[Freight Weekly] : อัพเดตสถานการณ์ขนส่งระหว่างประเทศ ประจำวันที่ 17 – 21 ตุลาคม 2565 กับ ZUPPORTS
สัปดาห์รับลมหนาว เติมความเหงาด้วยการไม่มีชิปเมนต์!!!
.
กลับมาพบกันเหมือนเคยทุกวันจันทร์ กับการรายงานข่าวสาร สถานการณ์ ความเคลื่อนไหวต่างๆ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ภาคการขนส่งสินค้าทางเรือ ตามแบบฉบับ ZUPPORTS !!!
.
สัปดาห์นี้ เป็นการเข้าสู่สัปดาห์ที่ 43 ประจำปี 2565 ซึ่งหากนับกันเล่นๆ เหลือเพียงอีก 10 สัปดาห์เท่านั้น จะสิ้นปี 2565 ก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ปีหน้าฟ้าใหม่ ซึ่งเป็นปีที่หลายคนให้ความกังวลกันพอสมควร กับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่เหล่านักวิเคราะห์ให้ความเห็นกันว่า จะเป็นปีที่สาหัสกว่าปีนี้ !!!
.
โดยหนึ่งในปัญหาหลักที่ทั่วโลกต้องรับมือ นั่นคือภาวะค่าเงินอ่อน !!! อย่างไรเสีย แม้ว่าในภาวะค่าเงินบาทอ่อน จะส่งผลด้านลบและดูเสียเปรียบในฝั่งการนำเข้า ซึ่งจะส่งผลในแง่ต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น หากแต่ในมุมการส่งออก ยังถือว่าเป็นข้อได้เปรียบและเป็นแต้มต่อพอสมควร
.
ซึ่งหากมองภาพรวมบริบทของทั้งโลก และมองย้อนกลับมายังบ้านเราจะพบว่า ยังมีสินค้าอีกหลายหมวดหมู่ที่ยังพอจะเป็นความหวังเนื่องจากยังเป็นที่ต้องการของต่างประเทศอีกมาก อย่างสินค้าในกลุ่มอาหารสด อาหารแปรรูป พืชผลทางการเกษตร รวมถึงกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์และแร่ที่ใช้วัตถุดิบในประเทศ
.
ดังนั้น ในช่วงเวลาที่ภาพรวมเศรษฐกิจโลกอาจดูมืดมนหรือดูไม่แน่นอน การปรับตัวและการไม่หยุดที่จะมองหาโอกาส จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับผู้ประกอบการทุกกลุ่ม รวมถึงพวกเราในวงการทุกคน
.
ทั้งนี้ เมื่อพร้อมกันแล้ว ตามพวกเรามาไล่ดูความเคลื่อนไหวทีละประเด็นกันเลย !!!
.
=========================
ZUPPORTS ควบคุมต้นทุนขนส่งผ่านระบบเปรียบเทียบราคาเฟรทออนไลน์
สนใจลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี ที่ www.ZUPPORTS.co/register
=========================
1) ด้านสถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือหรือการบุ๊คกิ้ง จองเรือไม่ยากแต่ลำบากตอนหารอบเรือที่ถูกใจ
.
เปิดประเด็นกันที่สถานการณ์ในการจองพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือ หรือการบุ๊คกิ้งสำหรับงานใหม่ ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเส้นทางการขนส่ง พื้นที่ระวางยังคงอยู่ในภาวะเปิดกว้าง และยังคงเป็นช่วงเวลาสำหรับผู้ประกอบการยังมีสินค้าหรือมีงานในมือ
.
ภาพรวมการจองเรือในช่วงนี้ หลายสายการเดินเรือยังคงอยู่ในภาวะที่เงียบเหงา บางสายการเดินเรือจำนวนงานหรือการจองเรืองานใหม่หายไปเกินครึ่ง หากเทียบกับช่วงก่อนหน้านี้
.
โดยเฉพาะในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia to North America ทั้ง Transpacific และ Transatlantic รวมถึงในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรป หรือ Asia to Europe Trade ที่พื้นที่ระวางขนส่งยังคงเปิดกว้าง
.
ทั้งนี้ก็เนื่องจากอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่งทางเรือยังหดตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักมาจากสภาวะทางเศรษฐกิจที่อยู่ในช่วงถดถอย โดยเฉพาะในภูมิภาคยุโรปและภูมิภาคอเมริกาเหนือ หากแต่เริ่มมีสัญญาณของพื้นที่ระวางขนส่งและทางเลือกของตารางเดินเรือที่เริ่มหุบแคบลงทุกที
.
ในขณะที่ในบางเส้นทางการขนส่ง ยังคงประสบกับปัญหาอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่ง สูงกว่าอุปทานหรือพื้นที่ระวางขนส่งทางเรือ อย่างในเส้นทางขนส่งระหว่างภูมิภาคยุโรปไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America Trade ทั้งเที่ยว Eastbound และ Westbound
.
รวมถึงเส้นทางกการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาใต้ หรือ Asia- Latin America Trade ที่ยังคงต้องทำการจองเรือล่วงหน้า อย่างน้อย 2-3 สัปดาห์ เนื่องจากพื้นที่ระวางขนส่งมีจำกัด จากภาวการณ์ขาดช่วงของรอบเรือที่ให้บริการ หรือความถี่น้อยลงจาก การประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing
.
ดังนั้นในภาวะปัจจุบัน ผู้ประกอบจำนวนไม่น้อยต่างวิ่งหาตัวแทนรับขนส่งในกลุ่ม NVOCC ทั้ง Freight Forwarder และ BOX Operator เพื่อที่จะหาตัวช่วยในการต่อรองกับสายการเดินเรือ ในส่วนของการหาเรือหรือตารางเรือ ที่ตรงหรือเหมาะกับแผนการผลิตของตน
.
*******
2) ด้านสถานการณ์การหมุนเวียนและจัดหาตู้สินค้า ทุกพื้นที่มีตู้เพียงพอและเกินความต้องการ !!!
.
ทางด้านสถานการณ์ในการหมุนเวียนและจัดหาตู้สินค้า หลายภูมิภาคทั่วโลกยังคงอยู่ในภาวะที่มีตู้สินค้าหล่อเลี้ยงและเกินกว่าอุปสงค์หรือความต้องการในการขนส่งทางเรือ หากแต่มีอีกหลายภูมิภาคที่เข้าสู่ภาวะวิกฤติในการหมุนเวียนและการจัดหาตู้สินค้า
.
ภาพรวมของสถานการณ์การหมุนเวียนตู้สินค้า หลายพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะคล่องตัวหรือเกินความต้องการของตลาดในการขนส่ง ทั้งนี้ก็เนื่องจากภาพรวมทางเศรษฐกิจโลกที่ยังอยู่ภาวะย่ำแย่ ขาดกำลังซื้อ
.
รวมถึงเกิดจากระบบห่วงโซ่อุปทานของสินค้าที่บิดเบี้ยว อันเนื่องจากวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้คำสั่งซื้อจำนวนมากถูกดันและทำการขนส่งไปในช่วงตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
.
หากแต่ในขณะเดียวกัน หลายพื้นที่ในหลายภูมิภาคทั่วโลก เริ่มเข้าสู่ภาวะการขาดแคลนและฝืดเคืองอีกครั้ง เนื่องจากภาวะที่รอบเรือขาดช่วง หรือความถี่น้อยลง ทำให้การหมุนเวียนของตู้สินค้าขาดตอนและไม่คล่องตัว อย่างในภูมิภาคยุโรปตอนล่าง หรือ Mediterranean หลายท่าเรือและหลายเมืองกำลังประสบกับภาวการณ์ขาดแคลน
.
รวมถึงในหลายพื้นที่ที่ไม่ติดทะเล หรือตามท่าแห้ง Port/ ICD/ IPI ต่างที่ยังคงประสบกับปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าสำหรับงานขาออก เนื่องจากปัญหาคอขวดในการลำเลียงหรือขนส่งต่อเนื่องจากเมืองท่า
.
ขณะที่ในบ้านเราเอง ดูเหมือนจะยังคงห่างไกลจากปัญหาการขาดแคลนของตู้สินค้า ทุกสายการเดินเรือยังคงสามารถหมุนเวียนและจัดหาได้อย่างเหลือเฟือ หรืออาจเกินความต้องการเสียด้วยซ้ำ ซึ่งจัดว่าเป็นภาวะที่ตรงข้ามกับช่วงก่อนหน้านี้ หรือช่วงปลายปีที่แล้วแบบสุดขั้ว
.
ซึ่งหลายคนน่าจะยังจำกันได้ ถึงช่วงเวลาที่เราต้องใช้เวลาอย่างน้อย 5 -10 ชั่วโมง เพื่อรอต่อแถวรับตู้เปล่า หากแต่ทุกวันนี้หลายลานแทบจะปล่อยตู้เปล่าแถมให้ เนื่องจากติดปัญหาเรื่องสถานที่ในการจัดวาง
.
