[Freight Weekly Update] วันที่ 18 -22 เมษายน 65 จะเป็นเช่นไร เมื่อหัวใจหลักแห่งวงการขนส่งสินค้าอย่างเซี่ยงไฮ้เกือบจะหยุดเต้น

[Freight Weekly Update] รายงานสถานการณ์นำเข้า- ส่งออก ภาคการขนส่งทางเรือ ประจำวันที่ 18 -22 เมษายน 2565 กับ ZUPPORTS จะเป็นเช่นไร เมื่อหัวใจหลักแห่งวงการขนส่งสินค้าอย่างเซี่ยงไฮ้เกือบจะหยุดเต้น

 

กลับมาพบกันอีกครั้งเหมือนเช่นเคย กับการอัพเดต ข่าวสาร ทุกความเคลื่อนไหวรวมถึงสถานการณ์นำเข้า-ส่งออกในภาคการขนส่งเรือประจำสัปดาห์ที่ 17/2022 หากนับตามปฏิทินคนที่ทำงานเรือ

.

โดยสัปดาห์นี้เป็นการเปิดทำงานวันแรกของบ้านเรา หลังจากที่หลายคนหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่ทุกคนต้องได้ประสบพบเจอกันถ้วนหน้า นั่นคือความวุ่นวายและโกลาหล เรียกว่าพลังงานที่ได้ชาร์จมาในช่วงหยุด 5 วัน แทบจะหมดภายในครึ่งเช้าวันจันทร์เท่านั้น ยิ่งคนที่สะสม บ่มเมลล์และมารออ่านทีเดียวเช้าวันจันทร์อตนเปิดงาน กล่องเมลล์เข้าแทบจะปริ แอดยังเป็นกำลังให้ในการสะสางเมลล์

.

ในช่วงหยุดยาวบ้านเรา ดูเหมือนสถานการณ์โลกที่กำลังถูกจับตาโดยคนทั้งโลก ไม่เฉพาะแค่คนในวงการนำเข้า-ส่งออก นั่นคือการล็อคดาวน์ที่ประเทศจีน โดยเฉพาะในเมืองใหญ่ล่าสุดอย่างเซี่ยงไฮ้ ภายใต้มาตรการ Covid-Zero ของรัฐบาลปักกิ่ง ที่ดูจะเป็นตัวแปรสำคัญส่งผลให้ระบบห่วงโซ่การบริหารจัดการภาคขนส่งและการกระจายสินค้าเข้าสู่จุดวิกฤติอีกครั้ง และเริ่มส่อเค้าบานปลาย ลามไปกระทบเรื่องต่างๆที่อยู่ใกล้ตัวเราในชีวิตประจำวันเข้าทุกที

.

รวมถึงสถานการณ์โลกที่มีผลต่อชาวโลกรวมถึงในแวดวงของเราๆท่านๆ อย่าง สถานการณ์การสู้รบระหว่างยูเครนกับรัสเซียระลอกใหม่ ที่ยังคงส่งผลต่อภาวะราคาเชื้อเพลิงโลกและการบิดเบี้ยวในภาคการขนส่งในภูมิภาคยุโรป

รวมถึงสถานการณ์อุทกภัย น้ำท่วมใหญ่ที่ประเทศแอฟริกาใต้ ถึงขั้นที่ท่าเรือหลักอย่าง Durban ต้องประกาศปิดท่าเป็นการชั่วคราวไปเมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว หรือกรณีภาวการณ์ขาดแคลนเชื้อเพลิงอย่างหนักในศรีลังกา จนทำให้เกิดภาวการณ์สะสมของตู้สินค้าจำนวนมากในท่าเรือ และที่ตามมาคือความหนาแน่นในท่าเรือ Colombo

.

หากพร้อมกันแล้วมาติดตามรายละเอียดต่างๆกับพวกเรา ZUPPORTS กันเลย

 

=========================

ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์

สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register

=========================

 

1) เริ่มกันที่สถานการณ์และภาพรวมของการจองพื้นที่ระวางเรือ หรือการบุ๊คสเปชเรือ ดูเหมือนหลายเส้นทางการขนส่งไปยังหลายๆภูมิภาค ยังคงได้รับผลบุญ อานิสงค์จากคำสั่งการล็อคดาวน์ เมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน ซึ่งผลของการมาตรการล็อคดาวน์ดังกล่าว เป็นผลให้ตลาดสินค้าส่งออกของประเทศจีน หดตัวลงไปอย่างมาก

.

