[Freight Weekly] :อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 29 มกราคม- 2 กุมภาพันธ์ 2567 กับ ZUPPORTS !!!
สัปดาห์แห่งความผันผวน ช่วงเวลาหายใจไม่ทั่วท้อง ของคนขายงาน RFQ Bidding !!!
.
กลับมาพบกันอีกครั้ง เป็นประจำเหมือนเช่นเคย ในทุกวันเริ่มต้นการทำงานของสัปดาห์ กับการรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหว รวมถึง สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวพวกเรา ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในรูปแบบที่ย่อยง่าย เหมือนเพื่อนเล่าให้ฟังกัน
.
สัปดาห์นี้ นับเป็นสัปดาห์ที่ 5 ประจำปี 2567 โดยจะถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัปดาห์ ที่เป็นช่วงเวลาที่แสนวุ่นวาย และชุลมุนของใครหลายคน ในวงการนำเข้า-ส่งออก โดยเฉพาะ คนที่ต้องดูแลในส่วนงานหลังบ้าน อย่าง งาน CS and Document
.
เนื่องจาก เป็นสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ที่จะเป็นช่วงเวลาการปิดจ็อบ เก็บงานในรอบสิ้นเดือน ในขณะที่ สถานการณ์ของงานขนส่งสินค้าทางเรือ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่ถือว่า ค่อนข้างท้าทายอย่างมาก ทั้งเรื่องของตารางเรือที่บิดเบี้ยว รวมถึง พื้นที่ระวางขนส่ง ที่มีอย่างจำกัด ส่งผลให้การจองเรือ ยังคงเป็นเรื่องที่ยากเย็น
.
ดังนั้น ท่ามกลางช่วงเวลาที่สำคัญ และวุ่นว่ายสำหรับใครหลายคนเช่นนี้ หากใคร ที่ไม่มีเวลาในการติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นรอบตัว ก็สามารถที่จะอัพเดทข้อมูล สถานการณ์รายสัปดาห์กับพวกเรา ZUPPORTS กันได้เลย !!
.
=========================
ZUPPORTS ช่วยผู้นำเข้าส่งออก หา Space
เปรียบเทียบราคาและบริการ Freight ทั้งทางทะเล ทางอากาศ ทางบก และทางรถไฟ
ด้วยพันธมิตรผู้ให้บริการขนส่ง มากกว่า 30 บริษัท
ลงทะเบียนทดลองใช้งานได้ที่
=========================
1) สถานการณ์ของ Sea Freight Shipment จะยังคงอยู่ในภาวะที่ทำงานยาก ทั้งเรื่องของ Space และการหาเรือ !!
.
เปิดเริ่มต้นสัปดาห์กันที่ สถานการณ์ของงานขนส่งสินค้าทางเรือ หรือ Sea Freight Shipment ซึ่งภาพรวมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดูจะยังเป็นช่วงเวลาที่ถือว่า ยากเย็นและค่อนข้างตึงเครียด สำหรับผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก โดยการจองเรือในหลายเส้นทางหลัก ยังคงเป็นเรื่องที่ถือว่าทำได้ยาก
.
เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่ง หรือ Allocation Space ที่ค่อนข้างตึงและหุบแคบลงอย่างมาก โดยมีสาเหตุจากการที่หลายสายการเดินเรือ ยังคงอยู่ในช่วงทำการประกาศตารางเรือว่าง ยกเลิกเที่ยวเรือ หรือ Blank Sailing
.
ประกอบกับ เรือสินค้าจำนวนมาก ที่ประจำการในเส้นทางขนส่งหลักสายนอก ทางไกล ไม่สามารถกลับเข้ารอบเรือของตนเองได้ทัน เนื่องจาก มีการปรับเส้นทางเดินเรือขนส่ง หรือ Re-Routing โดยเฉพาะ เส้นทางที่ต้องผ่านทะเลแดงและคอลงสุเอช ซึ่งเป็นพื้นที่สู้รบไปแล้ว
.
ขณะที่ภาพรวมการหมุนเวียนของตู้สินค้าในบ้านเรา เริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะที่ฝืดเคือง โดยในหลายสายการเดินเรือ เริ่มเห็นสัญญาณของปัญหามาตั้งแต่ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่ผู้ประกอบการ ไม่สามารถทำการรับตู้สินค้าเปล่าได้ตามแผนที่วางไว้ ทั้งเรื่องของสภาพตู้และระยะเวลาที่ใช้ในขั้นตอนการรับตู้เปล่า
.
