[Freight Weekly] : อัพเดตสถานการณ์ขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 23-27 มกราคม กับ ZUPPORTS !!!
สัปดาห์ต้อนรับเทศกาลตรุษจีน หลายคนรับทรัพย์ นั่งนับซองแดง ช่วงเมืองจีนปิดยาวๆ !!!
.
กลับมาพบกันเหมือนเช่นเคย ในทุกวันเปิดงาน เริ่มต้นสัปดาห์ กับพวกเราชาว ZUPPORTS !!! ในการรายงานข่าวสาร สถานการณ์ รวมถึงเรื่องราว ความเคลื่อนไหวต่างๆในแวดวงนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือ ตามแบบฉบับพวกเราชาว ZUPPORTS !!!.
.
โดยในสัปดาห์นี้ เข้าสู่สัปดาห์ที่ 4 ของปี 2566 ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่หลายคน โดยเฉพาะคนที่ต้องติดต่อประสานงาน หรือดูแลในส่วนงานในเส้นทาขนส่งงสายใน ระยะใกล้ หรือ Short Haul Service อาจจะเป็นสัปดาห์ที่พอมีเวลาหย่อนใจสักหน่อย เนื่องจากเป็นสัปดาห์หยุดยาวของทุกองค์กร รวมถึงบรรดา Shipper/ Consignee /Supplier ในประเทศจีน
.
หากแต่ สิ่งที่ต้องรับมือในสัปดาห์ถัดไป นั่นคือ จำนวนงานมหาศาล ที่อั้นมาในช่วงหนึ่งสัปดาห์เต็ม ที่จะโถมเข้ามาใส่ราวกับเขื่อนแตก รวมถึงหลายองค์กรในประเทศจีน จะเริ่มทำการเปิดงานในวันที่ 27-28 ซึ่งตรงกับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ในบ้านเราพอดี ซึ่งแน่อนว่า งานหรืออีเมลล์จำนวนไม่น้อย จะถูกส่งมาทันทีที่พวกเขาเปิดทำงานวันแรก !!!
.
ดังนั้น หลายคนที่ดูแลในส่วนงานฝั่งขานำเข้า อาจต้องนั่งไล่เมลล์กันแต่เนิ่นๆ ก่อนที่จะเปิดงานเช้าวันจันทร์
.
เอาล่ะ เมื่อทุกคน พร้อมกันแล้ว ตามพวกเรา มาไล่เรียงเจาะลึกกันทีละประเด็นกันเลย !!!
.
=========================
ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์
สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register
=========================
1) สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือ หรือการบุ๊คกิ้ง หลายเส้นทางเริ่มเปิดกว้าง หากแต่ในหลายเส้นทางยังแน่นเหมือนเดิม !!!
.
ด้านภาพรวมการจองเรือในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเส้นทางยังคงอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างแน่น พื้นที่ระวางขนส่ง หรือ สเปชเรือยังค่อนข้างตึง อย่าง ในเส้นทางการขนส่งจาก ภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ และยุโรปตอนล่าง หรือ Asia- North Europe และ Asia -Mediterranean
.
อยู่ในภาวะที่ค่อนข้างแน่น เนื่องจากสินค้าจำนวนมากถูกดันออกจากประเทศจีนแบบทิ้งทวน ก่อนหยุดยาวช่วงตรุษจีน หลายสายการเดินเรือ สามารถรับจองงานใหม่ได้อีกครั้ง คือช่วงหลังสัปดาห์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นการจองเรือสำหรับงานใหม่ในเส้นทางดังกล่าว ยังคงมีอย่างน้อย 2 – 4 สัปดาห์ให้เห็น
.
ขณะที่ภาพรวมการจองเรือ ในอีกหลายเส้นทาง เริ่มที่จะผ่อนคลายมากขึ้น พื้นที่ระวางขนส่งเริ่มที่จะเปิดกว้างสำหรับงานใหม่ อย่าง ในเส้นทางการขนส่ง จากภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe- North America Trade ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก
.
