ZUPPORTS 101 การส่งออกสินค้าประเภทอันตราย (DG) และของเหลว (Liquid): สิ่งที่ผู้นำเข้าส่งออกต้องรู้ (ZUPPORTS x HIX)

ZUPPORTS 101 การส่งออกสินค้าประเภทอันตราย Dangerous Goods (DG)  และของเหลว (Liquid): สิ่งที่ผู้นำเข้าส่งออกควรเข้าใจ (ZUPPORTS x HIX)

 

ปัญหาที่พบกันบ่อยในการส่งออกสินค้าวัตถุอันตราย Dangerous Goods (DG) คือข้อผิดพลาดในการกรอกแบบฟอร์ม DG Declaration เพราะมีรายละเอียดและขั้นตอนที่ค่อนข้างยุ่งยากมาก ทั้งเรื่องความปลอดภัย เอกสาร และกฎของสายเรือ หากกรอกผิด เช่น ใส่ชื่อสารเคมีผิด, ลืมระบุรหัสต่างๆ หรือไม่ใส่ข้อมูลของบรรจุภัณฑ์ให้ครบถ้วนและถูกต้องเหมาะสมกับสินค้าแต่ละประเภท สายเรืออาจไม่รับตู้ขึ้นเรือ ทำให้เสียเวลา เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม และเสียโอกาสทางธุรกิจ

 

บทความ ZUPPORTS 101 ตอนนี้ เราจะไปดูกัน ว่าการนำเข้าส่งออก สินค้า DG มีข้อควรรู้อย่างไรบ้าง

 

หากพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย

 

——

 

มีแผนจะส่งออก Dangerous Goods (DG) หรือเคมีภัณฑ์ ต้องเตรียมอะไรบ้าง?

 

การส่งออกสินค้าที่เป็นวัตถุอันตราย (Dangerous Goods: DG)  มีความซับซ้อนกว่าการส่งออกสินค้าทั่วไปหลายเท่า เนื่องจากเกี่ยวข้องกับ:

• ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยระหว่างประเทศ
• การคัดสรรบรรจุภัณฑ์แต่ละชนิด
• เอกสารเฉพาะ เช่น DG Declaration / MSDS
• เงื่อนไขของสายเรือและสนามบิน รวมไปถึงท่าเรือ
• กระบวนการตรวจสอบศุลกากรที่ละเอียดขึ้น

 

หากไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า อาจก่อให้เกิดความล่าช้าในการขนส่ง เพิ่มต้นทุนโดยไม่จำเป็น หรือส่งผลเสียต่อความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

 

หลายคนกังวลเรื่องการส่งออก DG เพราะ…

• เอกสารเยอะและเฉพาะทาง
• การกรอกแบบฟอร์มผิดเพียงเล็กน้อย อาจทำให้สายเรือปฏิเสธการโหลด
• ต้องเข้าใจกฎระเบียบของแต่ละประเทศปลายทางด้วย

 

ห้วข้อที่เราควรรู้เกี่ยวกับงาน DG ในบทความนี้จะมีทั้งหมด 5 หัวข้อ ได้แก่

 

1. รู้จัก DG Class ทั้ง 9 ประเภท
2. การอ่าน MSDS อย่างถูกต้อง
3. ผลกระทบต่อการจองเรือและค่าเฟรท
4. แนวทางการเตรียมความพร้อม และการกรอกเอกสาร DG Declaration
5. พาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญที่ ZUPPORTS แนะนำ HIX (Handle Inter Express)

 

——

 

1. รู้จัก DG Class ทั้ง 9 ประเภท

สินค้าประเภทอันตราย แบ่งเป็น 9 ประเภทหลักตามมาตรฐานสากล ได้แก่:

Class	ประเภท	รายละเอียด
1	Explosives	วัตถุระเบิด เช่น ดินปืน พลุ
2	Gases	แก๊สอัด, แก๊สไวไฟ, แก๊สพิษ
3	Flammable Liquids	ของเหลวไวไฟ เช่น น้ำมัน, แอลกอฮอล์
4	Flammable Solids	ของแข็งไวไฟ, วัตถุติดไฟเอง
5	Oxidizing Substances & Organic    Peroxides	สารออกซิไดซ์, อินทรีย์เปอร์ออกไซด์
6	Toxic & Infectious Substances	สารพิษ, สารติดเชื้อ
7	Radioactive Material	วัสดุกัมมันตรังสี
8	Corrosives	สารกัดกร่อน เช่น กรด, ด่าง
9	Miscellaneous Dangerous Goods	วัตถุอื่น ๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ลิเธียมแบตเตอรี่

 

 

ตัวอย่างสินค้าที่มี MSDS ระบุว่าเป็น DG

การตรวจสอบว่าเป็น DG หรือไม่ ต้องใช้ Material Safety Data Sheet (MSDS) ซึ่งมักแนบมากับสินค้าจากผู้ผลิต โดยใน Section 14: Transport Information จะเป็นจุดสำคัญที่บ่งชี้สถานะสินค้า

 

สินค้า	DG Class	UN Number	หมายเหตุ
แอลกอฮอล์ 95%	Class 3	UN1170	ของเหลวไวไฟ ต้องขนส่งในบรรจุภัณฑ์เฉพาะ
น้ำหอมเข้มข้น	Class 3	UN1266	ต้องมีฉลาก Flammable Liquid
น้ำยาฟอกขาว (Bleach)	Class 8	UN1791	สารกัดกร่อน ต้องจัดเก็บห่างจากโลหะ
สเปรย์ฆ่าเชื้อ	Class 2	UN1950	เป็นก๊าซอัด สามารถระเบิดได้
ถ่านลิเธียม (Lithium Battery)	Class 9	UN3480	ต้องมีเอกสารเฉพาะกำกับการขนส่ง

 

 

สินค้าอันตราย (Dangerous Goods – DG) บางชนิด สามารถมีได้มากกว่า 1 class หรือมี SUB CLASS ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะความเสี่ยงของสารนั้น ๆ ตามที่ระบุใน IMDG Code หรือ UN Model Regulations

✅ ตัวอย่างสินค้า DG ที่มีได้มากกว่า 1 Class หรือมี Subclass

ชื่อสาร	Class/ Subclass	คำอธิบาย
Aerosol (สเปรย์กระป๋อง)	Class 2.1 (ก๊าซไวไฟ) + อาจมี Class 8 (กัดกร่อน) หรือ 6.1 (พิษ)	สเปรย์บางชนิดนอกจากเป็นก๊าซไวไฟแล้ว ยังอาจกัดกร่อนหรือมีพิษ
Hydrogen peroxide solution >60%	Class 5.1 (สารออกซิไดซ์) + Class 8 (กัดกร่อน)	เป็นสารที่ทั้งกัดกร่อนและมีคุณสมบัติช่วยเร่งการเผาไหม้
Chlorine gas	Class 2.3 (ก๊าซพิษ) + Class 5.1 (ออกซิไดซ์)	เป็นก๊าซพิษที่อาจช่วยในการเผาไหม้ด้วย
Nitric acid (กรดไนตริก)	Class 8 (กัดกร่อน) + Class 5.1 (ออกซิไดซ์)	มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง และยังช่วยเร่งปฏิกิริยาเผาไหม้
Ammonium nitrate-based fertilizer	Class 9 (อันตรายเบ็ดเตล็ด) + Class 5.1 (ออกซิไดซ์)	บางชนิดถูกจัดอยู่ในหมวดสารช่วยติดไฟและมีข้อควรระวังสูง

🧪 หมายเหตุ:

• สินค้าบางชนิดจะมี “PRIMARY CLASS หรือเรียกว่าหมวดหลัก” และ “SUBSIDIARY RISK หรือเรียกว่าความเสี่ยงรอง”
• ใน เอกสาร DG Declaration หรือ Marking/DG Label ที่ติดบนตู้คอนเทนเนอร์ ต้องระบุให้ครบ คือต้องติด 2 แบบ เพราะถือว่ามี 2 CLASS

——

 

2. การอ่าน MSDS อย่างถูกต้อง

 

Material Safety Data Sheet (MSDS) หรือที่เรียกในปัจจุบันว่า SDS (Safety Data Sheet) เป็นเอกสารมาตรฐานสากลที่ใช้ในการให้ข้อมูลด้านความปลอดภัยของสารเคมีหรือผลิตภัณฑ์เฉพาะชนิดผู้นำเข้าส่งออกควรใช้เอกสารนี้เป็นแหล่งข้อมูลหลักในการพิจารณาว่าสินค้านั้นจัดอยู่ในประเภท “Dangerous Goods (DG)” หรือไม่

แม้ว่า MSDS จะประกอบด้วย 16 หัวข้อหลัก แต่สำหรับการพิจารณาการขนส่ง DG โดยเฉพาะ ควรให้ความสำคัญกับ Section ต่อไปนี้:

 

🔹 Section 2: Hazard Identification (ระบุความเป็นอันตราย)

หัวข้อนี้จะแสดง ลักษณะของความเสี่ยงหลัก ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า เช่น

สินค้าไวไฟ

เป็นพิษต่อร่างกายหรือสิ่งแวดล้อม

อาจทำให้ระคายเคืองผิว

มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ฯลฯ

สัญลักษณ์ (GHS Pictograms) และ คำเตือน (Signal Word) เช่น Danger หรือ Warning ที่ปรากฏในส่วนนี้ เป็นดัชนีชี้ว่าสินค้าอาจอยู่ในขอบเขตของ DG และจำเป็นต้องตรวจสอบต่อใน Section 14

 

🔹 Section 9: Physical and Chemical Properties (ข้อมูลทางกายภาพและเคมี)

ส่วนนี้ให้ข้อมูลเชิงเทคนิคของสินค้า เช่น:

จุดวาบไฟ (Flash Point)

จุดเดือด / จุดหลอมเหลว

สถานะของสาร (ของเหลว, ของแข็ง, ก๊าซ)

ความดันไอ

ความหนาแน่น (Specific Gravity)

ความสามารถในการละลายน้ำ

ตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุดคือ “จุดวาบไฟ” (Flash Point) หากต่ำกว่า 60°C (โดยเฉพาะต่ำกว่า 23°C) สินค้ามักจะถูกจัดอยู่ใน Class 3 – ของเหลวไวไฟ ซึ่งเป็น DG แน่นอน

 

🔹 Section 14: Transport Information (ข้อมูลด้านการขนส่ง)

หัวข้อนี้เป็นจุดตัดสินว่าสินค้าเป็น DG หรือไม่ อย่างแท้จริง

ข้อมูลสำคัญที่ต้องตรวจสอบ:

UN Number: รหัสสากลประจำสินค้านั้น เช่น UN1170 (Ethanol), UN3480 (Lithium Ion Battery)

Proper Shipping Name: ชื่ออย่างเป็นทางการของสินค้าสำหรับการขนส่ง

DG Class: หมวดหมู่สินค้าอันตราย (Class 1–9)

Packing Group (I, II, III): ระดับความรุนแรงของอันตราย

Marine Pollutant: สินค้านั้นทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทางทะเลหรือไม่

Special Precautions: ข้อควรระวังเพิ่มเติมในการขนส่งทางอากาศ / ทางทะเล / ทางบก

👉 หาก Section 14 ไม่มีข้อมูลใด ๆ ระบุไว้เลย ต้องสอบถามหรือขอเวอร์ชันที่สมบูรณ์จากผู้ผลิตโดยตรง