โดยผู้ประกอบการหลายราย ต้องเจอกับการที่ต้องเปลี่ยนลานรับตู้เปล่ามากขึ้น หรือต้องมีการแยกลานรับตู้เปล่าหลายที่ ในกรณีที่เป็นงานแบบ Big Lot/ Big Volume หรือมีจำนวนหลายตู้ ใน Booking เดียว
.
ขณะที่ภาพรวมการหมุนเวียน และการจัดหาตู้สินค้าในต่างประเทศ ผู้ประกอบการในหลายประเทศ ต้องรับมือกับปัญหาขาดแคลนของตู้สินค้า ที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการภาคการขนส่งสินค้าทางเรือ อย่าง ผู้ประกอบการในประเทศจีน รวมถึง ผู้ประกอบในภูมิภาคเอเชียใต้ อย่าง ประเทศอินเดีย
.
ทั้งนี้ ก็เนื่องจากเรือสินค้าในหลายเส้นทางหลัก ใช้เวลาในการเดินทางขนส่งที่ยาวนานกว่าปกติ ไม่สามารถกลับเข้ารอบเรือเดิมของตนเองได้ทัน หลังทำการปรับเส้นทางการขนส่ง หรือ Re-Routing โดยการเลี่ยงไม่ผ่านเส้นทางทะเลแดง และคลองสุเอช
.
*******
2) สถานการณ์ความเสถียรของตารางเดินเรือ ในหลายเส้นทาง การ Blank Sailing ยังเป็นปัญหาสำหรับคนทำงาน !!!
.
ทางด้านความเสถียรและความนิ่งวของตารางเดินเรือ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเส้นทางยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ถือว่าไม่ปกติ เนื่องจาก รอบตัวพกวเรา ยังคงมีสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อความนิ่งของตารางเรือ ทั้งจากสถานการณ์ในทะเลแดง
.
รวมถึง สถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักต่างๆทั่วโลก และปัญหาจากภัยธรรมชาติ ซึ่งล้วนแล้วแต่ ส่งผลให้ตารางเดินเรือในหลายเส้นทาง ตกอยู่ในภาวะที่ไม่ปกติ ทั้งปัญหาความล่าช้า หรือ Delay Onboard/ Delay Arrival รวมถึง ปัญหาการที่เรือข้ามไม่เข้าในบางท่าเรือ หรือ SKIP Call/ OMIT Port
.
อย่าง ตารางเรือในเส้นทางที่ขนส่งระหว่างภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia- North Europe รวมถึง ในเส้นทางระหว่าง ภูมิภาคเอเชียและภูมิภาคยุโรปตอนล่าง หรือ Asia- Mediterranean และแม้แต่ ตารางเรือในเส้นทางขนส่ง ภายในภูมิภาคเอเชียเอง หรือ Intra-Asia
.
ภาพรวมของตารางเดินเรือ ในเส้นทางขนส่งสายใน ระยะใกล้ หรือ Short Haul Service อยู่ในภาวะที่ไม่นิ่ง ยังคงมีปัญหาความล่าช้าในหลายเส้นทาง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัญหาความหนาแน่นในท่าเรือหลัก ส่งผลให้เรือสินค้าจำนวนมาก เสียเวลาในการรอเข้าเทียบท่า
.
ซึ่งปัญหาที่ตามมาคือ ปัญหาการข้าม ไม่เข้าในบางท่าเรือตามตารางเรือ เนื่องจากสายการเดินเรือ หรือผู้ให้บริการรับขนส่ง ต้องการปรับตารางเรือให้สามารถเข้าเที่ยวเรือได้ทัน
.
ทางด้านการยกเลิกรอบเรือ ประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ในรอบสัปดาห์นี้ กลุ่มพันธมิตรเดินเรือและสายการเดินเรือขนาดใหญ่ ยังคง เลือกที่รักษาระดับของจำนวนเที่ยวเรือ และพื้นที่ระวาง หรือ Allocation Space ที่มีในท้องน้ำ
.