เนื่องจากสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักในสหรัฐอเมริกาเริ่มดีขึ้น เรือสินค้าเริ่มกลับเข้าสู่รอบเรือของตนเองได้เร็วขึ้น สายการเดินเรือเริ่มที่จะสามารถเปิดพื้นที่ระวางขนส่ง รับการจองเรือสำหรับงานใหม่ได้เพิ่มขึ้น
.
หากแต่ยังคงต้องทำการจองล่วงหน้า อย่างน้อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากความถี่ของรอบเรือที่ให้บริการ มีไม่มากนัก จากภาวะที่สายการเดินเรือปล่อยตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing
.
ภาพรวมบุ๊คกิ้งยืนยันการจองเรือที่ปล่อยออกมาในช่วงนี้ ส่วนมากเป็นการจองเรือภายใต้การทำสัญญาราคาค่าระวางระยะยาวหรือ Service Contract Rate เป็นหลัก ตามด้วยการจองเรือภายใต้ราคาค่าระวางสำหรับสินค้าทั่วไป หรือ FAK rate
.
*******
2) สถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้า หลายพื้นที่กำลังประสบกับปัญหาที่ตู้สินค้า มีเหลือเกินความต้องการ !!!
.
ทางด้านสถานการณ์ในการจัดหาและหมุนเวียนตู้สินค้า ในหลายภูมิภาคหลัก ยังคงอยู่ในภาวะที่ราบรื่นเป็นปกติ แต่ละสายการเดินเรือ ยังคงสามารถจัดหาและหมุนเวียนได้อย่างคล่องตัว
.
หากแต่สถานการณ์ที่ไม่ปกติ คือในบางพื้นที่กำลังประสบกับปัญหาในด้านการบริหารจัดการกองตู้สินค้าเปล่า หรือ Empty Container เนื่องจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่ค่อนข้างซบเซา โดยเฉพาะในสองภูมิภาคหลักของโลก อย่าง ภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ
.
ส่งผลให้หลายพื้นที่เกิดปัญหามีกองตู้สินค้าเปล่าสะสมเป็นจำนวนมากและไม่มีการหมุนเวียน เนื่องจากปริมาณงานขนส่งที่หดตัวน้อยลงตามสภาวะทางเศรษฐกิจ หลายสายการเดินเรือ ส่งผลให้พื้นที่วางตู้ในท่าเรือถูกใช้จนเกินความจุ อย่าง ในท่าเรือหลัก Savannah (USSAV) และ Houston (USHOU) ของสหรัฐอเมริกา !!!
.
รวมถึงผู้ให้บริการรับขนส่งจำนวนไม่น้อย ต่างประสบกับปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการตู้สินค้าเปล่า โดยเฉพาะในภูมิภาคอเมริกาเหนือและภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ รวมถึงในภูมิภาคเอเชีย
.
ในขณะที่อีกหลายภูมิภาค กำลังประสบกับภาวะขาดแคลนตู้สินค้า โดยเฉพาะตามพื้นที่ตอนลึกของภูมิภาค หรือตามท่าแห้ง Dry Port, ICD ,IPI ต่างๆ รวมถึงในบางภูมิภาค ที่กำลังประสบกับความถี่ของรอบเรือที่น้อยลง และจากปัญหาคอขวด เนื่องจากการขาดแคลนในภาคแรงงานและอุปกรณ์ที่ใช้ในการขนส่ง
.
ส่งผลให้เกิดภาวะที่ ตู้สินค้าเปล่า ไม่มีการหมุนเวียนที่คล่องตัวและส่งต่อ ไหลผ่าน ไปไม่ถึง อย่าง ในภูมิภาคเอเชียใต้ หรือ Indian Subcontinent และภูมิภาคยุโรปตอนล่าง หรือ Mediterranean
.
ดังนั้น ผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อย ต้องตัดสินใจ ทำการลากตู้สินค้าเปล่าข้ามมาจากเมืองอื่น เนื่องจากไม่สามารถที่จะ อดทนรอสายการเดินเรือในการจัดหาตู้สินค้าสำหรับงานขาออกได้
.
*******
3) สถานการณ์ความเสถียรของตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่ง หลายเส้นทางเริ่มมีสัญญาณดีขึ้น จากการ Blank Sailing !!!