ในทุกรอบเรือที่มีท่าต้นทางออกมาจากจีนในหลายเส้นทางการขนส่งไปยังทุกภูมิภาคทั่วโลก จึงค่อนข้างโล่ง และเอื้อต่อสินค้าที่ส่งออกมาจากภูมิภาคอื่นๆพอสมควร หากแต่เราอาจไม่ได้ทำงานในทุ่งลาเวนเดอร์แบบนี้ในทุกสัปดาห์ !!!

.

ทั้งนี้ก็เพราะสินค้าของประเทศจีน คือตลาดหลักที่บรรดาสายการเดินเรือส่วนใหญ่ทำการขนอยู่และมองตลาดจากจีนเป็นหลักหรือ First Priority เสมอ ก็เนื่องจากราคาค่าระวางหรือค่าเฟรทที่ออกมาจากเมืองจีนค่อนข้างสูง จำนวนหรือปริมาณของตู้สินค้าที่สามารถเก็บกินค่าธรรมเนียมต่างๆแบบได้เนื้อได้หนังมากกว่าเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น

.

รวมไปถึงสินค้าที่ออกมาจากเมืองจีนไปยังหลายภูมิภาคทั่วโลกสามารถขนส่งด้วยเรือแม่ขนาดใหญ่ทอดเดียว ไม่ต้องขนโดยเรือลูกไปต่อเรือแม่ที่จุดถ่ายลำเหมือนบ้านเรา ซึ่งอย่างที่คนวงการเรือรู้กันว่า หลักการขนสินค้าทางเรือ ยิ่งถ่ายลำบ่อยเท่าไร นั่นหมายถึงต้นทุนการจัดการท่าของสายการเดินเรือที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นต้นทุนค่าระวางขนส่งของบริการแบบทอดเดียวหรือ Direct Service จะต่ำกว่าการบริการแบบถ่ายลำหรือ Transshipment Service ซึ่งจะตรงข้ามกับเวลาที่เราซื้อตั๋วโดยสารเครื่องบินทางแอร์ ที่ Direct Flight จะแพงกว่า Transit Flight

.

ดังนั้นในรอบสัปดาห์นี้และสัปดาห์หน้า หลายคนอาจจะไม่ได้โชคดีได้รับบุ๊คกิ้งยืนยันการจองเหมือนก่อนหน้านี้ หลายสายการเดินเรืออาจทำการ หยุดรับการจองหรือปล่อยให้เป็น Blank Sailing ในหลายเส้นทาง โดยเฉพาะเส้นทางขนส่งภายในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากมีเรือจำนวนมากที่ยังเสียเวลารอเข้าเทียบท่าเรือประเทศจีน จนไม่สามารถกลับเข้ารอบเรือได้ทัน

.

รวมไปถึงปัจจัยอื่นอย่างภาวะตู้สินค้าขาดแคลนและกลยุทธ์ในการบริหารจัดการทางการตลาดของสายการเดินเรือเอง

.

ในขณะที่คนทำขาเข้ารวมถึงผู้ประกอบการนำเข้า โดยเฉพาะสินค้าจากเมืองจีน ช่วงนี้ คงติดตามข่าวสารจนแทบเหมือนติดดูซีรีย์ เรียกว่ารู้เยอะกว่าคนจีนเองด้วยซ้ำ ว่าในประเทศจีนเมืองไหนปิด เมืองไหนเปิด บางท่านอาจกระหน่ำเมลล์ไปหาต้นทางไม่ต่ำกว่า 5 -10 ฉบับต่อวันเพื่อถามความคืบหน้า แต่ด้วยสถานการณ์ในประเทศจีนตอนนี้ ดูเหมือนจะไม่เป็นใจกับคนนำเข้าอย่างมาก

.

