สรุปสาเหตุ Singapore Port Congestion ที่มากกว่าเรื่อง ทะเลแดง
สิงคโปร์ซึ่งเป็นศูนย์กลางการขนส่งทางเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์ Port Congestion อย่างรุนแรง หลังผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงเส้นทางผ่านทะเลแดงจากการโจมตีของกลุ่มกบฏฮูตี โดยทำให้ ความล่าช้าในการขนส่งสินค้าทางเรือที่สิงคโปร์เพิ่มขึ้นถึงสองเท่าจากปัญหาขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์ รวมถึงความแออัดของท่าเรือ
แต่นอกเหนือจากเหตุผลดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกเหตุการณ์ที่ผลักดันให้การนำเข้าของสหรัฐฯอเมริกาช่วงนี้ เพิ่มสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด ส่งผลให้เรือสินค้า ต้องเร่งการขนส่งไปสหรัฐอเมริกานั่นก็คือ…
ประเด็น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
หลังประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอย่างแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและชิพคอมพิวเตอร์สูงถึง 4 เท่า ทำให้ผู้ส่งออกจีนรีบขนส่งสินค้ามายังสิงคโปร์ผ่านช่องแคบมะละกา ราคาค่าขนส่งตู้คอนเทนเนอร์จากจีนพุ่งสูงขึ้น 88% ในสองเดือนที่ผ่านมา
ปริมาณเรือที่สิงคโปร์เพิ่มสูงขึ้น ท่าเรือต้องรองรับเรือประมาณ 1,000 ลำในเดือนนี้ เทียบกับ 600 ลำเมื่อเดือนก่อน ระยะเวลาเทียบท่าเพิ่มจาก 1-2 วันเป็น 7 วัน ท่าเรือแออัดสุดๆ และขาดช่องว่างในการรองรับปริมาณเพิ่มเติม จนผู้ประกอบการต้องคำนวณความล่าช้าล่วงหน้าหลายเดือน
นอกจากนี้ ระยะเวลาเดินเรือที่ยาวนานขึ้น ส่งผลให้ประเทศผู้ส่งออกเผชิญภาวะขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์ ผู้รับจัดการขนส่งสินค้าขนาดใหญ่เช่นรถยนต์ ต้องจ่ายค่าขนส่งสูงถึง 3 เท่า ต้นทุนสูงกว่านี้อาจถูกถ่ายทอดไปยังผู้บริโภค
แนวทางเลือกคือการขนส่งทางอากาศ แต่ค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าทางเรืออย่างมากถึง 5-20 เท่า ทำให้อาจไม่คุ้มค่ากับการขนส่งหีบห่อขนาดใหญ่ แต่อาจเหมาะสำหรับพัสดุขนาดเล็ก แนวโน้มความแออัดที่สิงคโปร์และท่าเรืออาเซียนใกล้เคียงจะยังคงอยู่อีกหลายเดือน
อุตสาหกรรมการผลิตและอีคอมเมิร์ซสินค้าหนักน่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตห่วงโซ่อุปทานนี้มากที่สุด เนื่องจากต้องพึ่งพาการขนส่งทางเรือเพื่อนำเข้าวัตถุดิบ รวมถึงส่งสินค้าออกจำหน่ายด้วย
แรงขับเคลื่อนการเติบโตที่สูงขึ้น ประกอบกับภาวะขาดแคลนเรือและตู้คอนเทนเนอร์ คาดว่าจะกดดันให้อัตราเงินเฟ้อในสิงคโปร์ปรับตัวสูงขึ้น แม้ราคาสินค้าจะคาดว่าจะผ่อนคลายในช่วงครึ่งปีหลัง แต่แนวโน้มนี้กลายเป็นไม่แน่นอน โดยคาดว่าราคาอาหารและค่าขนส่งจะปรับตัวสูงขึ้นตามราคาพลังงานที่แพงขึ้น และราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็มีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อจีนขยายกิจกรรมการค้าในช่วงที่เหลือของปีนี้
ผลกระทบต่อราคาสินค้าและเงินเฟ้อ
- ต้นทุนการขนส่งสินค้าที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลให้ต้นทุนสินค้าพุ่งสูง โดยเฉพาะธุรกิจผลิตสินค้าหนักและอีคอมเมิร์ซสินค้าขนาดใหญ่
- นักวิเคราะห์เตือนว่าสถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อของสิงคโปร์ได้ หากปัญหายังไม่คลี่คลาย
แนวโน้มค่าระวางเรือในอนาคต
- อัตราค่าระวางตู้สินค้าทางเรือในเส้นทางหลักเพิ่มขึ้นเพียงหลักเดียวในสัปดาห์นี้ หลังจากพุ่งสูงสองหลักเมื่อสัปดาห์ก่อน
- ดัชนีค่าระวางเรือโลกเพิ่มขึ้น 2% แต่สูงกว่าปีก่อนถึง 202% โดยเส้นทางจากเซี่ยงไฮ้เพิ่ม 2-3%
- การเปลี่ยนแปลงราคาปัจจุบันบ่งชี้ว่าอุปสงค์-อุปทานตลาดเพิ่มขึ้นช้า ขณะที่การพุ่งสูงมาจากนโยบายปรับราคาของผู้ประกอบการ
- คาดการณ์จะมีการปรับอัตราค่าระวางขึ้นอีกในสัปดาห์หน้า แต่น่าจะไม่รุนแรงเท่าเดิม
- หากอุปสงค์ยังคงสูง ปัญหาท่าเรือแออัดและวิกฤตช่องแคบยังไม่คลี่คลาย Sea-Intelligence คาดว่าอัตราค่าระวางเส้นทางเอเชีย-เมดิเตอร์เรเนียนอาจทะลุ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้ 40 ฟุต
ที่มา: CNA, Bloomberg
=========================
นำเข้าความรู้ ส่งออกความคิด
ติดตามเพจ นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า
=========================
พิเศษ! ZUPPORTS POST
กลุ่มไลน์ Openchat สำหรับ คนในวงการ นำเข้า ส่งออก เข้ามาสอบถามข้อมูล ติดตามข่าวการค้า การขนส่งระหว่างประเทศกันได้ที่ https://bit.ly/3seJRLk
พิเศษ! เช็คแนวโน้มราคาขนส่งระหว่างประเทศ ลงทะเบียนได้ที่