.
ด้านสถานการณ์ความนิ่งของตารางเดินเรือ ภาพรวมยังคงอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทั้งปัญหาความล่าช้า หรือ Delay Onboard /Delay Arrival และ การข้ามไม่เข้าในบางท่าเรือ หรือ SKIP Call/ OMIT !!!
.
รวมไปถึงภาวะที่ความถี่ของรอบเรือในการให้บริการ ยังคงลดน้อยถอยลงในแต่ละสัปดาห์ อันเนื่องจากการที่สายการเดินเรือต่างๆ ประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาว
.
โดยในช่วงสัปดาห์ที่ 4 ถึง สัปดาห์ที่ 8 ในเส้นทางการขนส่งหลัก อย่าง ในเส้นทางจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia- North America ทั้ง เส้นทาง Transpacific และเส้นทาง Transatlantic รวมถึง เส้นทางการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยัง ภูมิภาคยุโรป ทั้งตอนเหนือและตอนใต้ หรือ Asia- North Europe และ Asia -Mediterranean
ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing รวมกันไปแล้ว กว่า 171 เที่ยวเรือ หรือคิดเป็นร้อยละ 25 จากจำนวนทั้งหมด 695 เที่ยวเรือ
.
โดยที่ ร้อยละ 70 ของจำนวนรอบเรือที่ถูกยกเลิก เป็นเส้นทางการการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia- North America ในฝั่ง Transpacific และตามด้วย เส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia- North Europe ซึ่งรอบเรือที่ถูกยกเลิกนั้น คิดเป็นร้อยละ 25
.
ขณะที่ในหลายเส้นทางขนส่ง สถานการณ์ความนิ่งของรอบเรือ เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น จำนวนวันที่ล่าช้า หรือ Delay เริ่มลดน้อยลง ทั้งนี้ ก็เนื่องจากการที่หลายสายการเดินเรือ มีการปล่อยตารางเรือว่างและการที่ปัญหาความหนาแน่นในหลายท่าเรือเริ่มทุเลาลง ส่งผลให้เรือต่างๆ สามารถที่จะกลับมาเข้ารอบเรือของตนเองได้มากขึ้น
.
**************
4) สถานการณ์ค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ เริ่มที่จะเคลื่อนตัวในทิศทางขาลงอีกครั้ง หากแต่ไม่มากนัก !!!
.
ภาพรวมสถานการณ์ค่าระวางในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีค่าระวางขนส่งสินค้าทางเรือ มีการขยับในทิศทางขาลงอีกครั้ง โดยเป็นการปรับตัวลดลง คิดเป็นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน ดัชนีราคามาปิดอยู่ที่ USD 2,079 per 40’GP
.
โดยเป็นการปรับตัวลดลง คิดเป็นร้อยละ 79 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว หากแต่ยังคงอยู่ในจุดที่สูงกว่าช่วงปี 2019 หรือช่วงก่อนการระบาดของ่ไวรัสโควิด-19 คิดเป็น ร้อยละ 46 ซึ่งดัชนีค่าระวางในช่วงนั้น ปิดอยู่ที่ USD 1,420 per 40’GP
.
ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีค่าระวางขนส่งในเส้นทางหลัก ต่างขยับปรับตัวลดลงยกแผง อย่างในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ ทั้งฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก หรือ Asia- North America East Coast/ West Coast
.
รวมถึงในเส้นทางขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรป ทั้งตอนเหนือและตอนล่าง หรือ Asia- North Europe/ Asia -Mediterranean ทั้งนี้ ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือ ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่มากนัก ประกอบกับหลายประเทศรวมถึงประเทศจีน เริ่มเข้าสู่ช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งเป็นวันหยุดยาว
.
ในขณะที่ค่าระวางขนส่งในหลายเส้นทาง ยังคงตรึงแนว ไม่มีการเคลื่อนไหวมากนัก หลายสายการเดินเรือ เลือกที่จะทำการตรึงราคา หรือ Maintain ไปถึงเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากเป็นช่วงที่ประเทศจีนหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน อย่างในเส้นทางภายในภูมิภาคเอเชีย หรือ Intra Asia Trade
.