หากแต่สิ่งหนึ่งที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง นั่นคือสภาพการจราจรภายในเขตท่าเรือหรือบริเวณลานเก็บตู้ทั้งหลาย โดยเฉพาะในฝั่งชลบุรี แหลมฉบัง ดังนั้นการวางแผนล่วงหน้าสำหรับการปล่อยงาน หรืองานในส่วนฝ่ายปฏิบัติงาน ยังเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับภาคขนส่งบ้านเรา
.
*******
3) ด้านสถานการณ์ตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่ง ถ้ารีบ แนะนำให้ไปทางแอร์ !!!
.
ด้านสถานการณ์ของตารางเดินเรือและระยะเวลาในการขนส่ง ยังอยู่ในภาวะที่ออกทะเลแบบกู่ไม่กลับ และห่างไกลจากความน่าเชื่อถือในช่วงก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือเมื่อสองปีก่อนอยู่มาก
.
โดยปัญหาที่เราๆทุกคนต้องประสบคือ ความไม่แน่นอนและไม่น่าเชื่อถือ ทั้งจากปัญหาความล่าช้าของวันเรือออกและวันเรือถึง หรือ Delay Onboard/ Delay Arrival ,ปัญหาการทิ้งช่วงหรือความถี่ของรอบเรือที่ให้บริการ เริ่มหดน้อยลงจากภาวะการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing
ในช่วงเดือนตุลาคม ถึงขณะนี้ ทุกสายการเดินเรือ มีการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing ในเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia- North America Transpacific รวมกันไปแล้วเกือบ 60 เที่ยวเรือ หรือคิดเป็น ร้อยละ 28 ของจำนวนรอบเรือที่ให้บริการทั้งหมด
.
ในขณะที่เส้นทางการขนส่งการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรปตอนเหนือ หรือ Asia-North Europe ทุกสายการเดินเรือมีการประกาศตารางเรือว่างรวมกันไปแล้ว 24 เที่ยวเรือ หรือคิดเป็น ร้อยละ 21 จากจำนวนรอบเรือทั้งหมด
.
โดยสิ่งที่พวกเราต้องรับมือ ในช่วงสัปดาห์ที่ 43 (17-23 ตุลาคม) ถึง สัปดาห์ที่ 47 (14-20 พฤศจิกายน) นั่นคือ การประกาศตารางเรือว่างหรือ Blank Sailing ถึง เกือบ 70 เที่ยวเรือ ในเส้นทางการขนส่ง จากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia-North America ทั้ง Transpacific และ Transatlantic และ เส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรป ทั้งตอนเหนือและตอนล่าง หรือ Asia-Europe(North and MED)
.
โดยรอบเรือที่มีการประกาศยกเลิกไปนั้น คิดเป็นร้อยละ 10 จากทั้งหมดกว่า 700 เที่ยวเรือ ซึ่งแน่นอนว่ากว่าจะถึงช่วงเวลาเข้าสู่ช่วงเดือนพฤศจิกายน จำนวนตัวเลขรอบเรือที่หายไปจากการปล่อยตารางเรือว่าง จะต้องสูงกว่านี้
.
ดังนั้น ภาวะช่วงนี้ การขนส่งทางเรือจะยังไม่มีวิธีที่ดีนักสำหรับคนที่ต้องการความแน่นอน หรือความเที่ยงตรง โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ด่วนหรือต้องถึงปลายทางตามกำหนดเนื่องจากมีเวลาเส้นตาย
.
*********
4) ด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งทางเรือหรือค่าเฟรท ยังเป็นขาลงต่อเนื่อง แต่ยังลงไม่ทันใจหลายคน
.
ด้านสถานการณ์ค่าระวางขนส่งทางเรือหรือค่าเฟรท ทิศทางของราคาในหลายเส้นทางการขนส่ง จะยังคงอยู่ในช่วงขาลงหากแต่ความชันของกราฟเริ่มที่จะมีความชันน้อยลง
.
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ค่าระวางขนส่งทางเรือ เป็นการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 33 โดยเป็นการปรับตัวลดลงคิดเป็น ร้อยละ 6 จากสัปดาห์ก่อน ดัชนีค่าระวางมาปิดอยู่ที่ USD 3,483 per 40’GP โดยเป็นการปรับตัวลดลงถึง ร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
.
ค่าระวางในหลายเส้นทางขนส่งหลักๆ อย่าง เส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคยุโรป หรือ Asia-Europe และเส้นทางการขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Asia-North America ทั้งเส้น Transpacific และเส้น Transatlantic มีการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
.
รวมถึงเส้นทางการขนส่งภายในภูมิภาคเอเชียเราเอง หรือ Intra Asia Trade อย่างเส้นทางขาเข้าจากประเทศจีนมายังบ้านเรา ที่ราคาค่าระวางยังคงอยู่ในทิศทางการปรับลดลงแบบเห็นได้ชัด เนื่องจากภาวะทางเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคหลัก รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในประเทศจีนและหลายประเทศในภูมิเอเชีย ที่เริ่มชะลอตัว
.
หากแต่หลายเส้นทางขนส่ง ราคาค่าระวางยังคงปิดที่ระดับสูงและมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเส้นทางการขนส่งระหว่างภูมิภาคยุโรปกับภูมิภาคอเมริกาเหนือ หรือ Europe-North America ทั้งเส้นทาง Eastbound และ Westbound
.
รวมถึงบางเส้นทางราคาเริ่มที่จะตรึงแนวไม่ปรับไหลลง ทั้งนี้ก็เนื่องจากภาวะอุปสงค์หรือความต้องการในภาคขนส่ง ยังคงสูงกว่าอุปทานหรือพื้นที่ระวางขนส่ง ที่หดน้อยลง
.
ดังนั้นภาพรวมส่วนใหญ่ของค่าระวางขนส่งในช่วงนี้ ราคาในรูปแบบการต่อรองระยะสั้น หรือ SPOT Rate Shipment จะยังคงต่ำกว่าราคาในรูปแบบการต่อรองระยะยาว หรือ Service Contract NAC/Bullet ประเภทต่างๆ
.
*******
5) ประเด็นด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือทั่วโลก ทุกท่าเรือหลักยังไม่พ้นขีดอันตราย
.
สุดท้าย ประเด็นด้านสถานการณ์ความหนาแน่นของท่าเรือหลักทั่วโลก หลายท่าเรือหลักจะยังคงตกอยู่ในภาวะที่คับคั่งและหนาแน่นไปด้วยตู้สินค้า รวมถึงปริมาณเรือสินค้าที่ต่อแถวเข้าเทียบท่า
.
ภาพรวมในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าเรือหลักๆยังคงต้องประสบกับภาวะความหนาแน่นทั้งจำนวนตู้สินค้าและปริมาณเรือสินค้าที่เข้าเทียบ โดยมีต้นเหตุจากปัญหาคอขวด ทำให้ไม่สามารถทำการไหลต่อตู้สินค้าเข้าสู่ตอนลึกของภูมิภาคได้ รวมถึงหลายท่าเรือในยุโรปเจอซ้ำด้วยปัญหาการนัดหยุดงานของแรงงานในท่า ส่งผลกระทบต่อท่าเรือเพื่อนบ้านข้างเคียง
.
ด้านภาพรวมของท่าเรือหลักทั้งสองฝั่งของประเทศสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคอเมริกาเหนือ อยู่ในภาวะคงที่และทรงตัวไม่ต่างจากสัปดาห์ก่อนมากนัก ท่าเรือหลักฝังตะวันตก หรือ USWC เริ่มมีแนวโน้มความหนาแน่นของจำนวนเรือที่กลับมาต่อแถวรอเทียบ ขณะที่ท่าเรือหลักในด้านตะวันออกหรือ USEC อยู่ในภาวะหนาแน่นอย่างมาก
.
อย่างท่าเรือหลักในฝั่งตะวันออก USEC (USNYC/ USCHS/ USSAV/ USMIA) มีจำนวนเรือรอเทียบท่าและที่เทียบท่ามากกว่า 100 ลำ. โดยเรือสินค้าใช้เวลารอเข้าเทียบ รวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายที่ท่า อยู่ที่ 2-5 วัน. (โดยเฉพาะที่ USSAV มีเรือที่รอเทียบและที่เทียบท่ากว่า 40-45 ลำ โดยเรือใช้เวลารอเข้าเทียบรวมถึงใช้เวลาในการปฏิบัติงานขนถ่ายอยู่ที่ 12-21 วัน).(เฉพาะที่ USNYC มีจำนวนเรือสินค้ารอกว่า 20 ลำ และใช้เวลารอ 10-32 วัน).
.
ทางด้านท่าเรือหลักฝั่งตะวันตก USWC (USSEA/ USTIW/ USOAK ) อยู่ในภาวะทรงตัว โดยมีเรือรอเข้าเทียบและเทียบที่ท่าแล้วประมาณ 40-45 ลำ. และใช้เวลารอเข้าเทียบท่ารวมถึงเวลาในการขนถ่ายอยู่ที่ 5-10 วัน (เฉพาะที่ USOAK ใช้เวลารอเทียบประมาณ 15-18 วัน). ในขณะที่ท่าเรือฝั่งอ่าวหรือ Gulf port MID West อย่าง USHOU ยังตกอยู่ในภาวะหนาแน่น โดยมีจำนวนเรือตู้สินค้าทั้งที่เข้าเทียบแล้วและที่รอเข้าเทียบขนถ่าย เกือบ 70 ลำ โดยใช้เวลารอเทียบอยู่ที่ 17-22 วัน
.
ส่วนทางด้าน สองท่าเรือหลักของสหรัฐอเมริกา อย่าง (USLAX/ USLGB) เริ่มทรงตัวและคงที่ หากแต่เริ่มมีสัญญาณเพิ่มขึ้นของเรือที่เข้าเทียบ โดยมีเรือรอเข้าเทียบท่าอยู่ในรัศมี 25 ไมล์ทะเลประมาณ 35-40 ลำ และใช้เวลารอเทียบท่าอยู่ที่ 9 -12 วัน และตู้สินค้าที่ต้องขึ้นรางต่อ ใช้เวลารอ 14 -18 วัน
.
ทางด้านท่าเรือหลักในภูมิภาคยุโรป อย่าง NLRTM/ DEHAM/ BEANR ยังคงตกอยู่ในภาวะที่ต้องรองรับสินค้าจากท่าเรือของประเทศอังกฤษในช่วงหยุดงาน แต่ยังสามารถบริหารจัดการได้ดี โดยภาพรวมทั้งสามท่าเรือ มีจำนวนเรือสินค้าที่รอเข้าเทียบท่าอยู่รวมกันประมาณ 750-780 ลำ ซึ่งแค่เฉพาะที่ NLRTM มีเรือเทียบท่าขนถ่ายแล้วและที่รอเทียบประมาณ 370 ลำ
.
สุดท้าย สถานการณ์ของท่าเรือหลักต่างๆภายในภูมิภาคเอเชีย หลายท่าเรือ จะยังได้รับผลกระทบจากความแปรปรวนของสภาพอากาศในช่วงหน้ามรสุม รวมถึงต้องรับมือกับสินค้าหลังจากที่ประเทศจีนกลับมาเปิดงานหลังจากหยุดยาว ทำให้ท่าเรือหลักๆ หลายท่ายังมีการสะสมของเรือสินค้าและตู้สินค้าบริเวณท่าเป็นจำนวนมาก
.
โดยท่าเรือหลักฝั่งตะวันออกของประเทศจีน ยังคงมีเรือสินค้าสะสมรอเทียบท่าเพิ่มขึ้น มาจากช่วงที่สภาพอากาศแรปปรวน อย่าง CNSHA ยังคงมีจำนวนเรือสินค้าสะสมที่ท่าและบริเวณโดยรอบ ประมาณ 5,800-5,900 ลำ ส่วนทางด้าน CNNGB เริ่มทำการระบายเรือสินค้าได้บ้างหลังการเปิดงาน โดยมีเรือสินค้าที่รอเทียบท่าขนถ่าย ซึ่งมีจำนวนกว่า 900 ลำ
.
ขณะที่ทางด้านท่าเรือหลักของจีนตอนล่าง อย่าง HKHKG/ CNSHK/ CNYTN ยังคงอยู่ในภาวะคงที่และทรงตัว หากแต่ติดขัดปัญหาการไหลเวียนของตู้สินค้าและเรือสินค้า อันเนื่องจากการล็อคดาวน์ในบางเขตของเมือง Shenzhenและการจำกัดปริมาณรถขนส่งที่ข้ามพรมแดนระหว่าง Hong Kong
.
โดยทั้งสามท่าเรือ มีเรือสินค้ามีเรือสะสมอยู่โดยรอบ มากกว่า 1,000 ลำ โดยเฉพาะที่ HKHKG มีจำนวนเรือสินค้าอยู่บริเวณท่าและที่รอเทียบท่าประมาณ กว่า 900 ลำ
.