ยิ่งบรรดาบริษัทตัวแทนรับขนส่งหรือคนที่นำเข้ามาเพื่อทำการจัดงานประเภท Event รวมถึงงานประเภท Automotive Parts Project Bidding นำเข้าให้กับค่ายรถยนต์ ต่างร้อนๆหนาวๆ จากการถูกลูกค้าเคลม

 

2) ทางด้านภาพรวมของตู้สินค้า อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า ทุกภูมิภาคทั่วโลกกำลังต้องรับมือกับปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้า หรือพูดง่ายๆไม่มีตู้ให้ใช้สำหรับบรรจุสินค้าเพื่อส่งออกนั่นเอง โดยปัญหาตู้สินค้าขาดแคลนนั้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่ท่าเรือต่างๆ รวมถึงตัวแทนรับขนส่งทั่วโลก ไม่สามารถบริหารจัดการในแบบที่ควรจะเป็น การหมุนเวียนของตู้สินค้าจึง ไม่เป็นไปตามระยะเวลาวงรอบวัฎจักรของตัวมันเอง

.

ซึ่งในปัจจุบัน ตู้สินค้าที่หายไป มันไปตกค้างอยู่ตามท่าเรือต่างๆทั่วโลก อย่างในภูมิภาค อเมริกาเหนือ ,ยุโรป และในประเทศจีนที่ยังอยู่ในช่วงการล็อคดาวน์ในหลายเมือง จนเป็นเหตุให้มีตู้สินค้าอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถทำการเคลื่อนย้ายได้ ถูกค้างไว้ตามลานตู้และโรงงานต่างๆ  อีกทั้งตู้สินค้าจำนวนไม่น้อยที่ค้างอยู่บนเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่ายเป็นเวลานานเนื่องจากความหนาแน่นของท่าเรือทั่วโลก

.

สำหรับในบ้านเราเอง เริ่มส่อเค้าความหนักหน่วงของปัญหา หลายคนเริ่มได้รับผลกระทบตั้งแต่ก่อนหยุดสงกรานต์ เนื่องจากหลายสายการเดินเรือเริ่มประสบกับปัญหาการขาดแคลนบ้างแล้ว บางสายการเดินเรือเริ่มที่จะกลับมาใช้มาตรการบังคับวันลากตู้เปล่าให้สัมพันธ์กับวันเรือออกโดยการหุบจำนวนวัน Free Time Detention หรือไม่ให้ลูกค้าเอาตู้ไปดองนานๆ รวมถึงในบางสายเรือไม่สามารถปล่อยบุ๊คกิ้งยืนยันการจองได้ล่วงหน้าเกินกว่า 10 – 14 วัน เนื่องจากไม่มีตู้เปล่าในระบบและไม่มั่นใจว่าจะมีให้ลากได้เมื่อไร อีกทั้งสภาพตู้เปล่าที่ปล่อยได้ เกรดตู้เริ่มตกลงไปที่ -B ลงไป

.

โดยเราอาจได้เห็นจุดที่หนักหนาในช่วง 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า และหากไปรอตู้เปล่าขาเข้ามาคืนลาน อาจไม่มีลุ้น เนื่องจากงานขาเข้าเองตอนนี้น้อยมาก โดยเฉพาะงานจากเมืองจีน

.

เว้นเสียแต่ว่า สายการเดินเรือมีการเสริมรอบเรือเฉพาะกิจเพื่อทำการ Repo ตู้เปล่าเข้ามาให้เรา แต่ปัญหาคือ จะเอามาจากที่ไหน

 

3) ในส่วนของภาพรวมตารางเดินเรือ ยังคงประสบกับปัญหาเดิมเหมือนเช่นทุกสัปดาห์ แต่ที่อาจจะได้เห็นหรือได้เจอถี่ขึ้นกับทุกสายการเดินเรือ คือการปล่อยตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing โดยเฉพาะในเส้นทางขนส่งข้ามแปซิฟิค จากเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ/ Trans Pacific Eastbound รวมไปถึงเส้นทางจาก เอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ/ Asia- Europe และยุโรปตอนล่าง / Asia – MED ทั้งนี้ ก็เนื่องจากการที่ตลาดส่งออกจากประเทศจีนหดตัวลง

.

อีกหนึ่งปัญหาที่ทุกคนกำลังจะได้เจอหรือบางคนกำลังประสบอยู่ นอกเหนือจากการล่าช้า นั่นคือภาวะที่เส้นทางเดินเรือ ชื่อเรือ เที่ยวเรือ ท่าที่เรือสินค้าเข้าเทียบ /Port of Discharge ไม่นิ่งและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

.

