Drewry ประเมินค่าระวางขนส่งสินค้าจะยังคงสูงในปีหน้า (สูงกว่าช่วงก่อน โควิด-19)

Drewry ประเมินค่าระวางขนส่งสินค้าจะยังคงสูงในปีหน้า (สูงกว่าช่วงก่อน โควิด-19) ต้องระวังปัจจัยอะไรบ้าง

.

แม้ว่าในปีหน้าจะมี Supply เรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ปริมาณรวม 3 ล้าน TEU เข้าสู่ตลาด แต่อุปทานใหม่นี้อาจไม่เพียงพอที่จะชดเชยกับปัญหาความปั่นป่วนใน Supply Chain ที่ยังคงมีอยู๋ได้

.

ทำให้ Drewry คาดการณ์ว่า ค่าระวางขนส่งปี 2025 ยังอยู่ในแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น

.

สถานการณ์ที่ต้องเฝ้าติดตามในปีหน้า ที่จะมีกระทบค่าระวางขนส่งระหว่างประเทศ หรือค่าเฟรท มีอะไรบ้าง หากพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย

=========================

ไม่พลาด ข่าวสารการค้าระหว่างประเทศ

ติดตามเพจ นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า

=========================

1)การประท้วงของแรงงาน ที่ท่าเรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ

ถึงแม้จะตกลงเรื่องการเพิ่มค่าแรงกันได้ แต่ยังต้องเจรจาเรื่องการ (ไม่) ใช้ Automation หรือระบบอัตโนมัติที่ท่าเรือกันอีก ที่ยังไม่แน่นอนในขณะนี้ ซึ่งหากเจรจากันไม่ได้ภายใน 15 มกราคม 2025 เกิดนัดหยุดงานอีกรอบ ก็จะทำให้ค่าระวางเพิ่มสูงขึ้นทั้งในเส้นทางขนส่งที่เชื่อมต่อกับสหรัฐฯ และในเส้นทางอื่นๆ

.

2)ภาษีการปล่อยคาร์บอน ETS (Emission Trading System)

ภาษีคาร์บอน จะเป็นอีกแรงกดดันหนึ่งโดย จะเพิ่มขึ้น 75% ในเดือนมกราคม 2025 จะเป็นแรงกดดันให้ค่าระวางขนส่งเพิ่มขึ้น

.

3)การหยุดชะงักของเส้นทางผ่านแหลมกู๊ดโฮป

ทาง Drewry คาดว่าจะดำเนินต่อไปจนถึงปี 2026

.

4)นอกจากนี้ การปรับโครงสร้างพันธมิตรการเดินเรือในปีหน้าอาจสร้างความยุ่งยากเพิ่มเติม โดยให้ติดตามทั้ง MSC, Gemini ที่อาจเผชิญกับปัญหาความล่าช้าและการเชื่อมต่อที่ขาดหาย

.

ทั้งนี้สถานการณ์ภาพรวมในสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ต้องบอกว่าค่าระวางเฟรท ยังปรับตัวลงต่อเนื่อง จากความคลี่คลายใน Supply Chain และการนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลง เนื่องจากเร่งนำเข้าไปเยอะมาก ก่อนหน้านี้แล้ว (Peak Season มาล่วงหน้าแล้ว)

.

โดยดัชนี Drewry World Container Index (WCI) ในสัปดาห์นี้ยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยลดลงเหลือ 3,216 ดอลลาร์สหรัฐต่อ FEU โดยแสดงให้เห็นว่าเส้นทางผ่านแหลมกู๊ดโฮปได้กลายเป็นเส้นทางปกติ นอกจากนี้ ปริมาณเรือขนส่งใหม่ที่เข้าสู่ตลาดยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการประท้วงของคนงานท่าเรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไปจนถึงเดือนมกราคม

 

.

หากอัตราค่าระวางยังคงลดลง อาจลดต่ำกว่า 2,706 ดอลลาร์สหรัฐต่อ FEU ซึ่งเป็นราคาในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ในขณะที่เส้นทางขนส่งระหว่างเซี่ยงไฮ้-เจนัว ลดลงมากที่สุดถึง 9% ตามมาด้วยเส้นทางเซี่ยงไฮ้-รอตเตอร์ดัมที่ลดลง 6%

.

อย่างไรก็ตาม ดัชนีรวมยังคงสูงกว่าค่าเฉลี่ยก่อนการระบาดของโรคในปี 2019 อยู่ถึง 126% และคาดว่าแนวโน้มนี้จะยังคงอยู่ต่อไปตามการวิเคราะห์ของ Drewry ที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ โดย Phillip Damas คาดการณ์ว่า แม้จะไม่มีการประท้วงที่ท่าเรือสหรัฐฯ ในเดือนมกราคม อัตราค่าระวางก็จะยังคงสูงกว่าระดับก่อนการระบาด

.

นอกจากนี้ ข้อมูลจาก Linerlytica ยังระบุว่าความแออัดของเรือที่ท่าเรือฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ได้ลดลง และคาดว่าการขนส่งที่เร่งในช่วงฤดูกาลสูงสุดกลับจะลดลงอย่างมาก เนื่องจากความต้องการลดลง ขณะเดียวกันปริมาณเรือขนส่งใหม่ยังคงท่วมท้นตลาด

.

อีกปัจจัยที่ต้องเฝ้าติดตามก็คือ ผลเลือกตั้งประธานธิบดีของสหรัฐอเมริกา ซึ่งล่าสุด ทาง Trump เอง เหมือนจะนำอยู่ และก็มีการประกาศว่าจะชึ้นภาษีนำเข้า จากจีน จาก 20% เป็น 60% เลยทีเดียว และขึ้นภาษีนำเข้าจากประเทศอื่นๆ 20%! งานนี้ไม่ใช่แค่ค่าเฟรท แต่กระทบต้นทุนการค้าขายระหว่างประเทศ ก้อนใหญ่ ก็คือภาษีนำเข้า!!

.

สถานการณ์จะเป็นอย่างไร ผู้ประกอบการ ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด…

=========================

ไม่พลาด ข่าวสารการค้าระหว่างประเทศ

ติดตามเพจ นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า

=========================

อัพเดตข้อมูล Carbon Tax และ ETS ที่จะกระทบต้นทุนแน่ๆ ในงาน เสวนาออนไลน์

“TNSC Go Together Digital Day for Executives” [ไม่มีค่าใช้จ่าย]

.

ในงานพบกับเครื่องมือดิจิทัล และ AI ที่จะมาช่วยทุกบริษัทในการเพิ่มรายได้, เพิ่มประสิทธิภาพ, Lean and Green Supply Chain

ล่าสุดมีลงทะเบียนมามากกว่า 150 บริษัท!

ทางทีมงานเลยปรับระบบ Zoom ให้รองรับได้เพิ่มขึ้น ได้อีกเพียง 50 ที่นั่งสุดท้าย เท่านั้น!!

.

ท่านใดสนใจอย่ารอช้า รีบสมัครเข้ามาได้เลย

ลงทะเบียนได้ที่

https://bit.ly/3UiGO2B

.

แล้วพบกันในงานสัมมนาออนไลน์ผ่านระบบ Zoom ในวันพฤหัสบดี ที่ 24 ตุลาคม 2567 เวลา 13.20 – 16.30 น.

ข่าวสารอื่นๆ