[Freight Weekly Update] สถานการณ์ การขนส่งทางเรือประจำวันที่ 21 -25 มีนาคม 2565 กับ Zupports
เริ่มต้นเปิดสัปดาห์แห่งความชุ่มช่ำในความร้อนระอุ
กลับมาพบกันอีกครั้งกับการรายงานสถานการณ์ ภาคการขนส่งในวงการเรือประจำสัปดาห์ เราเปิดเริ่มต้นเช้าวันทำงานด้วยความชุ่มช่ำกันถ้วนหน้า แต๋ก็พอช่วยดับร้อนไปได้บ้าง เนื่องจากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น เราเจอกันแต่เรื่องร้อนๆกันมาพอสมควร ทั้งสภาพอากาศที่เสมือนจริงทะเลทรายที่มาพร้อมกับ Real Feel อยู่ที่ 45องศา ชวนให้ทิ้งงานไปทะเล
.
ทั้งข่าวสารรอบตัวเราที่ดูเหมือนช่วงนี้มีแต่เรื่องร้อนๆ ทั้งสถานการณ์โลกที่ยังมาคุและดูเหมือนยังไม่มีทางจบที่ชัดเจน อีกทั้งข่าวสารสถานการณ์ค่าครองชีพในบ้านเราที่ชวนให้เป็นลมแดดซ้ำ รวมไปถึงจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด 19 ที่ดูเหมือนจะกดไม่ลงทั้งเราและทั่วโลก โดยเฉพาะในจีน ที่เริ่มมีผู้เสียชีวิตด้วยไวรัสที่ว่าอีกครั้งในรอบปี จนต้องมีการออกคำสั่งจากรัฐบาลปักกิ่ง ในการล็อคดาวน์ตามเมืองใหญ่ๆอีกครั้ง
.
สัปดาห์นี้มีอะไรบ้าง ตามเรามาดูกันเลย
=========================
ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์
สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.zupports.co/register
=========================
1) เริ่มกันที่สถานการณ์และภาพรวมของการจองเรือ ที่ดูเหมือนจะยังแน่นและตึงพอควรแทบจะทุกภูมิภาคเส้นทางการส่งออก ในเส้นทางไปยังภูมิภาคอินทราเอเชีย อาจยังพอดูดีบ้าง พอได้ลุ้นบุ๊คกิ้งถูกปล่อยมาบ้าง
.
แต่ในเส้นทางที่ยังถือว่าสาหัสหนักมาโดยตลอดและจองยากเย็นมาก คือเส้นทางภูมิภาคเอเชียใต้ หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า Indian Subcon
.
ที่ดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะผ่อนคลายลง เรือเต็มจนหลายคนบอกว่าต้องจองล่วงหน้าเกือบสองเดือน (แอดได้แต่ฟังแล้วก็สงสัย ค่าระวางเฟรท เรือปิดกันเดือนต่อเดือน แล้วรับจองเรือได้ไงล่วงหน้าสองเดือน !!! หรือรับจองก่อนแล้วแจ้งราคาทีหลัง เท่าไหร่ก็ไปหรือเปล่า !!!)
.
แถมคนที่ส่งไปเส้นทางที่ว่าแบบไม่ใช่ขนส่งตรงหรือ Direct Service ต้องเจอกับปัญหา ตู้สินค้าส่วนมากไปตกและรอเรือแม่ที่จุดถ่ายลำอย่าง สิงคโปร์หรือมาเลเซียอีกเกือบ 3 สัปดาห์หรือบางคนเจอเดือนกว่า
.
ในขณะที่บางเส้นทางอย่างภูมิภาคยุโรป หลายสายการเดินเรือเริ่มมีการปล่อยบุ๊คกิ้งหรือยืนยันการรับจอง ภายใต้ราคาแบบ FAK เพิ่มขึ้นบ้าง แต่ก็ยังถือว่าแน่นมาก ส่วนในเส้นทางไปภูมิภาคอเมริกาเหนือ ก็ยังแน่นและงานส่วนมากบุ๊คกิ้งภายใต้ราคาพิเศษหรือ Premium Rate
.
