วันจันทร์ที่ 19 ตุลาคม ปี พ.ศ. 2530 ประเทศสหรัฐอเมริกา ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงไปถึง 508 จุด คิดเป็นการลดลง 22.6% ภายในวันเดียว!
ในขณะที่ ดัชนี S&P 500 ก็ร่วงไปมากกว่า 18%
เหตุการณ์ครั้งนั้นถือเป็นการลดลงของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่มากที่สุด ในประวัติศาสตร์ ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกา
เหตุการณ์นั้น ถูกกล่าวขานในนาม “Black Monday”
มีการกล่าวโทษว่าเหตุการณ์ครั้งนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากการทำงานที่ผิดพลาดของ “หุ่นยนต์” หรือ โปรแกรมที่ใช้ในการเทรดหุ้น
โดยพอมีการสั่งขายหุ้น โปรแกรมก็เลยสั่งเทขายหุ้นพร้อมๆ กัน เมื่อมีความต้องการขายมหาศาล ราคาหุ้นก็ดำดิ่งลงอย่างน่าใจหาย
ในวันถัดมา หุ้นไทย ก็ได้รับผลกระทบด้วยเหมือนกัน โดยหุ้นร่วงลงไป 8% และร่วงติดต่อกันไปอีกกว่า 40% ภายในช่วงเวลาไม่ถึง 2 เดือน
อย่างไรก็ตามสำหรับสาเหตุที่แท้จริง ที่ส่งผลให้เกิดเหตุการณ์ Black Monday หรือ วันจันทร์ทมิฬ ครั้งนั้น ก็ยังไม่มีข้อสรุป
โดยมีทั้งทฤษฎี เรื่องการที่ค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ แข็งมาก ทำให้กระทบการส่งออกของสหรัฐฯ ถดถอย
(ช่วงหลังจากที่สหรัฐฯ ทำสงครามการค้าบังคับให้ญี่ปุ่นเซ็นต์สัญญา Plaza Accord
https://www.blockdit.com/articles/5d708b8614029d054842b4c7)
หรือจะเป็นเรื่องที่ราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ แพงกว่าค่าเฉลี่ย โดยค่า PE ratio หรือราคาหุ้นต่อกำไร อยู่สูงกว่า 20 เท่า ทำให้ตลาดมีการปรับตัว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ใช้เวลาอีก เกือบ 2 ปี กว่าจะกลับมาถึงจุดเดิม ก่อนที่จะร่วงลงไปได้
ภาพตัดมาที่ตลาดหุ้นไทยวันนี้ เรากำลังเจอเหตุการณ์ Black Monday โดย SET ลดลง 108.63 จุด หรือติดลบเกือบ 8% มาปิดที่ 1,255.94 จุด
แน่นอนว่าตัวเร่งปฏิกิริยา ก็คือ เหตุการณ์ที่ราคาน้ำมันดิ่งลง จากการที่ซาอุฯ ประกาศสงครามราคา
ผสมผสานกับเหตุการณ์หลายๆ อย่างทั้ง COVID-19 และปัญหาเชิงโครงสร้างของไทยเอง
ที่น่ากังวลก็คือ เหตุการณ์สงครามราคาน้ำมัน ผสมกับ COVID-19 ครั้งนี้ จะทำให้ภาวะฟองสบู่หนี้แตกตามไปด้วยรึเปล่า
ทั้งประเทศในกลุ่มตะวันออกกลาง อย่างเลบานอน ที่มีการประท้วงกันอยู่ และอาจเบี้ยวหนี้พันธบัตร กว่า 40,000 ล้านบาท
และทาง Financial Times รายงานว่า ยอดหนี้ของโลกนี้ พุ่งสูงสุดในประวัติศาสตร์ ไปอยู่ที่ 322% ของ GDP ไปตั้งแต่ ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้ว
หากเราลองพิจารณาข้อมูลตัวเลขหนี้ ต่อ GDP ล่าสุดไตรมาส 3 ปีที่แล้ว
หนี้ครัวเรือน
– โลก 60.2%
– สหรัฐฯ 74.2%
– ไทย 68.4%
หนี้ภาครัฐ
– โลก 88.3%
– สหรัฐฯ 101.8%
– ไทย 33.8%
อย่างที่ ธปท. ให้ข้อมูลหลายๆ ครั้งว่าหนี้ครัวเรือนของไทยค่อนข้างสูง เป็นข้อกังวลในการเติบโตทางเศรษฐกิจ
คิดง่ายๆ คือ คนใช้เงินในอนาคตมากู้หนี้ยืมสิน ซื้อบ้าน ซื้อรถ กันหมดแล้ว
มีเงินได้ 100 บาท ต้องไปจ่ายหนี้ 70 บาท
เกิดสถานการณ์ รวยกระจุก จนกระจาย
มีคำกล่าวว่า เราจะรู้ตัวว่าอยู่ในวิกฤต ก็ต่อเมื่อเราได้เข้ามาอยู่ในวิกฤตแล้ว
ซึ่งแอดมินก็คิดว่า ช่วงนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นวิกฤตแล้วหล่ะ
สิ่งที่ต้องทำคือ ตระหนักว่าสถานการณ์วิกฤต แล้วมองให้รอบด้านเพื่อหาทางแก้ดีกว่า
แอดมินว่า ณ เวลานี้ ประเทศเรา ต้องการคนที่เก่งจริงๆ มาบริหารประเทศ
ไม่อยากให้ คนจนหมด(ทั้ง) ประเทศ
ดูตัวเลข หนี้ภาครัฐของไทย น่าจะพอมีช่องว่าง ในการลงทุนเพื่อสร้างรายได้เพิ่มได้ หวังว่าท่านผู้นำจะหาคนเก่งๆ มาบริหารได้บ้าง
สถานการณ์วิกฤตสร้างวีรบุรุษได้
แต่ก็สร้างผู้ร้ายได้เช่นกัน
ที่มา:
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Black_Monday_(1987)
Global Debt Monitor report (iif)
💡ไม่อยากพลาดข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศ กดติดตาม
“นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า”
❤️ ช่วย SMEs ก้าวไกลไปทั่วโลก
👫 ร่วมกลุ่มผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก