พลิกวิกฤต COVID-19 เป็นโอกาสและเตรียมความพร้อมส่งออกจีน
วันนี้แอดมิน มาฟัง สถานการณ์ส่งออกไปจีน อย่างที่ทุกคนทราบดี ในทุกวิกฤตมีโอกาส เราจึงควรเตรียมความพร้อมส่งออกไปจีน
งานนี้จัดโดย Central Lab Thai เลยเอามาแชร์ให้เพื่อนๆฟัง หากพร้อมแล้ว ไปติดตามกันเลย
════════════════
ขนส่งสินค้าทั่วโลก ไว้ใจเรา
════════════════
1) จีนปิดเมือง แต่นำเข้า-ส่งออก ยังทำได้ ปัญหาก็คือ เจ้าหน้าที่ต้องทำงานที่บ้าน ทำงานออนไลน์ พวกเอกสารจึงล่าช้า ผู้ประกอบการต้องปรับตัว
2) ในวิกฤติมีโอกาส สินค้ากลุ่มอาหาร อินทรีย์ สะอาด รักษาสุขภาพ เป็นโอกาสในการทำตลาดที่จีน สถานการณ์ COVID-19 ทำให้ผู้บริโภคจีนเปลี่ยนไป เช่น อาจเกิดคำถามว่า ทุเรียนสด มีเชื้อโรคไหม? เราอาจต้องกลับมาคิด ปรับกลยุทธ์
3) สถานการณ์บีบบังคับ ทำให้ทุกอย่างเป็นออนไลน์เร็วขึ้น จากเดิมที่จีนคิดว่าอีกหลายปีจะเข้าออนไลน์ 100% ปัจจุบันไม่ต้องรอแล้ว ผู้เฒ่าผู้แก่ ก็ต้องฝึกสั่งอาหารออนไลน์
4) ทางสถาบัน CCIC ที่ตรวจรับคุณภาพสินค้าที่ส่งไปจีน ระบุว่า ปัจจุบันการควบคุมโรคที่จีน เรียบร้อยดีขึ้นแล้ว โรงงานเปิดแล้ว จีนมีการออกกฎหมายช่วยเหลือการผลิต ด้านการนำเข้าสินค้าไทย กฎเกณฑ์ยังเหมือนเดิม และคาดว่าจะนำเข้าสินค้าไทยมากขึ้น เพื่อชดเชยส่วนที่ขาดไป
5) สำหรับผู้ประกอบกอบการไทย ช่วงนี้หยุดส่งออกไปจีน เนื่องจากยังติดขัดที่เจ้าหน้าที่ และลูกค้าไม่มีคำสั่งซื้อ การนำสินค้าเข้าไปจีน ช่วงแรกลำบากในการหาลูกค้า พอคุยกับลูกค้าได้ ก็ต้องตรวจสอบคุณภาพ ให้ผ่านเกณฑ์ถึงจะไปขายได้ การส่งออกสินค้าไทยไปจีน แต่คนส่งออกส่วนใหญ่อาจยังไม่ทราบ ว่าที่จีนเค้าตรวจด้วยมาตรฐานไหน?
6) ด้านบรรจุภัณฑ์ ก็ต้องออกแบบให้ตรงตามเกณฑ์ที่จีนเขากำหนด ตัวอย่างเช่น คนไทย ระบุในฉลากสินค้าว่า “ขายดีที่สุด Number 1” แต่ไม่ได้บอกว่า ขายดีที่ไหนอย่างไร…เขียนแบบนี้เข้าจีนไม่ได้นะจ๊ะ คือ หลอกลวงผู้บริโภค ยิ่งเขียนว่าขายดีที่สุดในจีน ยิ่งไปกันใหญ่
7) ทาง CCIC มาตั้งอยู่ที่ไทย เป็นสถาบันโพ้นทะเล ร่วมมือกับด่านศุลกากรของจีน หากเราอยากส่งสินค้าเข้าจีน ก็ส่งสินค้าไปตรวจที่ CCIC ได้ด้วยมาตรฐานจีน พอเราส่งเข้าไปจีน ก็จะเข้าได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
CCIC กระจายไป 40 ประเทศทั่วโลก ในไทยก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1987 โดย CCIC เป็นแห่งเดียวที่ร่วมมือกับผู้ประกอบการไทย
ซึ่งทาง Central Lab Thai จึงร่วมมือกับทาง CCIC เพื่อดำเนินการตรงจุดนี้ นั่นหมายถึง ผู้ประกอบการติดต่อ Central Lab Thai ได้เช่นกัน
8) การบริการ ที่ CCIC ช่วยให้สินค้าไทยเข้าสู่ตลาดจีนได้ บริการที่มีได้แก่
– การตรวจสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน รังนก
– การออกมาตรฐานรับรองคุณภาพสินค้า CCC เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์
– สินค้าประเภทแร่, สินค้ารีไซเคิล เครื่องจักรมือสอง
– บริการรับรองมาตรฐานแหล่งผลิตสินค้า (สำคัญมาก)
– ตรวจสอบยางพารา แร่ธาตุ น้ำมัน
– สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
– เครื่องสำอาง (คนจีนเข้มงวดเรื่องความปลอดภัย)
– e-commerce: รวมมือกับเช่น Alibaba, JD
9) ทาง CCIC มีให้บริการรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ซึ่งสำคัญมากๆ โดยข้อมูล โรงงาน แหล่งที่อยู่ ปริมาณการขาย คุณภาพสินค้า ฯลฯ ข้อมูลทุกอย่างเก็บในระบบ Cloud ทั้งหมด
พอตรวจเสร็จ ก็ print QR code และโลโก้ CCIC แปะ แล้ว activate ในระบบ พอด่านศุลกากรที่จีนเห็น ก็จะไม่ตรวจซ้ำ ง่ายดีเนอะ!
10) ตัวอย่างนมสดจาก New Zealand พอติด Code จาก CCIC ลดระยะเวลาผ่านด่านได้ 7 วันเต็มๆ หรือ ลอบสเตอร์ จากสหรัฐฯ ก็แบบเดียวกัน ทำให้ระยะเวลาวางขายนานขึ้น
เชอร์รี่ มะพร้าว นมผง ไวน์ ผลิตภัณฑ์บำรุงสุขภาพ ข้าว ยางพารา ผลไม้ ผลไม้อบแห้ง ได้ทั้งหมด
11) เดิมทีผู้ประกอบการ ใช้เวลาช่วงทำเอกสารนาน 2-3 เดือน ก่อนส่งออก หากสามารถลดขั้นตอนตรงนี้ จะทำให้ของส่งถึงจีนได้ สะดวกรวดเร็วขึ้น เชื่อมระบบดิจิตอลกับทางจีน
12) อย่างที่บอกตอนต้น ณ จุดนี้ จีนเข้าสู่ดิจิตอล เต็มรูปแบบ
อย่างการทำอาหารก็ยังใช้หุ่นยนต์แทนคน แล้ว
ดังนั้น หากอยากค้าขาย เราคงต้องรีบปรับตัว เร่งสปีดของเรา ให้เทียบเท่าจีน…
🎯หากใครมีผลไม้อาหาร ส่งไปทำตลาดจีน แต่ยังติดขัดเรื่องเอกสาร มาตรฐานคุณภาพ ทักไลน์มาคุยกันได้เลย เดี๋ยวประสานงานให้
════════════════
ขนส่งสินค้าทั่วโลก ไว้ใจเรา
════════════════
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม
“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”
❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก
👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก