ZUPPORTS 101: Reefer Container อาวุธลับของการส่งออกผลไม้ไทย

ZUPPORTS 101: Reefer Container อาวุธลับของการส่งออกผลไม้ไทย x LEO Global

เข้าสู่ปลายมีนาคม ถึงพฤษภาคม ของทุกปี วงการนำเข้าส่งออกต่างรู้กันดีว่า…ถึงเวลา “ฤดูผลไม้ไทย” โดยเฉพาะ ทุเรียนหมอนทอง ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นทั้งราชาแห่งผลไม้และสินค้าส่งออกทำเงิน

และสินค้าผลไม้สดแบบนี้แหละ ที่มักต้องใช้บริการ Reefer Container หรือตู้คอนเทนเนอร์แบบควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งไม่ใช่ตู้ธรรมดาๆ

 

เพราะมันคือสนามสอบประสบการณ์ของคนโลจิสติกส์ตัวจริง!

รายละเอียด Reefer Container หรือเรียกง่ายๆ ว่า “ตู้ Reefer” จะเป็นอย่างไร

หากพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย

=========================

ผู้นำเข้าส่งออก เช็คราคาขนส่งระหว่างประเทศ

ครอบคลุม 60 ท่าเรือหลักทั่วโลก

แถมเช็คราคา Cross-trade ประเทศที่ไม่ใช่ไทยได้ด้วย

สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3B5yRY8

=========================

 

Reefer Container คืออะไร?

Reefer ย่อมาจาก Refrigerated Container ตู้คอนเทนเนอร์ชนิดพิเศษที่ออกแบบมาให้รักษาอุณหภูมิภายในแบบควบคุมได้ตั้งแต่ -25°C ไปจนถึง +25°C (บางรุ่นพิเศษทำได้ถึง -60°C อย่าง Super Freezer)

สินค้าเป้าหมายของ Reefer Container มีอยู่ 2-3 กลุ่มหลัก:

  • Frozen Cargo (สินค้าแช่แข็ง) – เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล
  • Chilled Cargo (สินค้าแช่เย็น) – เช่น ผลไม้ ผักสด
  • และ Cooled Cargo – ที่บางบริษัทแยกออกมาต่างหาก เช่น สินค้าที่ต้องการความเย็นคงที่แต่ไม่ถึงขั้นแช่

 


 

ผลไม้ไทย…ส่งออกได้ต้องรู้ “อุณหภูมิ”

จากข้อมูลของ ZUPPORTS ในปีหนึ่ง ประเทศไทยส่งออกผลไม้สดมูลค่ากว่า 3 แสนล้านบาท โดยมีทุเรียนเพียงอย่างเดียวทำเงินได้กว่า 1.1 แสนล้านบาท หรือ 37% ของทั้งหมด ส่วนอีก 63% คือผลไม้อื่นๆ เช่น มังคุด ลำไย ลิ้นจี่ มะม่วง กล้วย และอีกมากมาย

แต่ละชนิด มีอุณหภูมิการขนส่งที่ “เฉพาะเจาะจง”
ตั้งผิดนิดเดียว เสียหายทั้งตู้!

ตัวอย่างการตั้งค่าอุณหภูมิใน Reefer Container สำหรับผลไม้ไทย ได้แก่:

🔥 ผลไม้ฤดูร้อน (กุมภาพันธ์ – พฤษภาคม)

  • ทุเรียน: 13-15°C
  • แก้วมังกร: 7°C

🌧 ผลไม้ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม)

  • เงาะ: 10-12°C
  • มังคุด: 13 °C

❄️ ผลไม้ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – มกราคม)

  • สตรอว์เบอร์รี: 0-1°C
  • มะขาม: 7°C

เห็นได้ชัดว่า ไม่ใช่แค่เย็นหรือไม่เย็น…แต่ต้อง “พอดี” เท่านั้นถึงจะรักษาคุณภาพสินค้าไว้ได้


การขนส่งผลไม้ด้วย Reefer: งานที่ไม่ได้มีแค่ความเย็น

แม้ตู้ Reefer จะดูเหมือนแค่ “ตู้เย็นขนาดใหญ่” แต่ความจริงคือมันซับซ้อนกว่านั้นหลายเท่า โดยเฉพาะหากคุณต้องขนส่งผลไม้สดไปต่างประเทศในระยะทางหลายพันกิโลเมตร

สิ่งที่ต้องพิจารณาในการส่งออกด้วย Reefer Container ได้แก่:

  • Pre-Cooling: ต้องทำความเย็นให้กับตัวสินค้าก่อนเข้า Reefer ไม่ใช่ใส่ของร้อนๆ แล้วหวังให้ตู้เย็นทัน
  • Ventilation Setting: โดยเฉพาะกับผลไม้ที่ยังหายใจ (Respiration) เช่น กล้วย หรือมะม่วง ต้องตั้งค่า Open Air เป็น % หรือ CMH (Cubic Meter per Hour) ให้เหมาะสม
  • Humidity Control: ความชื้นที่มากหรือน้อยเกินไป ส่งผลต่อความสดของสินค้า
  • ระยะเวลาและเส้นทางเดินเรือ: ต้องวางแผนเผื่อ Delay เพราะสินค้าประเภทนี้ “ไม่รอใคร”

 


ความเสี่ยงที่มากับความเย็น

มีกรณีตัวอย่างที่หลายคนในวงการขนส่งยังพูดถึงจนถึงวันนี้ เช่น การส่ง ทุเรียนหมอนทอง ไปยังท่าเรือเซี่ยงไฮ้ แต่ระหว่างทางตู้ Reefer เสีย…อุณหภูมิพุ่งขึ้น +30°C แถมเจอ Delay เพิ่มอีก 3 วัน

ผลลัพธ์คือ ทุเรียนทั้งหมด “สุกเกินไป” จนไม่สามารถขายแบบสดได้ ต้องเปลี่ยนมุมเป็น “ทุเรียนกวน” ทั้งล็อต!