โดยเฉพาะ ในเส้นทางสายนอก ระยะไกล ที่ขนส่งไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ในเส้นทางข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึง ในเส้นทางที่ขนส่งไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ รวมถึงยุโรปตอนล่าง และภูมิภาคทะเลแดง จากสถานการณ์วิกฤติที่ทะเลแดง
.
ทั้งนี้ ในช่วงตั้งแต่ สัปดาห์ที่ 5 ไปจนถึงสัปดาห์ที่ 9 ของปี 2024 หรือในช่วง 5 สัปดาห์นับจากนี้ ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ในเส้นทางการขนส่งหลัก รวมกันอย่างน้อย 99 เที่ยวเรือ หรือคิดเป็น ร้อยละ 15 จากจำนวนทั้งหมด 650 เที่ยวเรือ !!!
.
โดยในช่วง 5 สัปดาห์ จากนี้ เส้นทางที่ถูกยกเลิกรอบเรือมากที่สุด จะเป็นในเส้นทางการขนส่ง จาก ภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ในรอบเรือ Transatlantic Eastbound คิดเป็นร้อยละ 56
.
ตามด้วย เส้นทางการขนส่งจาก ภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือและยุโรปตอนล่าง หรือ Asia- North Europe/ MED ซึ่งคิดเป็น ร้อยละ 34 และ ในเส้นทางการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ในรอบเรือ Transpacific Eastbound ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 10 !!
.
**************
3) สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หลายเส้นทาง สร้างความลำบากให้งาน RFQ Bidding !!!
.
ทางด้านสถานการณ์ทิศทางค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หรือ Sea Freight Rate ในหลายเส้นทาง จะยังเป็นช่วงที่ค่าระวางขนส่งสามารถทำการไต่ระดับขึ้นไปได้อีก หากแต่ ในหลายเส้นทางอยู่ในทิศทางที่ค่อนข้างทรงตัว และมีความนิ่งมากขึ้น โดยเฉพาะ ราคาค่าระวางขนส่งในเส้นทางระยะทางใกล้ จากปัจจัยที่เป็นแรงส่งต่างๆ เริ่มแผ่วลง
.
ทั้งนี้ เนื่องจากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ภาพรวมของอุปสงค์ หรือความต้องการในภาคการขนส่ง เริ่มที่จะปรับมาอยู่ในระดับที่ค่อนข้างทรงตัวและคงที่ ภายหลังที่ผู้ประกอบการจำนวนมากมีการดันสินค้าของตนเอง ออกมาให้พ้นก่อนที่จะหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน
.
ประกอบกับเริ่มได้เห็นหลายสายการเดินเรือ เริ่มที่จะมีการปรับเพิ่มกองเรือเข้ามาในระบบ หากแต่ส่วนใหญ่ยังคงเป็นในเส้นทางสายในระยะใกล้ หรือ Short Haul Service อย่างในเส้นทางภายในภูมิภาคเอเชีย หรือ Intra-Asia Loop รวมไปถึง ในเส้นทางที่ขนส่งระหว่างภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคเอเชียใต้ หรือ Asia- Indian Subcontinent
.
ในขณะที่ ภาพรวมค่าระวางในเส้นทางสายนอก ทางไกล หรือ Long Haul Service ยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้น หากแต่เป็นไปในลักษณะที่ค่อนข้างทรงตัว และเริ่มเห็นความนิ่งมากขึ้น เมื่อเทียบช่วงก่อนหน้านี้ อย่าง ในเส้นทางที่ขนส่งไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ และยุโรปตอนล่าง หรือ Asia- North Europe/ Asia- Mediterranean
.
รวมถึง ค่าระวางในเส้นทางที่ขนส่งไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ Asia- North America ฝั่งในฝั่ง East Coast และในฝั่ง West Coast
.
ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ต้องรับมือกับภาวะที่ค่าระวางขนส่ง ไม่สามารถที่จะยืนได้นาน หรือเป็นในลักษณะที่ต้องทำการตรวจสอบทุกสัปดาห์ หรือในบางเส้นทาง ต้องทำการตรวจสอบทุกเที่ยวเรือ เนื่องจากความถี่ของรอบเรือลดน้อยลง
.
ทั้งนี้ ช่วงเวลานี้ ถือว่าเป็นภาวะที่ ค่าระวางขนส่งทางเรือ ที่กลับมาอยู่ในทิศทาง to The Moon อย่างที่ไม่มีใครคาดคิดภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ หลังสถานการณ์ในทะเลแดง ส่งผลให้ ตัวแทนรับขนส่ง ที่มีการทำการปิดราคาขายระยะยาว ในรูปแบบ RFQ Bidding ต่างรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ หรือหายใจไม่ทั่วท้อง
.
เนื่องจาก การขายงานในรูปแบบคล้ายการยื่นซองประมูลราคาระยะยาวนั้น มันมีความเสี่ยงและความกดดัน ที่ต้องแบกรับ รวมถึง การเจ็บตัว เข้าเนื้อ จากภาวะที่ต้นทุนค่าระวางขนส่ง ดีดตัวสูงกว่าราคาขายที่ปิดไป
ทางด้านดัชนีค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ ในรอบสัปดาห์นี้ หลายเส้นทางยังคงอยู่ในทิศทางขาขึ้นต่อเนื่อง หากแต่ดัชนี เริ่มที่จะเป็นไปในทิศทางที่ปรับขึ้นอย่างเอื่อยๆ ไม่พุ่งตัวแรงเหมือนเช่นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ทั้งนี้ ก็เนื่องจากหลายสายการเดินเรือ ได้มีการประกาศปรับขึ้นค่าระวาง่ไปในช่วงก่อนหน้านี้แล้ว
.
โดยดัชนีค่าระวางในรอบสัปดาห์นี้ ยังคงเป็นช่วงเวลาฝั่งขาขี้น หากแต่เป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นที่ไม่ค่อยรุนแรง หรือหวือหวามากนัก มีการปรับตัวขึ้น คิดเป็นร้อยละ 5 เมื่อเทียบจากสัปดาห์ก่อน มาปิดอยู่ที่ USD 3,964 per 40’GP
.
ทั้งนี้ ดัชนียังถือว่าเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นคิดเป็น ร้อยละ 94 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รวมถึง ยังคงยืนอยู่ในจุดที่สูงกว่า ดัชนีค่าระวางเฉลี่ยเมื่อปี 2019 หรือ ช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสอีกครั้ง โดยสูงกว่าคิดเป็น ร้อยละ 179 ซึ่งค่าเฉลี่ยในช่วงเวลานั้นอยู่ที่ USD 1,420 per 40’GP
.
==================
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเช็คแนวโน้มราคาเฟรท ทางทะเล ย้อนหลัง 3 เดือน แยกไปแต่ละเส้นทางขนส่ง ก็สามารถ ลองเข้าไปเช็คกันได้เลยที่ https://zupports.co/our-services/
.
หรือหากอยากดูราคาเฟรท ในเดือนล่าสุด ก็ลงทะเบียน แบบ premium กันได้เลยที่ https://zupports.co/register/
==================
.
************
4) ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก หลายท่าเรือหลัก กลับมาอยู่ใน Peak Season Mode !!!
.
ปิดท้ายในรอบสัปดาห์ ด้วยประเด็นสถานการณ์ของท่าเรือหลักทั่วโลก ที่เริ่มเข้าสู่ภาวะที่ตึงมือ และคึกคักอีกครั้ง โดยในบางท่าเรือกลับมาอยู่ในภาวะที่หนาแน่น ทั้งจำนวนเรือสินค้าที่อรเข้าเทียบ รวมถึง จำนวนตู้สินค้าที่ตกค้างอยู่ในท่าเรือ โดยมีสาเหตุมาจากปัญหาความถี่รอบเรือที่ลดน้อยลง ขณะที่อีกหลายท่าเรือ เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัว ของจำนวนเรือสินค้าที่เข้าเทียบ รวมถึงตัวเลขตู้สินค้าที่ไหลผ่าน เนื่องจากผู้ประกอบการจำนวนมาก มีการดันงานขนส่งช่วงก่อนหน้านี้
.
ด้านกลุ่มท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา ประตูหลัก อย่าง USNYC อยู่ในภาวะที่ทรงตัว ขณะที่ USSAV, USCHS, USORF, USBAL ยังตกอยู่ในภาวะที่ถือว่าตึงมือ จากจำนวนตู้สินค้าที่ไหลผ่าน รวมถึง จำนวนเรือสินค้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาความล่าช้า ของเรือที่รอเข้าเทียบอยู่ที่ 2- 4 วัน และงานที่ขนส่งต่อเนื่องทางราง ล่าช้า อย่างน้อย 3 -6 วัน
โดยที่หนักหนาที่สุด จะเป็นท่าเรือหลักในฝั่งอ่าว อย่าง USHOU ที่อยู่ในช่วงสภาพอากาศแปรปรวน และการปิดซ่อมเครนหน้าท่า ส่งผลเกิดปัญหาความล่าช้า อย่างน้อย 6 -10 วัน
.
