[Freight Weekly] : อัพเดตสถานการณ์ขนส่งระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 31 ตุลาคม – 4 พฤศจิกายน 2565 กับ ZUPPORTS
สัปดาห์แห่งความหวัง ซ้อมวอร์มเครื่องก่อนตรุษจีน 2566 !!!
.
กลับมาพบกันเหมือนเช่นเคยในทุกวันจันทร์ ในการรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหว รวมถึงสถานการณ์ต่างๆในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ภาคการขนส่งสินค้าทางเรือ ตามแบบฉบับของพวกเรา ชาว ZUPPORTS
.
สัปดาห์นี้เข้าสู่สัปดาห์ 45 ประจำปี 2565 โดยเป็นการเปิดสัปดาห์แรกก้าวเข้าสู่เดือนใหม่ อย่างเดือน พฤศจิกายน ซึ่งเท่ากับว่าเหลืออีกเพียงสองเดือนเท่านั้น ก่อนก้าวเข้าสู่ช่วงปีใหม่ ซึ่งหลายคนมองว่า เป็นช่วงปีใหม่ที่ไม่ค่อยบันเทิงเท่าไร เนื่องจากตกอยู่ในภาวะห่อเหี่ยวจากตัวเลขของช่วง Peak Season ปีนี้ไปแล้ว
.
อย่างไรเสีย ช่วงเวลาที่เหลือเพียงสองเดือนก่อนสิ้นปี อาจยังพอเป็นนาทีทองหรือ Peak Season ย่อมๆ สำหรับผู้ประกอบการหรือคนที่มีงานขนส่งในเส้นทางใกล้ๆ ที่ใช้เวลาขนส่งไม่นานนัก อย่างเช่น งานขนส่งภายในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงแถบภูมิภาค โอเชียเนีย
.
เนื่องจากยังมีอุปสงค์หรือความต้องการในการอุปโภคบริโภค ช่วงก่อนหยุดยาวสิ้นปี รวมถึงการมองทะลุ ข้ามไปถึงตรุษจีนปีหน้า ซึ่งมาเร็วกว่าปกติ นั่นคือช่วง วันที่ 22 มกราคม ปี 2566 ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่วางแผนเสียตอนนี้ อาจไม่ทันคนอื่น !!!
.
ดังนั้น ใครที่เคยหมดหวัง หรือเคยคิดว่าหมดโอกาสในการทำตัวเลขในปีนี้ไปแล้ว ลองลุกขึ้นมาคิดใหม่ มองตลาดใหม่ๆที่ยังพอมีลู่ทางและโอกาสให้คว้า เพราะเราต้องไม่ลืมว่า ศูนย์กลางของโลกใบนี้ ไม่ได้มีแค่ภูมิภาคยุโรปและอเมริกาเหนือเท่านั้น !!!
.
เมื่อพร้อมกันแล้ว ถึงเวลาตามพวกเรา ZUPPORTS มาไล่เรียงดูกันทีละประเด็นกันเลย !!!
.
=========================
ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์
สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register
=========================
1) ด้านสถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือหรือการบุ๊คกิ้ง เมื่อ Service Contract Rate กลับมาศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง !!!
.
เริ่มกันที่สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือ หรือการบุ๊คกิ้งงานใหม่ หลายเส้นทางการขนส่งยังคงอยู่ในภาวะที่สายการเดินเรือยังคงสามารถรับการจองเรือได้ไม่ยากเย็น ในขณะที่หลายเส้นทางเริ่มเข้าสู่ภาวะตึงตัว
.
ทั้งนี้โดยภาพรวมของพื้นที่ระวางขนส่งในหลายเส้นทาง ยังคงมีมากกว่าอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือ เนื่องจากภาพรวมตลาดขนส่งในช่วงนี้ ยังคงล้อไปตามภาวะทางเศรษฐกิจโลกที่เข้าสู่การอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด ตลาดหลักในภูมิภาคอเมริกาและยุโรป รวมถึงในประเทศจีนเอง ยังคงเงียบเหงา !!!
.
