Airbnb กำลังตกที่นั่งลำบาก เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอยู่เสมอๆ

ใครจะไปคิดว่าสตาร์ทอัพชื่อดัง อย่าง Airbnb จะตกที่นั่งลำบาก

Airbnb เป็นตัวกลาง ให้ผู้คนที่มีบ้าน ห้อง (หรือ ปราสาท) ที่ว่างๆ อยู่

มาปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวไปเลือกพักได้ตามใจชอบ

สตาร์ทอัพที่มาพร้อมกับแนวคิด “Sharing Economy”

คือ ใครมีทรัพยากรอะไรก็มาแบ่งปันกัน

จุดเริ่มต้นเมื่อปี ค.ศ.2008 ผ่านไป 10 กว่าปี Airbnb มีห้องพักปล่อยเช่า มากกว่า 7 ล้านแห่ง ทั่วโลก!

โดยจำนวนห้องพัก ของ Airbnb มีมากกว่า 5 เครือโรงแรมใหญ่ รวมกัน (Marriott, Hilton, InterCon, Wyndham, และ Accor)

กิจการเติบโตดีมาก และสามารถทำกำไรได้แล้ว

ช่างแตกต่างจาก Sharing Economy เจ้าอื่น เช่น Uber หรือ WeWork ที่ยังเผาเงินเล่น เป็นแบงค์กงเต็ก…

เคยมีข่าวว่า ไบรอัน เชสกี้ CEO และผู้ก่อตั้ง Airbnb เคยคิดที่จะเปิดสายการบินของตัวเองด้วย (ดีนะที่ยังไม่ได้เปิดสายการบินจริงๆ)

ไบรอัน เชสกี้ CEO และผู้ก่อตั้ง Airbnb Cr. Bloomberg

แต่อย่างที่เราทราบเหตุการณ์โควิด-19 เหมือนตีแสกหน้าธุรกิจท่องเที่ยว

ซึ่ง Airbnb ก็ได้รับผลกระทบไปด้วย แต่…

Airbnb ก็ไม่ได้เป็นเจ้าของห้องพักนี่หน่า ไม่ได้มีพนักงานด้วย จะไปกลัวทำไม??

ความจริงมันน่ากลัวกว่านั้นเยอะ บทความนี้เราลองไปดูกันว่า Airbnb กำลังลำบากอย่างไร

หากพร้อมแล้ว เราไปติดตามกันเลย

════════════════

ช่วยผู้นำเข้า ส่งออก

หาขนส่งมืออาชีพ

www.zupports.co

════════════════

1) ก่อนหน้าที่จะมีโควิด-19 Airbnb มีแผน จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO) ในปี 2020 นี้ โดยก่อนที่จะ IPO มีมูลค่ากิจการ กว่า 1.2 ล้านล้านบาท เลยทีเดียว

2) ข้อมูลจาก Bloomberg ในปี 2017 Airbnb มีรายได้ประมาณ 85,000 ล้านบาท และกำไรประมาณ 3 พันล้านบาท ส่วนไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 Airbnb มีรายได้ มากกว่า 33,000 ล้านบาท

โดยรายได้ของ Airbnb คิดจากค่า Commission ประมาณ 15% ของค่าเช่าห้องพัก

3) ไบรอัน เชสกี หนึ่งในสามผู้ร่วมก่อตั้ง Airbnb และ CEO คนปัจจุบัน เริ่มเปิดให้บริการ Airbnb (ตอนเริ่มแรกยังชื่อว่า airbedandbreakfast) ในช่วงวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ปี ค.ศ. 2008 แต่มาถึง ปี ค.ศ. 2020 เขากำลังเจอวิกฤตครั้งใหญ่อีกครั้ง

4) โควิด-19 เข้ามาหยุดการเดินทางท่องเที่ยวทุกประเภท มิหนำซ้ำ การไปพักที่บ้านคนอื่นในช่วงนี้ อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่

ใครจะมั่นใจว่า ห้องพักของ Airbnb สะอาด ปลอดภัยจริงๆ หากเทียบกับเครือดังเช่น Mariott ที่มีมาตรฐานการให้บริการ อาจทำให้เกิดความมั่นใจได้มากกว่า

5) เดือนมีนาคม Airbnb รายงานอัตราการจองห้องพักในยุโรป และจีน ลดลง 40% และมีการขอยกเลิกห้องพัก

Cr. Bloomberg

6) ปัญหาใหญ่เกิดขึ้นเนื่องจาก จริงๆแล้ว คนที่ปล่อยเช่าห้องพัก ก็เจริญเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับแพลตฟอร์ม Airbnb บางคนก็กู้หนี้ยืมสิน มาเพื่อทำห้องพัก เพื่อมาปล่อยเช่าใน Airbnb ดังนั้น พอไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ คนที่ปล่อยเช่าห้องพัก จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายหนี้ธนาคาร

นั่นคือ มันไม่ใช่ห้องที่เหลือว่างๆ แต่เป็นห้องที่จัดมาปล่อยเช่าใน Airbnb โดยเฉพาะ

ซึ่ง 2 ใน 3 ของจำนวนห้องพักของ Airbnb กว่า 1 ล้านห้องพักในสหรัฐฯ มาจากผู้ปล่อยเช่าที่มีห้องพักมากกว่า 1 ห้อง

7) เพื่อช่วย ผู้ปล่อยเช่า ในกรณีที่มีการยกเลิกห้องพัก ทาง ไบรอัน เชสกี ก็เลยตั้งงบ 8,000 ล้านบาทไว้ช่วย

แต่จริงๆแล้วช่วยผู้ปล่อยเช่าห้องพักได้ไม่มากนัก และปัญหาสำคัญก็คือ ใครจะกล้ามาพักห้องพักคนอื่น ถึงแม้จะมีการอนุญาตให้ท่องเที่ยวเหมือนก่อนโควิด-19

8) ไบรอัน ไม่มีทางเลือกต้องหาสภาพคล่องให้บริษัทอยู่รอดต่อไปได้ จึงขอกู้เงินจากนักลงทุน ชุดแรก มูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท เป็นหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยสูงถึง 11% ซึ่งมาพร้อมสิทธิ์ในการแปลงสภาพได้ ที่ส่วนลดกว่า 40% จากมูลค่ากิจการเมื่อปี 2017

นอกจากนี้ ยัง กู้เงินชุดที่สองติดกัน ในเดือน เมษายน เหมือนกันอีก 33,000 ล้านบาท

9) ไบรอัน ตัดงบโฆษณากว่า 25,000 ล้านบาท โดยคาดการณ์ว่ารายได้ Airbnb จะลดลงกว่า 50% แล้วก็ยังไม่มั่นใจว่าปีหน้าจะกลับมาได้หรือไม่

10) Airbnb มียอดการจองห้องพักในระบบกว่า 33,000 ล้านบาท และไม่เหมือนกับโรงแรมทั่วไป ลูกค้าที่จองห้องพักกับ Airbnb จะต้องจ่ายเงินล่วงหน้า (แต่ก็สามารถยกเลิกการจองได้)

ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องกู้เงินจากนักลงทุน เพื่อต่อชีวิตบริษัทออกไป

ก็เป็นจุดบอด ที่ไม่มีใครคาดคิด

เป็นบททดสอบให้ผู้บริหารและนักลงทุนที่หนุนหลัง Airbnb

ว่าจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่

ส่วนจะเป็นจุดตายรึเปล่า คงต้องดูว่ายึดเยื้อขนาดไหน

และจุดที่น่ากลัว คือ คนที่ลงทุนทำห้อง เพื่อมาปล่อยให้เช่าใน Airbnb จะอยู่รอดไปได้ไหม

ความเห็นส่วนตัวแอดมินคิดว่า ไบรอัน เชสกี น่าจะพาบริษัทรอดไปได้

ดูทรงจากนักลงทุน ยังพอมีความมั่นใจ กล้าปล่อยกู้

โดยทางไบรอันเอง ก็กำลังเปลี่ยนมาเน้นผู้ให้เช่าชั่วคราวให้มากขึ้น

และเขาคิด (เอาเอง) ว่า คนอาจมาเช่า Airbnb เพื่อทำงานจากที่ไหนในโลกก็ได้ (ต่อเนื่องจาก เทรนด์ Work from home)

ก็เป็นบทเรียนว่าบริษัท ที่ดูเยี่ยมยอดมากๆ อย่าง Airbnb ที่มี

“ห้องพักในระบบมากที่สุด โดยไม่ได้มีห้องพักของตัวเองแม้แต่ห้องเดียว”