(update) Supply Chain กำลังวิกฤต เรือที่จอดรอที่ LA สหรัฐฯ มากกว่าช่วงโควิด-19 กว่า 5 เท่า และยังพีคได้อีก!!

ปัญหาการขนส่งระหว่างประเทศ ตอนนี้ลุกลามกระทบไปหลายห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) โดยประเทศที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด (และเป็นสาเหตุหลักของความปั่นป่วนช่วงนี้) ก็คือ สหรัฐอเมริกา นั่นเอง

ล่าสุด จำนวนเรือที่ทอดสมอ อยู่ที่ท่าเรือสำคัญที่รับสินค้าจากเอเชีย ก็คือ ท่าเรือที่ Los Angeles และ Long Beach ทำลายสถิติเดิมไปเรียบร้อย

ซึ่งโดยปกตินั้น จำนวนเรือ ที่เทียบท่าเรือ ณ เวลาใดๆ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 16 ลำ แต่ล่าสุดมีเรือรวมๆ กันที่ท่าเรือและที่ทอดสมออยู่ ทั้งสิ้นถึง 76 ลำ สูงกว่าปกติ ประมาณ 4.8 เท่าเลยทีเดียว!! ระยะเวลารอคอยก็เพิ่มขึ้นไปที่ 7.6 วัน

ส่วนสถานการณ์ Supply Chain ในภาพรวมเป็นอย่างไรบ้าง เป็นอย่างไร

หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย

=========================

Ads: ZUPPORTS ช่วยบริหารการ นำเข้า ส่งออก

สนใจลงทะเบียน ที่ www.zupports.co/register

=========================

1) ตามข้อมูลที่ผ่านมา ท่าเรือ Los Angeles/Long Beach สามาถรับมือ เรือขนส่งสินค้าได้ประมาณวันละ 28 ลำ ในช่วงเดือนนี้ ส่วนเกินจากนี้ก็ต้องรอไปก่อน ไปจอดอยู่ใกล้ๆ ที่ San Pedro

2) ทางด้านสายเรืออย่าง Hapag-Lloyd ให้ข้อมูลว่า “เรือที่นำเข้าสินค้า สำหรับฤดูกาลจับจ่ายใช้สอยของชาวอเมริกันช่วงปลายปี ต่างทยอยเข้าที่ท่าเรือ ทำให้การบริหารจัดการ ยากขึ้นไปอีก” โดยมีการประเมินว่าทางท่าเรือ Los Angeles/Long Beach คงเคลียร์เรือไม่หมดภายในปี 2021 นี้แน่นอน

3) เรือเหล่านี้อาจต้องบอกว่าแค่เริ่มเท่านั้น โดยมีรายงานจาก Port of Los Beach’s WAVE พยากรณ์ว่าจะมีสินค้าเข้ามาอีก 120,928 TEU ช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ หรือเพิ่มขึ้น 34% จากช่วงปลายเดือน สิงหาคมนี้!

4) ถึงแม้สหรัฐฯ จะมีการนำเข้าอย่างบ้าคลั่งช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็มีตัวเลข ปริมาณสินค้าคงเหลือจาก The Institute for Supply Management (ISM) ชี้ว่าดัชนี้สินค้าคงเหลือ หล่นลงไปเหลือเพียง 25.0 เท่านั้น เทียบกับค่าปกติอยู่แถวๆ 40-50 นับเป็นค่าที่ต่ำที่สุดในประวัติศาตร์อเมริกัน!

5) ตัวเลขอีกตัวคือ Retail inventories to sales หรือการเอา สินค้าคงเหลือ มาหารด้วยยอดขาย ก็ได้ผลเช่นกัน คือ อัตราส่วน Retail inventories to sales ลดลงมาเรื่อยๆ จาก 1.10 เหลือเพียง 0.95

6) ซึ่งส่วนหนึ่งก็ต้องบอกว่า มาจากคนอเมริกันเอง ไม่รู้จะเอาเงิน (ที่ได้มาฟรี) ไปทำอะไรดี จะไปเที่ยว จับจ่ายภาคบริการก็ไม่ได้ ก็เลยสั่งซื้อของ มาตกแต่งบ้าน หรือเพื่อความบันเทิงนี่แหล่ะดี

7) ภาพสินค้าขาดแคลนก็มีให้เห็นตาม ห้างต่างๆ ในสหรัฐฯ กันแล้ว

8) การที่เรือขนส่งสินค้ามีชนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ก็ส่งผลทำให้ต้องใช้เวลามากขึ้นในการถ่ายสินค้าออกจากเรือ นอกจากนี้ ก็ยังต้องใช้รถบรรทุก รถไฟ และคลังสินค้าเพิ่มขึ้นด้วย

9) ผู้บริหารห้างค้าปลีกราคาประหยัดในสหรัฐฯ อย่าง Dollar Tree อธิบายเพิ่มเติม โดยให้ลองคิดภาพว่า เรือสินค้าพอไปถึงที่จีน แต่ลูกเรือถูกตรวจพบว่าติดโควิด-19 ทำให้เรือทั้งลำต้องแล่นไปที่อินโดนีเซียเพื่อเปลี่ยนลูกเรือชุดใหม่ ทำไปทำมา เรือดีเลย์ไป 2 เดือน!!

10) Transit time จากเซี่ยงไฮ้ ไป ชิคาโก้ ก็เพิ่มขึ้น จาก 35 วัน เป็น 73 วัน โดยผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจเดินเรือก็คาดการณ์ว่า เหตุการณ์ต่างๆ คงจึงไปจนถึงปี 2023 ที่จะมีการส่งมอบเรือล็อตใหญ่ที่ทางสายเรือสั่งกันช่วงนี้

11) สำหรับสถานการณ์ในแถบบ้านเรา เวียดนาม ก็สั่งล็อกดาวน์เข้มข้น โดยผลสำรวจจาก Saigon Newport ระบุว่า โรงงานกว่า 67% ในโฮจิมินห์ ซิตี้ จะหยุดทำการและอาจเปิดใหม่ปลายเดือนสิงหาคมนี้ และสถานการณ์ตู้สินค้าขาดแคลนหมุนตู้ไม่ทัน ก็มีให้เห็นกันทั้งในไทย, จีน, เวียดนาม, และอินโดนีเซีย

12) ด้วยราคาเฟรทสูงแบบนี้ ดูเหมือนผู้ประกอบการที่ยังไหว ก็คงเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่ๆ ที่มีกำลังทรัพย์พอจ่ายค่าสินค้าได้ และผลักภาระไปให้ผู้บริโภคได้

13) สำหรับ ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ที่ประสบปัญหาจองเรือไม่ได้ ราคาเฟรทแพง แอดมินเลยขอแนะนำ ZUPPORTS แพลตฟอร์มดิจิตอล ที่ได้รวบรวมเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์ หรือผู้ให้บริการขนส่ง ในระบบมากกว่า 100 ราย

ช่วยผู้นำเข้าส่งออก สามารถ Bid และเปรียบเทียบ ราคาขนส่งทางทะเล ทางอากาศ ทางบก และบริหารงานขนส่ง ได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ทดลองใช้ระบบฟรี ได้ที่ www.zupports.co/register