ภาวะนี้มองผิวเผินแล้วเหมือนไม่น่าจะมีอะไร ขอแค่สุดท้ายแล้วสินค้าไปถึงที่หมายได้ก็เป็นพอ หากแต่ในความเป็นจริงในชีวิตของคนทำงาน มันคือความวุ่นวายแบบไม่รู้จบสิ้น

.

เพราะอย่าลืมว่าในการทำงานในการขนส่งทางทะเล มันมีความละเอียดซับซ้อนมากกว่าอีกสองรูปแบบคือทางอากาศและทางบก ยิ่งหากใครที่เคยผ่านงานมาทั้งสามรูปแบบ จะรู้ว่าความละเอียดของงานเรือนั้นมากกว่า งานทางแอร์และงานทางรถในสัดส่วน 5 ต่อ 1 โดยเฉพาะงานส่วนเอกสาร

.

ยิ่งถูกเปลี่ยนเรือ หรือแก้ไขข้อมูลใดๆก็ตาม อย่างท่าที่เรือแตะเทียบขนถ่าย นั้นหมายถึงคุณต้องตามแก้ไขเอกสารและต้องส่งบัญชีสินค้าทางเรือ/Submit Manifest ใหม่ทั้งหมด และอาจลามต้องตามแก้ไปถึงเอกสารที่ใช้ประกอบการส่งออกอื่นๆ เช่นเอกสารรับรองแหล่งกำเนิดทั้งหลายแหล่ ที่ออกให้โดยหน่วยงานภาครัฐ

.

ซึ่งถ้ามีการหลุดการแก้ไข นั่นหมายถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะงอกขึ้นมาเป็นต้นทุน เรียกได้ว่าเหมือนคนเล่นของ กระพริบตาที ของวิ่งเข้าตัวทันที

4) ในส่วนของค่าระวางขนส่งหรือค่าเฟรท ที่ดูเหมือนภาพรวมมีทิศทางปรับลดเพดานลง แต่ก็ยังถือว่าอยู่ในระดับที่สูงมากหากเทียบกับค่าเฟรทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือช่วงก่อนที่โลกจะรู้จักกับโควิด 19

.

หากแต่โดยรวมก็ยังถือว่าเป็นทิศทางเรื่องดีๆ บ้าง แต่อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้า อย่าคาดหวังว่าจะได้เห็นค่าระวางขนส่งหรือค่าเฟรทลงไปต่ำเหมือนก่อนโควิด หรือมันอาจจะเกิดขึ้นได้ หากแต่ไม่น่าจะได้เห็นในปีนี้

.

เนื่องจากยังมีหลายปัจจัย ที่ยังคอยค้ำและพยุงเพดานราคา และสิ่งที่หลายคนกังวลกันคือ เพดานค่าระวางขนส่งอาจกลับพุ่งไต่ระดับอีกครั้งเมื่อจีนคลายมาตรการล็อคดาวน์ เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า เวลาที่ประเทศจีนมีการหยุดยาวหรือปิดทำการ นั่นหมายถึงการอั้นของสินค้าจำนวนมหาศาลที่พร้อมจะทะลักดันส่งออกมาทันที เมื่อประตูเปิด

.

ในขณะที่นักวิชาการหลายคนมองวิกฤติการล็อคดาวน์ในประเทศจีนเป็นโอกาสของผู้ส่งออก ในการที่จะทำตลาดกับคู่ค้าแทนจีน แต่อย่าลืมว่า การหยุดการผลิตของจีนมันมีผลกระทบต่อห่วงโซ่การหมุนเวียนของวงจรขนส่ง ซึ่งคนที่อยู่ในวงการขนส่งมานานจะรู้ดีว่า ชาติมหาอำนาจอย่างอเมริกา จีน กลุ่มชาติตะวันออกกลาง รวมถึงกลุ่มสหภาพยุโรป มีบทบาทสำคัญขนาดไหนในวงการขนส่งโดยเฉพาะทางเรือ

 