หากแต่หลังจากที่ จีนมีคำสั่งล็อคดาวน์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เราต้องลองดูอีกทีว่า หลังจากเมืองจีนอย่างเซิ่นเจิ้นคลายล็อคแล้วส่งผลให้เห็นเรื่องบุ๊คกิ้งที่กำลังจะกลับมาแน่นหนักกว่าเดิมในสัปดาห์หน้าหรือไม่ เนื่องจากเมื่อจีนกลับมาคลายล็อคดาวน์ นั่นหมายถึงปริมาณสินค้าจำนวนมหาศาลที่อั้นไว้จะทะลักออกและเบียดบังพื้นที่ในเส้นทางอื่นๆ
2) ในภาพรวมของสถานการณ์ตู้สินค้า ทั่วโลกยังคงประสบกับปัญหาการขาดแคลน ทั้งในภูมิภาค เอเชีย, เอเชียใต้, ยุโรป และอเมริกากำลังประสบกับปัญหาการขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากติดปัญหาในภาคแรงงานและภาคการขนส่งภายในแต่ล่ะประเทศ ตู้สินค้าส่วนมากจึงตกค้างอยู่ที่ท่าเรือรอการลากออก หรือตกค้างอยู่ในส่วนที่อยู่กลางแผ่นดินของในแต่ล่ะภูมิภาค รวมถึงไปค้างอยู่บนเรือสินค้าที่ ทำการรอเข้าเทียบท่าต่างๆ ซึ่งกำลังประสบความหนาแน่น
.
ยิ่งจีนเองเริ่มกลับมาใช้มาตรการควบคุม โดยการประกาศล็อคดาวน์หลายเมืองใหญ่เนื่องจากสถาณการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ระลอกใหม่ ซึ่งแน่นอนตู้สินค้าจำนวนมหาศาลในจีนแผ่นดินใหญ่ จะไม่สามารถขนส่งหรือทำการหมุนเวียนได้ตามปกติ และนั้นหมายถึง ตู้สินค้าที่ควรจะไหลเข้าระบบมันจะหายไป ซึ่งอาจมีผลต่อคนที่รอสินค้าขาเข้าแบบเต็มๆ
.
ในขณะที่บ้านเรายังพอถูไถ มีปล่อย ยังพอมีลากได้บ้างแม้สภาพตู้ที่มีปล่อยจะไม่ตามเกรดที่เราอยากได้สักเท่าไร หากแต่บ้านเราน่าจะได้รับผลกระทบเรื่องตู้ในสัปดาห์หน้าหรืออีกสองสัปดาห์ต่อจากนี้ เนื่องจากประเทศจีนล็อคดาวน์อย่างที่กล่าวไปข้างต้น
.
โดยย้ำอีกครั้งสำหรับน้องใหม่ในวงการ คือต้องตรวจสอบบุ๊คกิ้งกับตู้ที่ลานก่อนปล่อยงานพี่หัวลากเสมอ
3) ในส่วนของความนิ่ง ความเสถียรของตารางเดินเรือนั้น แทบจะไม่มีเหลือเลย
.
ทุกรอบเรือต้องมีการล้าช้าเสมออย่างน้อย 2 – 4 วัน หรืออาจมีการออกเร็วขึ้น เนื่องจากมีการไม่เข้าในบางท่าเรือก่อนหน้า
.
แต่บางครั้งการที่เรือออกเร็วขึ้น มันก็ไม่ใช่ผลดีสักเท่าไรสำหรับเราในแวดวงนำเข้าส่งออก เนื่องจากบ่อยครั้งที่เราไม่สามารถเร่งกระบวนการทำงานของเราได้แบบกะทันหันยามที่รู้ว่าตารางเรือเปลี่ยนแบบฟ้าผ่า ผลลงเอยสำหรับคนทำขาเข้าคือ เจอค่าวางตู้งอก และสำหรับคนทำขาออกคือ “ตกเรือ”
.