ดังนั้นการจองงานใหม่ในช่วงนี้ ยังพอทำได้ไม่ยากเย็นนัก เรียกว่าสายการเดินเรือแทบจะใส่พานมาให้ หากแต่สิ่งที่ต้องตรวจสอบให้ดีและต้องรับให้ได้เมื่อทำการจองเรือ นั่นคือ ตารางเดินเรือที่เริ่มไม่เป็นไปตามต้องการ ทั้งรอบเรือและระยะเวลาในการขนส่ง
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจากทุกสายการเดินเรือมีความพยายามในการลดพื้นที่ระวางขนส่งในท้องน้ำ เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในภาคขนส่ง ดังนั้น รอบเรือหรือตารางเรือที่ปล่อยออกมาในช่วงนี้ ยังคงสร้างความปวดหัวกับคนทำงานพอสมควร เนื่องจากต้องทำการบิดแผนงานใหม่ ทั้งสายการผลิตและแผนการบรรจุสินค้า
.
ในขณะที่ในหลายเส้นทางการขนส่ง เริ่มทำการจองงานยากขึ้นทุกที บางเส้นทางต้องทำการจองล่วงหน้า 2-4 สัปดาห์ เนื่องจาก พื้นที่ระวางขนส่งเริ่มหุบตัวลงแบบเห็นได้ชัดเจน อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาใต้ หรือ Asia-Latin America Trade หรือแม้กระทั่งเส้นทางการขนส่งภายในภูมิภาคเอเชีย หรือ Intra-Asia Trade
.
ดังนั้นภาพรวมการจองเรือช่วงนี้ บุ๊คกิ้งยืนยันการจองที่ถูกปล่อยออกมา ครึ่งหนึ่งจะยังคงเป็นการจองภายใต้ ราคาค่าระวางแบบต่อรองระยะสั้น หรือ SPOT Rate Shipment ขณะที่อีกครึ่งหนึ่ง เริ่มเป็นการจองเรือภายใต้สัญญาค่าระวางระยะยาว หรือ Service Contract Rate
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่งในหลายเส้นทางที่หุบถอยน้อยลง ทำให้ค่าระวางแบบสัญญาระยะยาว เริ่มกลับมามีบทบาทและมีความศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง ในการช่วงชิงพื้นที่ระวางขนส่ง ดังนั้นผู้ประกอบการควรวางแผนการจองเรือด้วยความรัดกุม
.
*******
2) สถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ถดถอย เริ่มส่งผลต่อการขาดแคลนตู้ !!!
.
ด้านสถานการณ์ในการจัดหาและการหมุนเวียนตู้สินค้า ภาพของความไม่สมดุลเริ่มที่จะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ หลายภูมิภาคมีเหลือเฟือ ในขณะที่หลายภูมิภาค หลายพื้นที่กลับเข้าสู่ภาวะขาดแคลน !!!
.
ภาพโดยรวมของสถานการณ์การหมุนเวียนตู้สินค้าในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายภูมิภาคยังคงสามารถทำการหมุนเวียนได้อย่างคล่องตัว ปริมาณตู้สินค้ายังคงมีเหลือเฟือและเกินจากความต้องการในภาคขนส่งเป็นอย่างมาก เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่หดตัวลง
.
โดยเฉพาะตามพื้นที่หรือภูมิภาคที่เป็นเมืองท่า หรือฐานการขนส่งหลักหรือ Hub Port ต่างๆ ยังคงมีปริมาณตู้สินค้าหล่อเลี้ยง หากแต่การหมุนเวียนของตู้สินค้ายังคงกระจุกตัวอยู่ในวงแคบหรือจำกัดในแต่ละภูมิภาค เนื่องจากคำสั่งซื้อหรืองานที่เป็นการขนส่งระยะไกล ยังคงอยู่ในสัดส่วนที่น้อยลง
.
หากแต่ในหลายพื้นที่ตามภูมิภาคหลักต่างๆ ที่ไม่ติดเมืองท่า หรืออยู่ตามแนวลึกของภูมิภาค กำลังตกอยู่ในภาวะขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากปัญหาคอขวดในภาคการกระจายสินค้า และปัญหาการขาดแคลนแรงงานและอุปกรณ์ในภาคขนส่ง ส่งผลให้เกิดปัญหาตามมาคือ การกระจายตู้สินค้าไม่เป็นไปอย่างทั่วถึง
.
อย่างในภูมิภาคยุโรป ตามเมืองที่เป็นแนวลึกของภูมิภาค รวมถึงภูมิภาคอเมริกาเหนือ ตามท่าแห้ง ICD/ Dry Port หรือ IPI ต่างๆ ล้วนกำลังตกอยู่ในภาวะขาดแคลนตู้สินค้าสำหรับงานขนส่งขาออก
.
ขณะที่ในไทยบ้านเราเอง ภาพรวมของการจัดหาและการหมุนเวียนยังคงสามารถทำได้ดี หลายสายการเดินเรือยังคงสามารถทำการหล่อเลี้ยงและจัดหาได้คล่อง หรืออาจจะเกินกับความต้องการในตลาดขนส่งทางเรือด้วยซ้ำ หากแต่เราเริ่มที่จะเห็นสัญญาณของปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้า
.
โดยสังเกตได้จาก การที่หลายสายการเดินเรือ เริ่มประสบปัญหาในการจัดหาหรือหมุนเวียนตู้สินค้าบางประเภทไม่ทัน ทั้งนี้ก็เนื่องจากงานนำเข้าจากต่างประเทศเริ่มถอยลง โดยเป็นผลกระทบจากภาวะทางเศรษฐกิจ
.
ทั้งนี้เราต้องไม่ลืมว่าทุกคำสั่งซื้อหรือทุกงานขนส่งสินค้าทางเรือ นั่นหมายถึงการหมุนเวียนของตู้สินค้า ดังนั้นเมื่อไม่มีงานคำสั่งซื้อ ไม่มีกิจกรรมการขนส่ง นั่นหมายถึงการหมุนเวียนของตู้สินค้าจะสะดุดตามไปด้วย และสิ่งที่จะตามมานั่นคือการขาดแคลน
.
ดังนั้น คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ หรือน้องใหม่สายงานขนส่ง การตรวจสอบบุ๊คกิ้งที่ลานเก็บตู้สินค้า ก่อนทำการปล่อยงานรับตู้เปล่า ยังคงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมาก แม้ว่าภาวะปัจจุบันในบ้านเราจะมีกองตู้สินค้าเปล่าเหลือเฟือจนไม่มีที่วางก็ตาม !!!
.
*******
3) สถานการณ์ความนิ่งของตารางเรือและระยะเวลาในการขนส่ง ตารางเรือเริ่มขาดช่วง เหมือนรถเมล์เที่ยวดึก !!!
.
ประเด็นด้านสถานการณ์ตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่งสินค้า ดูเหมือนว่าความไม่แน่นอน จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของงานการขนส่งทางเรือไปเสียแล้ว
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจาก ตารางเดินเรือแทบจะทุกเส้นทางการขนส่ง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางสายใน ระยะใกล้ หรือ Short Haul Service และเส้นทางสายนอก ระยะไกล หรือ Long Haul Service อยู่ในภาวะที่ไม่มีความเสถียรหรือความน่าเชื่อถือเอาเสียเลย
ทั้งปัญหาความล่าช้าและการบิดเบี้ยวของตารางเรือ
.
ปัจจัยหลักที่ทำให้ตารางเดินเรือยังอยู่ในภาวะที่บิดเบี้ยว เกิดจากปัญหาความหนาแน่นของท่าเรือหลักต่างๆทั้งในภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ ส่งผลให้เรือจำนวนมากที่ไปรอเทียบท่า ไม่สามารถกลับเข้ารอบเรือของตนได้ทัน
.