*******
6) สถานการณ์และความเคลื่อนไหวที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ ยังเป็นเรื่องของทิศทางค่าระวางขนส่งและปัญหาความไม่นิ่งของตารางเดินเรือ
.
ความเคลื่อนไหว รวมถึงสถานการณ์ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ที่เรายังต้องติดตามในสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของทิศทางค่าระวางขนส่งทางเรือ หรือค่าเฟรท ซึ่งนับวันยิ่งลดเพดานต่ำลงเรื่อยๆ จนในบางเส้นทางเกือบจะลงไปแตะเท่ากับช่วงก่อนหน้าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
หลายคนจึงเริ่มที่จะเห็นโอกาสและคาดหวังว่า ในคลื่นมรสุมทางเศรษฐกิจลูกใหม่จะยังพอมีโอกาสซ่อนอยู่ ในเรื่องของต้นทุนค่าระวางที่อาจต่ำกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ซึ่งไม่ผิดแปลกในความคาดหวังที่จะได้เห็นค่าระวางลงต่ำแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
.
ซึ่งในทางสภาพตลาดขนส่งทางเรือ มันก็มีหลายเส้นทางขนส่งที่เริ่มเห็นสัญญาณการปรับลงแรง อันเนื่องจากความเงียบเหงาของสภาพตลาด หากแต่สิ่งที่เราต้องไม่ลืมนั่นคือภาวะกลไกของราคาค่าระวางทางเรือ ที่มันมีความซับซ้อนของปัจจัยต่างๆเป็นตัวกำกับทิศทางขึ้นลง
.
และหนึ่งในปัจจัยที่ว่าก็คือภาวะความสมดุลของพื้นที่ระวางขนส่ง ซึ่งถูกกำหนดโดยสายการเดินเรือ โดยหนึ่งในเครื่องมือที่สายการเดินเรือใช้ในการรักษาสมดุล นั่นคือการลดพื้นที่ระวางขนส่ง ด้วยการประกาศตารางเรือว่าง หรือ Blank Sailing รวมถึงการยกเลิกในบางเส้นทางบริการ
.
อย่างช่วงที่ผ่านมา มีอย่างน้อย 4 สายการเดินเรือ ไม่ว่าจะเป็น Maersk, MSC, CMA-CGM และ CU Line ที่มีแผนการหุบหรือยุบในบางเส้นทางที่ทับซ้อน หรือสามารถยุบเส้นทางรวมกันได้ สำหรับเส้นทางขนส่งจากภูมิภาคเอเชียไปยังภูมิภาคอเมริกาเหนือทั้งสองฝั่ง
.
ซึ่งนั้นหมายถึงอุปทานหรือพื้นที่ระวางในท้องน้ำจะทยอยหดแคบลงไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเกิดความสมดุลกับอุปสงค์ของตลาด
.
ทั้งหมดที่กล่าวมานั้น คือภาพรวมสถานการณ์ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมถึงแนวโน้มและทิศทางของสัปดาห์นี้ ในแวดวงการนำเข้า-ส่งออก ในภาคของการขนส่งสินค้าทางเรือ ตามแบบฉบับของพวกเราชาว ZUPPORTS
.
สัปดาห์นี้ขอลาไปก่อน ขอบุญรักษาทุกท่าน สวัสดีครับ.
.
CR: PIC by H. Zell
.
=========================
ไม่พลาดทุกข่าวสาร วงการขนส่งระหว่างประเทศ นำเข้า ส่งออก เข้าร่วมกลุ่มที่ https://bit.ly/3seJRLk
=========================
ข่าวดี! ผู้นำเข้าส่งออก มองหาวิธีลดต้นทุนขนส่ง
.
แอดมินขอแนะนำแพลตฟอร์ม ZUPPORTS รวบรวมพันธมิตรผู้ให้บริการขนส่งชั้นนำ กว่า 30 บริษัท สามารถเช็คราคาและจองขนส่งกันได้ง่ายๆ
.
และช่วงนี้มีโปรโมชั่น ผู้ส่งออก ร่วมกันจองขนส่งทางทะเล ไปสหรัฐอเมริกา มีเรทพิเศษ ช่วยลดต้นทุนกันได้แน่นอน สนใจลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้เลยที่
.
เช็คราคาเฟรทขนส่งทางทะเล เบื้องต้น ได้ง่ายๆไปกับบริการ Freight Rate Trend โดย #ZUPPORTS x #TNSC