ทางด้านกลุ่มท่าเรือหลักในฝั่งตะวันตก USLAX, USLGB, USOAK, USTIW, USSEA ยังคงตกอยู่ในภาวะที่ค่อนช้างตึงมือ ทั้งจำนวนตู้สินค้าและเรือสินค้าที่เข้าเทียบท่า ส่งผลให้เกิดปัญหาความล่าช้า ของเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่า อยู่ที่ 3- 8 วัน และงานที่ต้องทำการขนส่งต่อเนื่องทางรางไปยังเมืองที่ตอนกลางของประเทศ เกิดปัญหาความล่าช้าในการต่อขึ้นราง 5 -10 วัน
.
NLRTM, BEANR, DEHAM อยู่ในภาวะทรงตัว หากแต่ เริ่มเห็นสัญญาณความคึกคักขึ้นอีกครั้ง หลังจากกองเรือสินค้าที่ทำการเปลี่ยนเส้นทาง เริ่มทยอยถึงท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรปตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ในขณะที่ทางด้าน BEANR ต้องปิดท่าเรือในบางเทอมินัล เนื่องจากเรือตู้สินค้าประสบอุบัติเหตุกระแทกกับเครนหน้าท่า เมื่อหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ DEHAM ได้รับผลกระทบ จากการนัดหยุดงานของแรงงานภาคขนส่ง โดยเฉพาะภาคการขนส่งทางราง
.
กลุ่มท่าเรือหลักของประเทศจีน เริ่มที่จะเข้าสู่ภาวะทรงตัว หลังผุ้ประกอบการมีการดันสินค้าออกมาในช่วงก่อนหน้านี้ และในหลายราย เริ่มทำการปิดเพื่อหยุดช่วงเทศกาลตรุษจีนกันแล้ว หากแต่ ยังคงมีปัญหาความหนาแน่นจากกองตู้สินค้าที่ตกค้างในท่าเรือ จากปัญหาความถี่รอบเรือที่ลดน้อยลง รวมถึงปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้เกิดปัญหาความล่าช้าของเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบ อย่างน้อย 2- 4 วัน อย่าง CNSHA, CNNGB, CNTAO รวมถึง ท่าเรือหลักของประเทศเกาหลีใต้ อย่าง KRPUS
.
ขณะที่ทางด้านภาพรวมสถานการณ์ของท่าเรือ ที่เป็นจุดถ่ายลำหลักของโลก 3 ท่าเรือหลัก อย่าง SGSIN, MYPKG, HKHKG ยังคงถือว่าหนาแน่น และเริ่มที่จะประสบกับปัญหาในการบริหารจัดการ เนื่องจากปัญหาความถี่ของรอบเรือแม่ที่จะมาเก็บตู้ลดน้อยลง จากการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing โดย SGSIN ถือว่ามีปัญหาค่อนข้างหนักกว่าเพื่อน เนื่องจากเจอปัญหาซ้ำซ้อน จากภาวะที่เรือสินค้ามาถึงในเวลาที่ไล่เลี่ยหรือพร้อมกัน ส่งผลให้เกิดปัญหาความล่าช้า อย่างน้อย 2 -4 วัน เนื่องจาก Window ที่เข้าเทียบ ไม่เพียงพอต่อเรือสินค้า
.
******************
.
ที่กล่าวมานั้น คือการสรุปข่าวสาร ความเคลื่อนไหว สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ภาคการขนส่งสินค้าทางเรือประจำสัปดาห์ ที่พวกเราหมายใจอย่างยิ่ง จะให้เป็นประโยชน์ ต่อท่านผู้ประกอบการและท่านผู้ติดตามทุกท่าน ในการวางแผนการทำงาน และสามารถรับมือกับทุกอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นได้ครับ
.
สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน และขอสันติสุข จงมีต่อโลกของเรา สวัสดีครับ
.
CR : PIC by @PrimeLogisticss
.
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก
เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================