นอกจากนี้ ในภาวะที่อุปสงค์หรือความต้องการในภาคการขนส่งทางเรือลดน้อยลง แน่นอนว่าบรรดาสายการเดินเรือต้องทำการลดอุปทานหรือพื้นที่ระวางให้เหมาะสมกับอุปสงค์ ดังนั้นการประกาศตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing จึงเป็นเครื่องมือหลักที่สายการเดินเรือใช้ในการปรับสมดุล
.
โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทุกสายการเดินเรือมีการปล่อยตารางเรือว่างในเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia- North America Transpacific ไปทั้งสิ้น 67 รอบเรือ หรือคิดเป็น ร้อยละ 33 จากรอบเรือทั้งหมดในเส้นทางดังกล่าว
.
รวมถึงเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia-North Europe Trade ทุกสายการเดินเรือ มีการปล่อยตารางเรือว่างไปแล้วทั้งสิ้น 25 รอบเรือ หรือคิดเป็น ร้อยละ 21 จากจำนวนรอบเรือทั้งหมด
.
โดยข้อมูล ณ ปัจจุบัน ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ทุกสายการเดินเรือมีการประกาศตารางเรือว่างล่วงหน้าแล้ว ในเส้นทางจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia- North America Transpacific อย่างน้อย 20 รอบเรือ และเส้นทาง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia-North Europe Trade อย่างน้อย 10 รอบเรือ
.
ซึ่งแน่อนว่าเราจะยังคงได้เห็นการปล่อยตารางเรือว่างเช่นนี้ จนกว่าภาพความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานจะชัดเจนกว่านี้ ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าในการขนส่ง ทั้งนำเข้า-ส่งออก ยังเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการและคนทำงานอย่างเรา ต้องตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกเสมอ ในภาวะที่ตารางเดินเรือขาดความน่าเชื่อถือเช่นนี้
.
*********
4) ด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ หรือค่าเฟรท หลายเส้นทางขนส่ง เริ่มเห็นความนิ่งของราคามากขึ้น
.
ด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งทางเรือหรือค่าเฟรท หลายเส้นทางการขนส่งยังคงอยู่ในช่วงขาลงอย่างต่อเนื่อง หากแต่เริ่มมีสัญญาณการแช่ตัวของราคาในหลายเส้นทาง ในขณะที่บางเส้นทางราคาค่าระวางยังคงติดลมบนไม่มีแนวโน้มปรับลดลง !!!
.
ดัชนีค่าระวางขนส่งทางเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงอยู่ในภาวะที่อ่อนตัวและปรับลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 35 ติดต่อกัน โดยการปรับตัวลดลง คิดเป็น ร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน และเป็นการปรับตัวลดลงคิดเป็น ร้อยละ 67 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
อย่าง ในเส้นทางการขนส่งจากประเทศจีนไปยังท่าเรือหลักของประเทศสหรัฐอเมริกาฝั่งตะวันตก หรือ China-USWC ค่าระวางขนส่งในปัจจุบันปรับตัวลดลงอยู่ที่ USD 2,412 per 40’GP โดยเป็นการปรับตัวลงถึงเกือบ 5 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งราคาค่าระวางเคยวิ่งไปแตะที่ USD 10,976 per 40’GP
.
ภาพรวมตลาดส่วนใหญ่ค่าระวางในหลายเส้นทางยังคงเป็นทิศทางขาลง หากแต่เป็นการปรับลงในกรอบแคบๆเท่านั้น ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลดลงที่ไม่มากนัก เมื่อเทียบกับช่วง 2 – 3 เดือนก่อนหน้านี้
.
ในขณะที่ราคาค่าระวางในอีกหลายเส้นทางการขนส่ง กลับสวนทางกับสภาพตลาดอื่น คือเพดานยังอยู่ในระดับที่สูงและไม่มีทีท่าจะอ่อนตัวลง อย่างในเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ
.
รวมไปถึงราคาค่าระวางขนส่ง สำหรับสินค้าที่ขนส่งด้วยตู้สินค้าแบบพิเศษ ทั้งตู้สินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ หรือ Reefer Container Equipment รวมถึงสินค้าประเภทวัตถุอันตราย หรือ DG Cargo ซึ่งในปัจจุบัน ค่าระวางขนส่งในกลุ่มสินค้าเหล่านี้ ยังอยู่ในจุดที่สูงมาก
.