 

🔹 Section 15: Regulatory Information (ข้อมูลกฎหมายและข้อบังคับ)

ส่วนนี้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ทั้งในประเทศผู้ผลิต และข้อกำหนดระหว่างประเทศ เช่น:

การขึ้นทะเบียนตาม REACH / TSCA

การควบคุมภายใต้ CLP Regulation

ข้อจำกัดในการขนส่ง ขนถ่าย หรือจำหน่ายสินค้าในบางประเทศ

แม้จะไม่เกี่ยวกับการขนส่งโดยตรงเท่า Section 14 แต่ Section 15 จะช่วยให้ทราบว่าสินค้ามีข้อจำกัดพิเศษในด้านกฎหมายหรือไม่ ซึ่งอาจต้องใช้เอกสารประกอบเพิ่มเติมเมื่อส่งออก

 

——

 

3. ผลกระทบต่อการจองเรือและค่าเฟรท

 

หากสินค้าถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Dangerous Goods (DG)  จะส่งผลต่อการดำเนินงานหลายด้าน ได้แก่:

 

1. ค่าขนส่งเพิ่มขึ้น เช่น DG Surcharge / IMO CHARGE, ค่าโหลดพิเศษ, ค่าตรวจสอบเอกสารเฉพาะ หรืออาจจะมี FIREMAN CHARGE คือ ค่าบริการสำหรับการเตรียมพร้อมหรือจัดหาบริการเจ้าหน้าที่ดับเพลิงในระหว่างการโหลดหรือขนถ่ายสินค้าอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่เสี่ยง เช่น สนามบิน, ท่าเรือ, หรือคลังสินค้า

 

2. ข้อจำกัดในการจองเรือ บางสายเรือไม่รับสินค้าอันตรายบางประเภท หรือไม่รับสินค้าอันตามที่มีการโหลดรวมกันหลาย CLASSES ใน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ และต้องขออนุมัติก่อนล่วงหน้า มีระยะเวลาในรอผลอนุมัติประมาณ 3-7 วัน หรือกรณีสินค้าประเภท ก ต้องทำการขนถ่ายข้างลำเรือ

 

3. ความเสี่ยงด้านเอกสาร การจัดทำเอกสารผิดพลาด เช่น ระบุ UN Number / EMS / FLASH POINT ผิด อาจทำให้ SHIPMENT ถูกปฏิเสธ

 

4. ระยะเวลาในการขนส่งนานขึ้น DG มักต้องรอรอบเรือที่มีพื้นที่บรรทุกเฉพาะ และผ่านขั้นตอนพิเศษก่อนโหลดขึ้นเรือ

 

——

 

4. แนวทางการเตรียมความพร้อม

 

– ขอ MSDS จากผู้ผลิตทุกราย และตรวจสอบ Section 14

– วางแผนเผื่อเวลาอย่างน้อย 7–10 วัน สำหรับสินค้าที่ต้องการอนุมัติจากสายเรือ

– เลือกใช้บริการจากผู้ให้บริการโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์เฉพาะทาง

– จุดที่มักผิดพลาดใน DG Declaration Form: ฟอร์มนี้เป็นเอกสารสำคัญมากในการส่งออกสินค้า DG เพราะเป็นการรับรองข้อมูลความปลอดภัยต่อสายเรือ หากกรอกผิดพลาด อาจส่งผลดังนี้:

 

จุดผิดพลาด	ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ระบุ UN Number ผิด	ถูกปฏิเสธการโหลด / เสี่ยงผิดกฎหมาย
ลืมระบุ Packing Group	สายเรือไม่อนุมัติขนส่ง
ใช้ชื่อสารเคมีไม่ตรงกับ IMDG	เอกสารไม่ผ่าน → ดีเลย์
ลืมเซ็นชื่อเจ้าหน้าที่รับผิดชอบ	เอกสารไม่สมบูรณ์
กรอกข้อมูลบรรจุภัณฑ์ไม่ครบ	สายเรือ/ตัวแทนไม่ออก Booking

