค้ากันได้สะดวก

และยังผันน้ำจากทางใต้ขึ้นไปช่วงภาคเหนือยามฤดูแล้งได้อีกด้วย

การพัฒนาเส้นทางคมนาคม ถือเป็นสิ่งที่สำคัญในการพัฒนาประเทศ

แต่ทุกวันนี้ ที่ประเทศต่างๆ ในโลกแข่งกันด้วยข้อมูล

ดังคำกล่าวว่า “ข้อมูล” คือ น้ำมัน ยุคใหม่

ดังนั้น การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อจัดการข้อมูล ก็เป็นสิ่งที่ทุกประเทศต้องให้ความสำคัญ

คือ จะมามัวแต่ขุคคลอง เหมือนในอดีต คงไม่ทันใช้

เราลองไปดูการลงทุน 3 ข้อหลักๆ ของจีนในช่วงนี้กัน

หากพร้อมแล้วไป ติดตามกันเลย

════════════════

ผู้นำเข้า ส่งออก หาขนส่งมืออาชีพ

นึกถึง ZUPPORTS

www.zupports.co

════════════════

1) Cloud Computing

Alibaba เพิ่งประกาศลงทุนคลาวด์ มูลค่าเกือบ 1 ล้านล้านบาท ในเวลา 3 ปี ต่อจากนี้เพื่อแย่งชิงความเป็นหนึ่งในการให้บริการด้านการประมวลผลบนระบบคลาวด์

โดยหากดูข้อมูลส่วนแบ่งการตลาดของผู้ให้บริการคลาวด์ในโลกแล้ว Alibaba อยู่แค่ลำดับที่ 3 มีส่วนแบ่งการตลาดที่ 9.1% ยังตามหลังที่สอง อย่าง Microsoft (17.9%) และห่างจากเบอร์ 1 อย่าง Amazon (45.0%) หลายเท่าตัว

หากเทียบเอเชียแล้ว ต้องบอกว่า Alibaba ยังนำอยู่ (ก็แน่นอนว่านับจีนไปด้วยก็นำห่าง) โดย ส่วนแบ่งการตลาด ได้แก่ Alibaba (28.2%), Amazon (17.5%), Microsoft (11.8%)

Cr. Mashable

แต่หากดูเทียบ ปี 2561-2562 ก็พบว่า Alibaba ทำผลงานได้ดี ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นเกือบ กว่า 2%

2) 5G

นำโดย Huawei ที่รุกหนัก เปิดตัวพันธมิตร บริษัทรถยนต์ 18 บริษัท ที่จะมาร่วมอยู่ในระบบนิเวศน์ (eco-system) 5G เพื่อจะเชื่อมโยงทั้งระบบ

กลายเป็นรถยนต์อัจฉริยะ ถนนอัจฉริยะ ช่วยควบคุมการจราจร ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ และอนาคตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง อาจได้ลองนั่งที่จีนก็ได้

Cr. Pan Daily

ส่วนโครงสร้างพื้นฐาน ทางบริษัทจีนก็มีการประกาศลงทุนสถานีฐาน 5G กว่า 500,000 จุดทั่วประเทศภายในปีนี้ โดยสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จีนมีการลงทุนสถานีฐานไปแล้ว 198,000 สถานี และมีผู้ใช้งาน 5G กว่า 50 ล้านราย

มือถือจีน ที่รองรับ 5G ก็มีมากกว่า 96 รุ่นแล้ว ทั้ง Huawei, Oppo, Xiaomi มี 5G ครบ ในราคาเข้าถึงได้

คนที่ขายมือถือจีน ช่วงนี้ก็รวยไป และอนาคตก็คงขายได้เพิ่ม

3) Smart City

นครเซี่ยงไฮ้ วางแผนลงทุนกว่า 1.3 ล้านล้านบาท ลงทุนหนักจัดเต็ม เปลี่ยนให้เป็นเมืองอัจฉริยะ

ทั้งการปรับปรุงโรงงานกว่า 100 โรงงานให้เป็นโรงงานที่ไม่มีพนักงาน เครื่องจักรเดินได้เองโดยใช้ AI หรือปัญญาประดิษฐ์ในการควบคุม

การติดตั้งสถานีชาร์จ EV กว่า 100,000 จุด, ล็อคเกอร์อัจฉริยะ สำหรับเก็บของที่ซื้อออนไลน์ เพิ่มกว่า 18,000 จุด, เสาสัญญาน 5G ที่รองรับ Speed สูงถึง 500 mbps (แรงกว่า wifi ที่บ้านแอดมินตอนนี้อย่างมาก 555)

นอกจากนี้ยังมีเขตเศรษฐกิจพิเศษ รองรับการค้าระหว่างประเทศ และระบบการโอนเงินระหว่างประเทศ คงตอบโจทย์เรื่องเงินหยวนดิจิตอล ที่จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