ภาพรวมของตลาด ราคาค่าระวางในรูปแบบการต่อรองระยะสั้น หรือ SPOT Rate Shipment และราคาสำหรับสินค้าทั่วไป หรือ FAK/GDSM ยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าระวางขนส่งแบบการทำสัญญาระยะยาว หรือ Service Contract Rate
.
หากแต่เริ่มมีสัญญาณ บางอย่าง ที่บ่งบอกว่า ใกล้ถึงจุดที่ราคาค่าระวางจะทรงตัวคงที่ เนื่องจากปัจจัยรอบด้านต่างๆ ทั้งส่วนพื้นที่ระวางขนส่ง รวมถึงปัจจัยด้านความหนาแน่นของท่าเรือต่างๆ ที่เริ่มเข้ามาเป็นตัวแปรในการพยุงราคาไม่ให้ลดต่ำไปกว่านี้
.
ซึ่งสุดท้ายแล้วเมื่อเรากลับมาถึงจุดที่ ราคาค่าระวางแบบ Premium ได้ไปก่อน แน่อนว่า ทุกคนต้องหันกลับมาพึ่ง Service Contract Rate แบบเลี่ยงไม่ได้ !!!
.
*******
5) ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก ยังห่างไกลจากคำว่าภาวะปกติยิ่งนัก !!!
.
สุดท้าย ประเด็นด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก ยังคงภาวะทรงตัวและรับมือกับความหนาแน่นได้ดี แต่ยังอยู่ห่างไกลจากภาวะปกติเมื่อก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19
.
ในภาพรวมของท่าเรือหลักต่างๆ รอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ถือว่ายังอยู่ในภาวะทรงตัวและคงที่ ทั้งในด้านความหนาแน่นของตู้สินค้าและจำนวนเรือที่รอเทียบท่า หลายท่าเรือเริ่มที่จะคุ้นมือในการบริหารจัดการกับความหนาแน่น อย่างหลายท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป เริ่มที่จะทรงตัวและปรับตัวรับมือกับปริมาณตู้สินค้าได้ดีระดับหนึ่ง
.
หากแต่ยังห่างไกลจากจุดที่เรียกว่าภาวะปกติ หรือช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งแน่นอนว่า เราจะไม่มีวันได้เห็นทุกท่าเรือกลับสู่ภาวะปกติเช่นนั้นในเร็ววัน เนื่องจากยังมีปัจจัยต่างๆที่เป็นอุปสรรคในการบริหารจัดการ ทั้งจากภาวะการหยุดงานในท่า รวมถึงภาวการณ์ติดขัดอันเนื่องจากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบางประเทศ
.
ภาพรวมของท่าเรือหลักทั้งสองฝั่งของประเทศสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว โดยสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักฝังตะวันตก หรือ USWC เริ่มที่จะนิ่งขึ้น ในขณะที่ท่าเรือหลักในด้านตะวันออกหรือ USEC ยังอยู่ในภาวะที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก และยังคงมีเรือสินค้าต่อแถวรอเทียบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
.
อย่างท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก USEC (USNYC/ USCHS/ USSAV/ USMIA) มีจำนวนเรือรอเทียบท่าและที่เทียบท่ามากกว่า 100 ลำ. โดยเรือสินค้าใช้เวลารอเข้าเทียบ รวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายที่ท่า อยู่ที่ 1-4 วัน. (โดยเฉพาะที่ USSAV มีเรือที่รอเทียบและที่เทียบท่าเกือบ 40 ลำ โดยเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 12-24 วัน).(เฉพาะที่ USNYC มีจำนวนเรือสินค้ารอกว่า 20 ลำ และใช้เวลารอ 4-10 วัน).
.