5) กลับมาที่ประเด็นสุดท้าย ภาพรวมสภาวะความหนาแน่นของท่าเรือต่างๆทั่วโลก ซึ่งในนาทีนี้ ที่ประเทศจีน ดูท่าจะสาหัสและหนักหนากว่าทุกภูมิภาค สืบเนื่องมาจากคำสั่งล็อคดาวน์เมืองใหญ่ๆ จนล่าสุดถึงคิวของเซี่ยงไฮ้ โดยจากข้อมูลล่าสุดมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าทางฝั่งตะวันออก อย่างเซี่ยงไฮ้/ CNSHA และหนิงป๋อ /CNNGB มากกว่า 500 ลำ และหากนับรวมถึงท่าเรือของจีนตอนบนด้วย ตัวเลขแตะ 1000 ลำแบบไม่ต้องสงสัย

.

ขณะที่ยังคงแออัดและเกินกำลังความสามารถไม่แพ้กันคือ ในภูมิภาคอเมริกาเหนือ โดยในฝั่งตะวันออก / USEC จะดูดีกว่าคือสามารถระบายทั้งตู้สินค้าและเรือสินค้าไปดีกว่า มีเพียง Chaleston /USCHS ที่ช้ากว่าเพื่อน คือมีเรือสะสมอยู่ 12 -18 ลำ และใช้เวลารอเทียบ 15 -20 วัน ในขณะที่ท่าอื่นของฝั่งตะวันออก ใช้เวลารอเทียบอยู่ 3 -8 วัน

ในขณะที่ฝั่งตะวันตก USWC แทบจะทุกท่ายังถือว่าตึงพอสมควร โดยเฉพาะในท่าหลักอย่าง Los Angeles/USLAX และLongbeach/ USLGB มีเรือรอเทียบอยู่ประมาณ 22 -25 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 15- 25 วัน ,และท่าเรือ Oakland/ USOAK มีเรือรอเทียบอยู่ประมาณ 20 -24 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 12- 19 วัน

.

รวมไปถึงสถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียใต้หรือ Indian Subcontinent โดยเฉพาะที่ท่าเรือColombo/ LKCMB ที่กำลังประสบกับภาวะความหนาแน่น จนหลายสายการเดินเรือหยุดรับการจองและระงับการให้บริการชั่วคราว ทั้งนี้เนื่องจากปัญหาภายในประเทศเองที่ก่อตัวเริ่มจากปัญหาเงินเฟ้อ จนลามไปถึงการประท้วงขับไล่ผู้นำประเทศ โดยน้ำมันเชื้อเพลิงกลายเป็นสินค้าหายากราคาสูง จึงทำให้รถบรรทุกไม่มีน้ำมันเติม จนระบบการขนถ่ายสินค้ากลายเป็นต้องหยุดชะงักโดยปริยาย

.

ส่วนในภูมิภาคแอฟริกา ประเทศแอฟริกาใต้ ที่เพิ่งประสบกับอุทกภัย น้ำท่วมครั้งใหญ่เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จนมีผลทำให้ต้องประกาศปิดท่าเรือ Duban/ZADUR ชั่วคราวไปเมื่อวันที่ 11 เมษายนที่ผ่านมา เนื่องจากกระแสน้ำได้พัดเข้าเขตท่าเรือจนเกิดความเสียหาย โดยเฉพาะลานเก็บตู้สินค้าและจุดขึ้นแคร่รถไฟ โดยหลังจากที่ได้ทำการเร่งมือเคลื่อนย้ายและทำการซ่อมแซมในระดับหนี่ง ล่าสุดได้ทำการเปิดท่าเพื่อปฏิบัติงานอีกครั้ง หากแต่ยังคงสงวนการทำงานให้กับสินค้าที่เร่งด่วนและจำเป็นต่อพลเมืองเท่านั้น อย่างยา เวชรภัณฑ์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงน้ำมันและพลังงานเชื้อเพลิง จึงทำให้เริ่มมีสินค้าตกค้างและสะสมอยู่ในท่าเรือระดับหนึ่ง

 

*******

6) เราจะเห็นว่า จากมาตรการล็อคดาวน์ในประเทศจีน โดยเฉพาะที่เซี่ยงไฮ้ อันเป็นที่ตั้งของท่าเรือที่มีปริมาณสินค้าไหลผ่านมากที่สุดของโลก  ซึ่งแน่นอน เมื่อท่าเรือที่เปรียบเสมือนหัวใจหลักในการสูบฉีดระบบไหลเวียนของตู้สินค้าและการถ่ายลำหลักของโลก และวันหนึ่งเมื่อไม่สามารถทำงานได้เต็มที่หรือทำการสูบฉีดได้เหมือนเดิม นั่นหมายถึงความล้มเหลวที่จะตามมาของระบบขนส่งของทั้งโลก ไม่ใช่แค่ของประเทศจีนชาติเดียว

.