ในขณะที่การขนส่งไปยังภูมิภาค อเมริกาตอนเหนืออย่างแคนาดา โดยเฉพาะส่วนที่ต้องทำการขนถ่ายทางรางต่อ อาจประสบปัญหาล่าช้า เนื่องจากการเจรจาระหว่างสหภาพแรงงานกับการรถไฟของที่นั้นยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงในเส้นทางอเมริกาท่าเรือหลัก บางสายการเดินเรืออาจเจอกับปัญหาการไม่เข้าหรือ SKIP ข้ามบางท่าเรือเนื่องหลีกหนีข้ามหนาแน่นและเวลารอคิวเทียบท่า
.
ใครที่มีงานไปเส้นทางภูมิภาคอเมริกาเหนือ คงต้องหมั่นตรวจสอบเมลล์หรือประกาสแจ้งเตือนจากสายการเดินเรือบ่อยๆ เพราะถ้าหลายคนหลุดเมลล์ที่ว่า นั่นหมายถึง มีเรื่องเสียเงินจากค่าแก้ไขเอกสารหรือ ค่าปรับ Manifest
4) ทางด้านค่าระวางหรือค่าเฟรท ทุกเส้นทางการส่งออกไปยังทุกภูมิภาคยังคงอยู่ในระดับสูง และไม่มีเพดานที่แน่นอนจริงๆ สายการเดินเรือที่ให้บริการในเส้นทางสายนอกระยะไกลหรือ Long Haul ยังคงจองเรือภายใต้ ราคาพิเศษหรือPremium/ Diamond/ Extra/ Special rate แล้วแต่เรือแต่ละสายจะเรียก
.
ยังรวมไปถึงงานส่วนมากจองเรือภายใต้ ราคาชั่วคราว หรือ Spot Rate ซึ่งหน้าตาละม้ายคล้ายคลึงกับการจองตั๋วเครื่องบินไม่ผิดเพี้ยน จนหลายคนตื่นมากลางดึกเพื่อทำการจองเรือ หวังได้พื้นที่สเปชหรือราคาที่ต่ำลงกว่าตอนกลางวัน พูดแล้วเหมือนเวลาเราตื่นตอนดึก เพื่อมาหาตั๋วเครื่องบินราคาต่ำไปญี่ปุ่นจริงๆ
.
ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว ค่าระวางขนส่งทั้งกระดานยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์สูง และดูเหมือนหลายสายการเดินเรือกำลังจะมีการปรับขึ้นค่าระวางขนส่งเพิ่ม ในส่วนของ PSS / GRI ในช่วงกลางมีนาคมและเมษายนนี้ โดยเฉพาะการส่งออกในเส้นทางจากในภูมิภาคยุโรปไปบางท่าเรือ เริ่มมีการประกาศแจ้งบ้างแล้ว หากแต่หวังว่าจะไม่ประกาศลามมามีผลบ้านเราเพิ่ม
5) กลับมาในส่วนสภาวะความหนาแน่นของท่าเรือต่างๆ ในส่วนของฝั่งภูมิภาคยุโรป ท่าเรือหลักอย่าง NLRTM / DEHAM กำลังประสบกับปัญหาความหนาแน่น เนื่องจากต้องรับภาระหนัก ในการขึ้นเทียบสินค้าเพื่อทำการไหลเข้าสู่ทวีปยุโรป ทดแทนบางท่าเรือที่ถูกระงับการเข้าเทียบ ในช่วงภาวะสงครามของยุโรปฝั่งตะวันออก
.
ในขณะที่ท่าเรือของภูมิภาค อเมริกาทั้งสองฝั่ง USEC/USWC ยังคงแน่นและมีเรือรอเข้าเทียบท่าเป็นจำนวนมาก และจากตัวเลขของหลายสำนักวิจัยมองว่า ปีนี้ในไตรมาสสองที่จะถึงนี้ ตัวเลขนำเข้าสินค้าจากเอเชียสู่ประเทศสหรัฐอเมริกาน่าจะขึ้นสูงสุดเป็นประวัติกาล
.