ทางด้านท่าเรือหลักฝั่งตะวันตก USWC (USSEA/ USTIW/ USOAK ) อยู่ในภาวะทรงตัว โดยมีเรือรอเข้าเทียบและเทียบที่ท่าแล้วประมาณเกือบ 50 ลำ. และใช้เวลารอเข้าเทียบท่ารวมถึงเวลาในการขนถ่ายอยู่ที่ 6-10 วัน (เฉพาะที่ USOAK ใช้เวลารอเทียบประมาณ 15-22 วัน). ในขณะที่ท่าเรือฝั่งอ่าวหรือ Gulf port MID West อย่าง USHOU ยังตกอยู่ในภาวะหนาแน่น โดยมีจำนวนเรือตู้สินค้าทั้งที่เข้าเทียบแล้วและที่รอเข้าเทียบขนถ่ายประมาณ 60 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบอยู่ที่ 18-27 วัน
.
ส่วนทางด้าน สองท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา อย่าง (USLAX/ USLGB) เริ่มทรงตัวและคงที่ เนื่องจากสินค้าจำนวนไม่น้อยถูกย้ายหนีไปขึ้นที่ฝั่งตะวันออก โดยมีเรือรอเข้าเทียบท่าอยู่ในรัศมี 25 ไมล์ทะเลประมาณ 30-35 ลำ และใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 3 -7 วัน และตู้สินค้าที่ต้องขึ้นรางต่อ ใช้เวลารอ 15 -25 วัน
.
ทางด้านท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป อย่าง NLRTM/ DEHAM/ BEANR อยู่ในภาวะทรงตัว จัดว่าหนาแน่น พื้นที่ในท่าเรือถูกใช้จนเกือบเต็มความจุ แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยภาพรวมทั้งสามท่าเรือ มีจำนวนเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่าอยู่รวมกันประมาณ 780-800 ลำ ซึ่งแค่เฉพาะที่ NLRTM มีเรือเทียบท่าขนถ่ายแล้วและที่รอเทียบประมาณ 370 ลำ
.
สุดท้าย สถานการณ์ของท่าเรือหลักต่างๆภายในภูมิภาคเอเชีย หลายท่าเรือ จะยังได้รับผลกระทบจากความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงหน้ามรสุม รวมถึงทางการจีนยังคงมาตรการ ZERO Covid-19 ในหลายพื้นที่ ทำให้ท่าเรือหลักๆ หลายท่ายังมีการสะสมของเรือสินค้าและตู้สินค้าบริเวณท่าเป็นจำนวนมาก
.
โดยท่าเรือหลักฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ยังคงมีเรือสินค้าสะสมรอเทียบท่าเพิ่มขึ้น จากมาตรการในการล็อคดาวน์ในหลายเมืองที่มีการแพร่ระบาดของไวรัส CNSHA ยังคงมีจำนวนเรือสินค้าสะสมที่ท่าและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 5,200-5,300 ลำ ส่วนทางด้าน CNNGB ประสบปัญหาคอขวดในการระบายตู้สินค้า เนื่องจากการล็อคดาวน์ โดยมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่าย ซึ่งมีจำนวนเกือบ 900 ลำ
.
ขณะที่ทางด้านท่าเรือหลักของจีนตอนล่าง อย่าง HKHKG/ CNSHK/ CNYTN ยังคงอยู่ในภาวะคงที่และทรงตัว หากแต่ติดขัดปัญหาการไหลเวียนของตู้สินค้าและเรือสินค้า อันเนื่องจากการล็อคดาวน์ในบางเขตของเมือง Shenzhenและการจำกัดปริมาณรถขนส่งที่ข้ามพรมแดนระหว่าง Hong Kong
.
โดยทั้งสามท่าเรือ มีเรือสินค้ามีเรือสะสมอยู่โดยรอบ มากกว่า 1,000 ลำ โดยเฉพาะที่ HKHKG มีจำนวนเรือสินค้าอยู่บริเวณท่าและที่รอเทียบท่าประมาณ 900 ลำ
.
*******
6) สถานการณ์ ความเคลื่อนไหวที่ต้องตามต่อในสัปดาห์นี้ หนีไม่พ้นเรื่องของทิศทางและแนวโน้มค่าระวางขนส่ง
.