ขณะที่ อีกหลายเส้นทางราคายังปิดอยู่ในจุดที่ค่อนข้างสูง และยังไม่มีแนวโน้มที่จะปรับตัวลงเช่นเส้นทางอื่น อย่างเช่น เส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคเอเชียใต้และตะวันออกกลาง หรือ Asia- Indian Subcontinent and Middle East
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการภาคขนส่งในเส้นทางดังกล่าว ยังอยู่ปริมาณที่ค่อนข้างสูง หากแต่พื้นที่ระวางขนส่งยังมีค่อนข้างที่จะจำกัด เนื่องจากเส้นทางขนส่งจากเอเชียไปยังภูมิภาคเอเชียใต้
.
มักจะใช้เรือสินค้าร่วมกันกับเส้นทางอื่น อย่าง เช่นเส้นทางจากภูมิภาคเอเชียไปยังทะเลแดง หรือ Asia- Red Sea Trade และเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังยุโรปตอนล่าง หรือ Asia- Mediterranean
.
************
5) ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก ปัญหาความหนาแน่น ค่อยๆทุเลา หากแต่เป็นไปอย่างเชื่องช้า !!!
.
ด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักต่างๆทั่วโลก ภาพรวมในหลายท่าเรือเริ่มที่จะดีขึ้น สามารถทำการบริหารจัดการ ระบายตู้สินค้าและเรือสินค้าที่รอเทียบท่าได้ดีขึ้น เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งสินค้าทางเรือที่ปรับลดลง
.
หากแต่ยังอีกหลายท่าเรือ ยังคงอยู่ในภาวะที่ค่อนข้างแน่น ไม่สามารถระบายหรือทำการขนส่ง ไหลตู้สินค้าในท่าได้ต่อเนื่อง เนื่องจากปัญหาคอขวดในท่าเรือ ทำให้เกิดปัญหาตามมา คือ เรือสินค้าจำนวนมากใช้เวลารอเทียบท่านานกว่าภาวะปกติ
.
ภาพรวมของท่าเรือหลักในภูมิภาคอเมริกาเหนือ หลายท่าเรือหลักของประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มอยู่ในภาวะที่ผ่อนคลาย หากแต่ ทุกท่าเรือยังคงประสบกัญปัญหาหลัก ในการขนส่งต่อเนื่องขึ้นทางราง ซึ่งต้องใช้เวลารอขึ้นรางอย่างน้อย 7 -14 วัน
.
ขณะที่ ท่าเรือหลักในฝั่งตะวันตก อย่าง Oakland (USOAK) ยังคงอยู่ในภาวะที่หนาแน่น รวมถึงท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก และฝั่งอ่าว อย่าง Savannah (USSAV), Houston (USHOU) ยังถือว่าค่อนข้างหนักพอสมควร ทั้งจำนวนเรือที่รอเข้าเทียบท่าและปริมาณตู้สินค้าในท่า
.
รวมถึงท่าหลักของประเทศเพื่อนบ้าน อย่าง Vancouver (CAVAN) ท่าเรือหลักของประเทศแคนาดา ที่ยังคงประสบกับปัญหาความหนาแน่นและปัญหาคอขวด เรือสินค้าใช้เวลาในการรอเข้าเทียบท่า อย่างน้อย 6 -10 วัน โดยใช้เวลารอขึ้นราง อยู่ที่ประมาณ 12 -17 วัน
.
ทางด้านสามท่าเรือหลักของภูมิภาคยุโรป อย่าง Rotterdam (NLRTM), Antwerp (BEANR), Hamburg (DEHAM) ยังคงต้องรับมือกับปริมาณตู้สินค้าและเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่าจำนวนมาก ภาพรวมดูค่อนข้างตึงมือ หากแต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ดี ขณะที่ท่าเรือ Rotterdam (NLRTM) อยู่ในขั้นตอนเจรจาสัญญาข้อตกลงจ้างแรงงานร่วม หรือ CLA
ขณะที่ ทางด้านภาพรวมของท่าเรือหลักในประเทศจีน โดยเฉพาะสองท่าเรือหลัก อย่าง Shanghai (CNSHA) และ Ningbo (CNNGB) กำลังประสบกับปัญหาความหนาแน่น เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนแรงงานในท่าเรือและภาคขนส่ง เรือสินค้าเกิดปัญหาความล่าช้า อย่างน้อย 3 -5 วัน
.