ซึ่งนั้นหมายถึงจำนวนตู้สินค้าหรือรอบเรืออีกจำนวนมากที่กำลังจะหลากเข้าไปที่สหรัฐอเมริกาทั้งสองฝั่ง และหากยังไม่สามารถคลี่คลายปัญหาความหนาแน่นได้ภายในสองเดือนนี้ คาดว่าความหนาแน่นในช่วงเดือน มิถุนายนหรือ กรกฎาคม อาจจะกลับมาอยู่ในจุดสาหัสเหมือนเช่นช่วงโควิด 19 ของเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมีเรือรอเข้าเทียบท่าฝั่งตะวันตกกว่า 80 -100 ลำจนตารางเดินเรือทั้งโลกบิดจนถึงทุกวันนี้
.
รวมถึงท่าเรือในเอเชียโดยเฉพาะ 2 ท่าเรือหลัก ในเมืองเซิ่นเจิ้นของจีน อย่าง CNSHK /CNYTN รวมถึงท่าเรือในเขตบริหารพิเศษอย่าง HKHKG
.
ปริมาณสินค้าทั้งขาเข้าและขาออกที่ตกค้างและอั้นไว้เนื่องจากศักยภาพของการบริหารจัดการที่ลดหายไปช่วงล็อคดาวน์ ไปเมื่อสัปดาห์ก่อนที่แน่นอนว่าต้องแน่นแบบไม่ต้องสงสัย โดยมีเรือจำนวนหนึ่งรอเข้าเทียบท่า ในขณะที่หลายสายการเดินเรือเริ่มประกาศไม่เข้าทั้งสามท่าเรือที่ว่าและหนีไปเข้าที่อื่นแทน ทั้งนี้เนื่องจากทั้งสามท่าเรือเป็นประตูหลักในการนำเข้าส่งออกจีนแผ่นดินใหญ่กับ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงสินค้าที่มาจากเส้นทางข้ามมหาสมุทรอินเดีย
*******
6) ที่เล่ามาทั้งหมด คือการสรุปภาพรวมและทิศทางในภาคอุตสาหกรรมขนส่งทางเรือ จะเห็นว่าเป็นสัปดาห์ที่ถือว่าร้อนทั้งสภาพอากาศและสภาวะการทำงานในแวดวงเราจริงๆ
.
แต่ไม่ว่าจะในสถานการณ์ใด จะสภาวะใดก็ตาม พวกเราชาวทีมงาน ZUPPORTS จะยังคงอยู่ข้างๆเป็นกำลังใจและยังคงนำส่งข้อมูลข่าวสารดีๆให้ผู้ประกอบการและเพื่อนในวงการนำเข้าส่งออก แบบนี้เสมอ
มาตามกับเราต่อในสัปดาห์หน้ากัน
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ
นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================
สำหรับช่วงนี้ ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ที่ประสบปัญหาจองเรือไม่ได้ ราคาเฟรทแพง แอดมิน ขอแนะนำ ZUPPORTS แพลตฟอร์มดิจิตอล ที่ได้รวบรวมเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์หรือผู้ให้บริการขนส่ง ในระบบมากกว่า 100 ราย
.
ช่วยผู้นำเข้าส่งออก สามารถ Bid และเปรียบเทียบ ราคาขนส่งทางทะเล ทางอากาศ ทางบก ได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์
.
นอกจากนี้เรายังช่วย เชื่อมโยงข้อมูล ทั้งระบบติดตามเอกสารขนส่ง, งานศุลกากร, ประกันภัย, บริการทางการเงิน ทำให้บริษัท บริหารงานนำเข้าส่งออก ได้ครบ จบในที่เดียว
.
เพื่อนๆที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ทดลองใช้ระบบฟรี ได้ที่ www.zupports.co/register