ความเคลื่อนไหวและสถานการณ์ที่เราและทุกคนในแวดวงนำเข้า-ส่งออก ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คงยังหนีไม่พ้นเรื่องของทิศทางค่าระวางขนส่งทางเรือ หรือค่าเฟรท ที่ดูจะเริ่มเห็นทรง เห็นความนิ่งเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
.
ซึ่งในโลกของธุรกิจการขนส่งทางเรือนั้น เราต้องไม่ลืมว่า องค์ประกอบที่มีความสำคัญไม่แพ้เรื่องของค่าระวาง นั่นคือปัจจัยด้านพื้นที่ระวางในการขนส่ง ซึ่งมีผลต่อทิศทางการขึ้นของค่าระวาง และมันจะไม่มีประโยชน์หากมีค่าระวางหรือค่าเฟรทที่ต่ำ แต่ไม่สามารถทำการจองพื้นที่บนเรือได้จริง
.
ดังนั้น แม้ว่าตลาดค่าระวางทางเรือในช่วงนี้ยังเป็นช่วงขาลงก็จริง หากแต่โอกาสที่เราจะได้เห็นการปรับเพดานลดลงในลักษณะแบบทิ้งดิ่งเหว อาจจะเริ่มน้อยลง หรืออาจไม่ได้เห็นภาพนั้นอีกต่อไป เนื่องจากจุดสมดุลระหว่างความต้องการในภาคขนส่ง กับพื้นที่ระวางในท้องน้ำ เริ่มจะใกล้มาบรรจบกันมากขึ้น
.
ดังนั้นผู้ประกอบการ ควรมองช่องทางของโอกาสในช่วงเวลานี้ ในการช่วงชิงโอกาส อย่างเช่น การบิดเทอมการซื้อขาย โดยดึงค่าระวางขนส่งหรือค่าเฟรทมาจัดการเสียเอง เพื่อการถือไพ่แต้มต่อมากกว่า เนื่องจากเป็นที่รู้กันว่า ผู้ที่รับผิดชอบจ่ายค่าเฟรท จะเสียงดังกว่า เนื่องจากเป็นเจ้าของงานและมีอำนาจการต่อรองที่สูงกว่า
.
รวมไปถึง การมองหาพันธมิตรตัวแทนรับขนส่งสินค้าประเภท Freight Forwarder ที่มีความชำนาญ เพื่อช่วยจัดการงานขนส่งให้มีประสิทธิภาพขึ้น และที่ขาดไม่ได้คือ การมองหาเครื่องมือทาง Digital Service ที่จะช่วยในเรื่องการบริหารจัดการงานข้อมูลให้ดูง่ายขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการที่ยังไม่มีพันธมิตร หรือเครื่องมือดีๆที่ว่า สามารถคลิกตามด้านล่างนี้ได้เลย !!!
.
ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น คือการสรุปภาพรวมสถานการณ์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ตามแบบฉบับของพวกเราชาว ZUPPORTS รวมถึงแนวโน้มและทิศทางของสัปดาห์นี้ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคของการขนส่งสินค้าทางเรือ !!!
.
สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน สวัสดีครับ.
.
CR : PIC by Bahnfrend
.
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================
.
สำหรับเพื่อนๆและผู้ประกอบการ ที่กำลังมองหากุนซือที่ปรึกษาข้างกายในโลกของการขนส่ง
.
วันนี้แอดมินขอแนะนำ บริการเสริมสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ด้วยบริการ “โลจิสติกส์ บริกร” ที่จะคอยเคียงข้างให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถาม ที่คาใจในเรื่องการขนส่งแบบส่วนตัว!!!
.
รวมถึงรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก แบบที่คุณห้ามพลาด
สนใจในบริการสุดพิเศษนี้ คลิกและลงทะเบียนได้เลยที่
https://forms.gle/PumFkpEWsNbDjQCo6
.
เช็คราคาเฟรทขนส่งทางทะเล เบื้องต้น ได้ง่ายๆไปกับบริการ Freight Rate Trend โดย #ZUPPORTS x #TNSC