 

 

——

 

5. พาร์ตเนอร์ผู้เชี่ยวชาญที่ ZUPPORTS แนะนำ HIX (Handle Inter Express)

 

Freight Forwarder มืออาชีพ ที่เข้าใจทุกขั้นตอนของการส่งออก Dangerous Goods (DG)  อย่างแท้จริง จุดเด่น ได้แก่

 

1. เชี่ยวชาญ Dangerous Goods (DG) โดยตรง

HIX มีทีมงานที่เข้าใจข้อกำหนดพิเศษของสินค้าประเภทอันตราย เช่น ต้องมี MSDS, ต้องบรรจุในภาชนะมาตรฐาน และต้องผ่านการอนุมัติเฉพาะจากสายเรือ

 

2. บริการ ONE STOP SERVICE ครบวงจร

ตั้งแต่จองเรือ นัดโหลดสินค้า จัดรถหัวลาก พร้อม GPS TRACKING

ไปจนถึงจัดทำเอกสาร BL และ FORM FTA พร้อมส่ง COMPLETE DOCUMENT ถึงมือลูกค้า

 

3. ตรวจสอบทุกขั้นตอนแบบมืออาชีพ

สินค้าของลูกค้าจัดส่งได้ตรงเวลา พร้อมกับเอกสารที่ถูกต้องเพราะ HIX มีขั้นตอน QC เอกสารก่อนส่งออก

 

4. ประสบการณ์จริงจากลูกค้าในระบบ ZUPPORTS

ลูกค้า ZUPPORTS ที่ใช้บริการ HIX หลายราย มั่นใจและใช้ต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์และอาหาร

 

ZUPPORTS ขอแนะนำ HIX ให้เป็นอีกหนึ่งพาร์ตเนอร์ด้านโลจิสติกส์ที่คุณควรรู้จัก!

หากคุณมีสินค้า Dangerous Goods (DG) และต้องการทีมงานที่ “เข้าใจจริง” และ “ดูแลครบ”

เช็คราคาขนส่งของ HIX ผ่านระบบ ZUPPORTS Freight Management ได้ที่ zupports.co/register

หรือ ติดต่อ HIX ได้ที่ MARKETING TEAM umaporn@handleinterexpress.com

 

=========================

“ZUPPORTS FreightChat”

ระบบแชตที่ช่วยคุณ…

✅ ค้นหา HS / HTS Code ได้แบบอัตโนมัติ

✅ ตรวจสอบอัตราภาษีนำเข้าแต่ละประเทศ

✅ เข้าใจข้อกำหนดพิเศษ เช่น FTA, สินค้าควบคุม หรือต้องขออนุญาต

สนใจ ลงทะเบียนใช้งานระบบได้ที่

https://forms.gle/ouDkdFfUfFhw5Mmr9

=========================

📍 ขอแนะนำ สำหรับ ZUPPORTS Club

Facebook กลุ่มปิด รับชมคลิป Webinar ของ ZUPPORTS เช่น  การตีความพิกัดศุลกากร (HS CODE) และการ Post Audit, Update สถานการณ์เฟรท แบบ Exclusive, พร้อมการ Networking กันในกลุ่มสมาชิก

🧭 เปิดให้สมัครสมาชิกแล้ววันนี้ ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3F33miZ

.

ผู้นำเข้าส่งออก อยากใช้ AI OCR ช่วยเช็คเอกสาร B/L, SI, Invoice, Packing list

สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3B5yRY8

.

พิเศษ! ZUPPORTS POST

กลุ่มไลน์ Openchat สำหรับ คนในวงการ นำเข้า ส่งออก เข้ามาสอบถามข้อมูล ติดตามข่าวการค้า การขนส่งระหว่างประเทศกันได้ที่ https://bit.ly/3seJRLk