 


Tips สำหรับมือใหม่สายเฟรท

  • Reefer ไม่ใช่ตู้เย็นบ้าน อย่าเข้าใจผิดว่าใส่ผลไม้สดลงไปแล้วจะเย็นเอง ต้อง Pre-Cool สินค้าให้ได้อุณหภูมิที่ต้องการก่อนเสมอ
  • เลือกตู้ให้เหมาะกับสินค้า ถ้าต้องการอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ เช่น -35°C ควรแจ้งผู้ให้บริการหาตู้ Magnum Reefer
  • จดจำว่า… “ผิดนิดเดียว เจ๊งทั้งล็อต”

 


ส่งออกด้วยตู้ Reefer ต้องเลือกใช้บริการ “มืออาชีพ”

แต่คือการบริหารความเสี่ยง และพิสูจน์ความมืออาชีพอย่างแท้จริงในโลกโลจิสติกส์

ใครที่มองว่าการส่งออกด้วย Reefer Container เป็นแค่ “งานเพิ่มราคา” อาจต้องคิดใหม่ เพราะในหลายกรณี นี่คือ “ตัวเปลี่ยนเกม” ที่ทำให้ธุรกิจไทยไปได้ไกลกว่าคู่แข่งในตลาดโลก

 


การส่งออกทางราง (Rail Freight) ทางเลือกใหม่ ทดแทนการขนส่งทางทะเลกับ LEO Global Logistics

เพื่อนๆ ผู้ส่งออก อาจคุ้นเคยกับการขนส่งทางทะเลด้วยตู้ Reefer แต่รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบัน ได้มีการใช้ Reefer Container บนเส้นทางขนส่งทางราง (Rail Freight) ให้บริการโดยบริษัท LEO Global Logistics (อย่าสับสันกับเบียร์ LEO นะ อันนี้ LEO Global ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจร ลำดับต้นๆ ของประเทศไทย)

LEO คือทางเลือกที่ลงตัว

สำหรับการส่งออกผลไม้สดจากไทยไปจีนในยุคที่ “ค่าขนส่งแพง เรือดีเลย์ ด่านแออัด”

 

การส่งทางรางกับ LEO มีข้อดีคือ

✅ มีตารางการขนส่งทางรถไฟที่แน่นอน

✅ บริการตู้คอนเทนเนอร์ทั้งตู้ธรรมดา (Dry) และตู้ที่ควบคุมอุณหภูมิ (Reefer)

✅ ให้คำปรึกษาและเป็นตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร

✅ ขนส่งสินค้าไปในหลายเมืองหลักของจีน เช่น คุนหมิง เฉิงตู ฉงชิ่ง ฯลฯ

✅ ทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์ ดูแลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง

📦 ถึงจีนไว ส่งผลไม้สดได้ตรงฤดูกาล สร้างความประทับใจให้ลูกค้าปลายทาง ให้เราเป็นพาร์ตเนอร์ขนส่งที่คุณไว้ใจได้ทุกฤดูกาล

💚 ส่งผลไม้จากไทยไปถึงจุดศูนย์กลางของประเทศจีน ไม่ต้องรอตารางเรือ

📞 เพื่อนๆ สนใจลองโทรไปสอบถามรายละเอียดที่ 02 079 9888

หรือเช็คข้อมูลที่

https://www.facebook.com/photo?fbid=1562092041705617&set=a.783213232926839

https://leogloballogistics.com/th/

(บอกว่ามาจาก ZUPPORTS แนะนำมาด้วยนะ เผื่อได้ promotion ดีๆ)

 

=========================

ผู้นำเข้าส่งออก เช็คราคาขนส่งระหว่างประเทศ

ครอบคลุม 60 ท่าเรือหลักทั่วโลก

แถมเช็คราคา Cross-trade ประเทศที่ไม่ใช่ไทยได้ด้วย

สนใจลงทะเบียน https://bit.ly/3B5yRY8

=========================

 

📍 ขอแนะนำ สำหรับ ZUPPORTS Club

Facebook กลุ่มปิด รับชมคลิป Webinar ของ ZUPPORTS เช่น  การตีความพิกัดศุลกากร (HS CODE) และการ Post Audit, Update สถานการณ์เฟรท แบบ Exclusive, พร้อมการ Networking กันในกลุ่มสมาชิก

🧭 เปิดให้สมัครสมาชิกแล้ววันนี้ ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3F33miZ

.

พิเศษ! ZUPPORTS POST

กลุ่มไลน์ Openchat สำหรับ คนในวงการ นำเข้า ส่งออก เข้ามาสอบถามข้อมูล ติดตามข่าวการค้า การขนส่งระหว่างประเทศกันได้ที่ https://bit.ly/3seJRLk

 

ข่าวสารอื่นๆ