****************
6) ความเคลื่อนไหว ที่ต้องติดตามในรอบสัปดาห์นี้ จะอยู่ที่ ปริมาณงานขนส่งภายหลังประเทศจีนกลับมาเปิดงานอีกครั้ง !!!
.
ความเคลื่อนไหวในรอบสัปดาห์ ที่เราต้องติดตามกัน นั่นคือ สถานการณ์ของประเทศจีนในช่วงกลับมาเปิดงาน หลังการหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีน ซึ่ง ในภาวะปกติของทุกปีในช่วงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
เราจะได้เห็นภาพ งานขนส่งจำนวนมหาศาล ที่ถาโถมออกมาจากประเทศจีน รวมไปถึง อีเมลล์จำนวนไม่น้อย ที่ส่งมาตามงาน
ทันทีในวันแรกที่ประเทศจีนเปิดทำงาน
.
หากแต่ ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศจีน รวมถึงสภาวะทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน หลายคนเริ่มที่จะจับตามมองว่า สถานการณ์ในภาคนำเข้า-ส่งออกของจีนหลังเปิดงานในปีนี้จะเป็นอย่างไร ??? จำนวนงานหรือจำนวนอีเมลล์ที่เคยมหาศาล จะยังคงเหมือนเดิมหรือไม่ ???
.
ทั้งนี้ ก็เนื่องจาก ประเทศจีนเอง เป็นฐานการผลิตที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก ในหลายหมวดหมู่สินค้า ดังนั้น ตัวเลขจำนวนปริมาณงานขนส่ง หรือคำสั่งซื้อที่ออกมาจากประเทศจีน จึงเป็นหนึ่งในดัชนีชี้วัดทิศทางเศรษฐกิจและการค้าของโลกมาโดยตลอด
.
ซึ่งหากจำนวนงาน หรือตัวเลขการสั่งซื้อที่ออกจากประเทศจีนภายหลังเปิดกลับมาทำงานในปีนี้ ไม่เป็นเหมือนเดิมเช่นก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 หรือเมื่อสามปีก่อน
.
นั่นจะหมายถึง ภาวะที่พวกเราทุกคนต้องเตรียมพร้อม ปรับตัวเพื่อรับมือกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังจะมาถึง และจะส่งผลต่อภาคนำเข้า-ส่งออกในไม่ช้า !!!
.
ทั้งหมดที่กล่าวมา คือ การสรุปภาพรวมสถานการณ์ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคการขนส่งสินค้าทางเรือในรอบสัปดาห์ แล้วพบกับพวกเราชาว ZUPPORTS ได้ใหม่ในสัปดาห์หน้า
.
สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน สวัสดีครับ
.
CR : PIC by Port of Ningbo
.
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================
.
สำหรับเพื่อนๆและผู้ประกอบการ ที่กำลังมองหากุนซือที่ปรึกษาข้างกายในโลกของการขนส่ง
.
วันนี้แอดมินขอแนะนำ บริการเสริมสุดพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ ด้วยบริการ “โลจิสติกส์ บริกร” ที่จะคอยเคียงข้างให้คำปรึกษาและตอบทุกคำถาม ที่คาใจในเรื่องการขนส่งแบบส่วนตัว!!!
.
รวมถึงรายงานข่าวสาร ความเคลื่อนไหวในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก แบบที่คุณห้ามพลาด
สนใจในบริการสุดพิเศษนี้ คลิกและลงทะเบียนได้เลยที่
https://forms.gle/PumFkpEWsNbDjQCo6
.
เช็คราคาเฟรทขนส่งทางทะเล เบื้องต้น ได้ง่ายๆไปกับบริการ Freight Rate Trend โดย #ZUPPORTS x #TNSC