ในทางความเป็นจริง การล็อคดาวน์ของจีนในแต่ละเมืองที่ผ่านมา ไม่ได้ทำการปิดท่าเรือ โดยทุกท่ายังปฏิบัติงานกันตามปกติในรูปแบบปิดหรือ Bubble and Seal  หากแต่การติดขัดมันเกิดจากมาตรการที่เข้มงวดจำกัดการเดินทาง รวมไปถึงการควบคุมในภาคการขนส่งเคลื่อนย้ายสินค้าภายในประเทศและการขาดแคลนกำลังคนทำงาน

.

ซึ่งจนถึงขณะนี้ ทางการจีนมีคำสั่งจำกัดพื้นที่หรือล็อคดาวน์ กว่า 40 เมือง โดยเมืองเซี่ยงไฮ้ ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดที่ยังอยู่ภายใต้คำสั่งในตอนนี้ รวมไปถึง เมืองหลักอื่นในภาคกลางและภาคตะวันออกที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและเป็นศูนย์กลางการขนส่งกระจายสินค้า อย่าง Xian, Zhengzhou, Ningbo (บางส่วน ) ,Suzhou, Nantong, Nanjing, Zhangjiagang, Kunshan เป็นต้น

.

ในขณะที่เมืองหลักอื่นๆ ที่มีการคลายล็อคดาวน์แล้ว หากแต่ยังประสบกับปัญหาความแออัดหรือหนาแน่นของท่าเรือรวมถึงการกระจายสินค้ายังไม่สามารถทำได้เต็มที่ เนื่องจากยังถูกบังคับใช้มาตรการควบคุม คัดกรองหาผู้ติดเชื้อและมาตรการจำกัดการขนส่งข้ามเมือง เช่น Hong Kong, Shenzhen, Guangzhou, Beijing, Tianjin เป็นต้น

 

7) ทั้งหมดนี้ คือทิศทางและภาพรวมของสถานการณ์แวดวงนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือในรอบสัปดาห์ ซึ่งเราจะยังคงเกาะติดความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ การล็อคดาวน์ในประเทศจีนแบบใกล้ชิด โดยพร้อมจะรายงานให้ทุกท่านแบบทันท่วงที

.

พวกเราชาว ZUPPORTS จะยังคงอยู่กับทุกท่านในแวดวงนำเข้า -ส่งออกเสมอ แล้วพบกันใหม่ในโอกาสหน้า สวัสดี

 

=============================

ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ

นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk

=========================

 

สำหรับช่วงนี้ ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า ที่ประสบปัญหาจองเรือไม่ได้ ราคาเฟรทแพง แอดมิน ขอแนะนำ ZUPPORTS แพลตฟอร์มดิจิตอล ที่ได้รวบรวมเฟรทฟอร์เวิร์ดเดอร์หรือผู้ให้บริการขนส่ง ในระบบมากกว่า 100 ราย

.

ช่วยผู้นำเข้าส่งออก สามารถ Bid และเปรียบเทียบ ราคาขนส่งทางทะเล ทางอากาศ ทางบก ได้ง่ายๆ ผ่านช่องทางออนไลน์

.

นอกจากนี้เรายังช่วย เชื่อมโยงข้อมูล ทั้งระบบติดตามเอกสารขนส่ง, งานศุลกากร, ประกันภัย, บริการทางการเงิน ทำให้บริษัท บริหารงานนำเข้าส่งออก ได้ครบ จบในที่เดียว

.

เพื่อนๆที่สนใจ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ ทดลองใช้ระบบฟรี ได้ที่ www.ZUPPORTS.co/register

 

 

ข่าวสารอื่นๆ